การจัดกระบวนการเรียนรู้การฝึกตัวผ่านเสนาสนวัตร
วัดทุกวัดเป็นสมบัติที่ยกถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราดูแลรักษาดีเท่าไร ก็ได้บุญมากเท่านั้น การจัดกระบวนการเรียนรู้การฝึกตัวผ่านเสนาสนวัตร จึงใช้ปัญญาวุฑฒิสูตรเป็นพระสูตรแม่บท ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
๑. คบสัตบุรุษ
๒. ฟังพระสัทธรรม
๓. ตรองธรรมโดยแยบคาย
๔. ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
การจัดกระบวนการเรียนรู้การฝึกตัวนี้ให้ทำด้วยเมตตาจิต โดยพูดถ้อยคำไพเราะ สละสลวย ไม่หยาบคาย ไม่แสลงใจ ประกอบด้วยเหตุผลตามหลักธรรมและหลักวิชาการ ชี้แจงหลักธรรม ๔ ข้อ คือ สัมมาทิฏฐิ สติสัมปะชัญญะ สังเกตพิจารณา และปฏิบัติด้วยความสำรวม พร้อมทั้งใช้ลีลาการสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนี้
๑. ชี้แจงขั้นตอน ชี้แจงวิธีปฏิบัติให้เห็นชัด : สันทัสสกา
๒. ชวนใจให้อยากปฏิบัติ : สมาทปกา
๓. เร้าใจให้อาจหาญปฏิบัติ : สมุตเตชกา
๔. ชโลมใจให้สดชื่นร่าเริง : สัมปหังสกา
ขั้นตอนที่ ๑ คบสัตบุรุษ
วัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่ได้โอกาสฝึกตน สมกับเป็นบรรพชิตในเรื่องต่อไปนี้
๑) มีสัมมาทิฏฐิ
๒) ฝึกสติสัมปชัญญะ
๓) ฝึกความช่างสังเกต พิจารณา
๔) ฝึกความสำรวมกาย วาจา อาชีพ ใจ
๕) ฝึกการทำงานเป็นทีม สมกับคำว่า สังฆะ
วิธีการปฏิบัติ
๑.๑ แบ่งพระใหม่เป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๓๐-๔๐ รูปต่อพระพี่เลี้ยง ๔-๕ รูป
๑.๒ พระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง ทำความรู้จัก สาธิต นำฝึก และทำให้ดูเป็นแบบอย่าง
๑.๓ พระพี่เลี้ยงบอก อธิบาย หลักการ วัตถุประสงค์การฝึกเสนาสนวัตร ชี้คุณโทษ การปฏิบัติเสนาสนวัตร ๓๑ ข้อ ตามมาตรฐานพระธรรมวินัย เปิดโอกาสให้ซักถามเหตุผล และนำมาทดลองปฏิบัติแบบที่ถูกและผิด เพื่อให้เห็นคุณ-โทษ และเป็นส่วนสนับสนุน ศีล ๒๒๗ ข้อ ให้มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ให้ช่วยกันบอกในสิ่งที่ปฏิบัติว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว อธิบายเชื่อมโยงถึงหลักธรรม เช่น อริยมรรคมีองค์ ๘ กฎแห่งกรรม ฆราวาสธรรม คณกโมคัลลานสูตร สัมมาทิฏฐิ
ตัวอย่างเช่น ทานมีผล คือการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน สิ่งที่ควรให้ เป็นกรรมดี มีผลจริงคือมีผลชาตินี้ ชาติหน้าและชาติต่อ ๆ ไป สิ่งที่ควรให้ ได้แก่ให้สิ่งของ ให้ความสะอาด ให้ความปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่เกิดการติดเชื้อโรคจากฝุ่นละออง ให้ความสบายกาย สบายใจ ทำให้อารมณ์ดีเพราะ
- ๑) ความแข็งแรงของกายมนุษย์ เป็นอุปกรณ์สำคัญยิ่งของการสร้างบารมี
- ๒) ความสกปรกทำให้เกิดการติดเชื้อโรค ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
- ๓) ความสะอาด ความเป็นระเบียบ และการมีสุขภาพดี ทำให้การสร้างบารมีเป็นไปอย่างมีความสุข
- ๔) ทำให้ใจสบาย ปลอดกังวล ไม่มีสิ่งใดที่จะตำหนิตนเอง ไม่มีอะไรผุดมาติดในใจ ไม่มีอะไรหน่วงใจ ส่งผลให้ใจนุ่มนวล จึงเหมาะแก่การทำใจหยุดใจนิ่ง
๑.๔ บอก กล่าว เล่า อธิบาย คำสอนของมหาปูชนียาจารย์และครูบาอาจารย์ หลวงพ่อธมฺมชโย หลวงพ่อทตฺตชีโว เกี่ยวกับความสะอาด จัดระเบียบ เพื่อยึดถือเป็นมาตรฐานในการทำงานด้านอื่น ๆอย่างเป็นขั้น เป็นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ ๒ ฟังพระสัทธรรม
วัตถุประสงค์ เพื่อให้รู้ชัดปฐมบัญญัติ รู้ชัดขั้นตอนการปฏิบัติและเหตุผล
วิธีการปฏิบัติ พระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง พระธรรมทายาท และพระนวกะ อ่าน อธิบาย วิเคราะห์ ซักถามจนเข้าใจ รู้ชัด เสนาสนวัตรในหัวข้อต่อไปนี้
๒.๑ ปฐมบัญญัติเสนาสนวัตร
๒.๒ ความประพฤติการใช้-รักษาเสนาสนะของพระภิกษุ
๒.๓ ระดับความประพฤติการใช้รักษาเสนาสนะของพระภิกษุ
๒.๔ บทฝึกเสนาสนวัตร เพื่อการบรรลุธรรม
ขั้นตอนที่ ๓ ตรองธรรมโดยแยบคาย
วัตถุประสงค์ ฝึกคิด พิจารณาไตร่ตรองเหตุผล จนรู้ชัดด้วยใจตนเอง
วิธีการปฏิบัติ
๓.๑ นำการปฏิบัติในขั้นตอนที่ ๑ มาประชุมกลุ่มเพื่อให้ได้คิดพิจารณาเหตุผลตามที่ระบุในบทฝึกเสนาสนวัตร
๓.๒ เปิดโอกาสให้ซักถามจนเข้าใจ
๓.๓ ข้อควรระวัง
- อุบัติเหตุทางธรรม ต้องทำด้วยจิตเมตตา เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง หมู่คณะและศรัทธาญาติโยม
- อุบัติเหตุทางใจ เสนาสนวัตรไม่ใช่งานของคนรับใช้
- อุบัติเหตุทางกาย ระวังอุบัติเหตุ และการติดเชื้อความไม่สะอาดจากเสนาสนะ
ขั้นตอนที่ ๔ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
วัตถุประสงค์ เพื่อปฏิบัติเสนาสนวัตรด้วยตนเองจนมี สัมมาทิฏฐิ มีสติสัมปชัญญะ มีความช่างสังเกตพิจารณา และความสำรวมกาย-วาจาใจ
วิธีการปฏิบัติ
๔.๑ ปฏิบัติเสนาสนวัตรในชีวิตประจำวัน ภายใต้การดูแลแนะนำของพระพี่เลี้ยงในกลุ่ม โดยเน้น
- ๑) เห็นความสกปรกที่ใด สิ่งใด ให้ทำความสะอาดทันทีโดยไม่มีข้อแม้
- ๒) วางของ ณ ที่ควร
- ๓) ยก หยิบ วางของ ไม่ครูดสีและไม่กระแทก
- ๔) อาปุจฉา ทั้งภันเต และอาวุโส
- ๕) เดินคล้อยตามเมื่อจงกรม
โดยปฏิบัติอย่างมีสติสัมปชัญญะ สังเกต สำรวม รู้เหตุผลการปฏิบัติ
๔.๒ ปฏิบัติเสนาสนวัตรโดยร่วมกันออกไปพัฒนาวัด ตามที่ได้รับมอบหมาย
แล้วนำผลการปฏิบัติข้อ ๔.๑ และ ๔.๒ มาอภิปรายซักถาม เพื่อวางแผนการทำงาน ให้รัดกุมยิ่งๆ ขึ้นไป
๔.๓ เมื่อปฏิบัติแล้ว ให้มาประชุมแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมกับประเมินตัวเองว่าทำได้ตามมาตรฐานพระธรรมวินัยหรือไม่ โดยใช้เกณฑ์ระดับความประพฤติการใช้-รักษาเสนาสนะของพระภิกษุ เพื่อให้รู้จักสังเกต จับอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ของตนเอง ขณะปฏิบัติ
๔.๔ จากนั้นเพิ่มระดับการปฏิบัติเสนาสนวัตร จากพระกำลังฝึกตัว เป็นพระตั้งใจฝึกตัว เป็นพระต้นแบบ ฝึกปฏิบัติตามระดับความประพฤติการใช้-รักษาเสนาสนะของพระภิกษุ จากนั้นทบทวนและประเมินตัวเองว่า ทำได้ตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ และเรียนถามพระพี่เลี้ยง ถึงแนวทางการปฏิบัติให้สำรวมระวังยิ่ง ๆ ขึ้นไป
การติดตามให้กำลังใจการฝึกตัวผ่านเสนาสนวัตร
การติดตามให้กำลังใจในระดับรายบุคคล
ให้แต่ละรูปพิจารณาการปฏิบัติเสนาสนวัตรของตนเองว่า
๓) ปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัยหรือไม่
๒) อารมณ์ขณะปฏิบัติเป็นอย่างไร
๓) ใจอยู่ที่ไหนขณะปฏิบัติ
๔) รู้เหตุผลการปฏิบัติจากความจำ หรือการไตร่ตรองแบบโยนิโสมนสิการ หรือจากความสว่างภายในตัว
การพิจารณาตนทั้ง ๔ หัวข้อนี้เพื่อหาข้อดี ข้อบกพร่อง ที่ตนต้องเร่งพัฒนา ปรับปรุง เพราะความผิดพลาดของเรา เราพึงเห็นและพัฒนาเป็นคนแรกก่อนคนอื่นเสมอ โดยปฏิบัติดังนี้
๑. เขียนบอก ความยอดเยี่ยม (The Best) หรือสิ่งที่ต้องปรับปรุง แก้ไขโดยพิจารณา ไตร่ตรองการปฏิบัติเสนาสนวัตรของตนเอง
๒. เขียน บอก หรือออกมาเล่าให้หมู่คณะฟังว่า ตนเองมีวิธีสร้างกำลังใจการปฏิบัติเสนาสนวัตรให้ได้อย่างยอดเยี่ยมตามมาตรฐานพระธรรมวินัยได้อย่างไร
การติดตามให้กำลังใจในระดับกลุ่ม
พระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงนำพระธรรมทายาทเดินตรวจเสนาสนะ แล้วบอก อธิบาย ข้อดีที่น่าภาคภูมิใจ ข้อควรพัฒนา พร้อมบอกเหตุผลว่า ทำอย่างไรจึงจะพัฒนาตนเองให้ถึงเกณฑ์มาตรฐานตามพระธรรมวินัย พร้อมเปิดโอกาสให้ซักถาม
การติดตามให้กำลังใจในระดับโครงการ
๑. พระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงพาพระธรรมทายาทเดินตรวจเสนาสนะ แล้วบอก อธิบาย ข้อดีที่น่าภาคภูมิใจ ข้อควรพัฒนา พร้อมบอกเหตุผลว่า ทำอย่างไรจึงจะพัฒนาตนเองให้ถึงเกณฑ์มาตรฐานตามพระธรรมวินัย พร้อมเปิดโอกาสให้ซักถาม
๒. ถ่ายวีดีโอ ๑-๓ นาที่ ส่งถวายหลวงพ่อ พร้อมรับคำแนะนำจากหลวงพ่อ
๓. ประธานแต่ละโครงการอบรมหมุนเวียนกันมาเยี่ยมชมให้กำลังใจ แลกเปลี่ยน ให้คำแนะนำ
๔. นิมนต์หลวงพ่อ หรือพระมหาเถระ ไปเยี่ยมชม ชื่นชม ติติง ในบางโอกาส โดยไม่บอกล่วงหน้า
การประเมินผลการฝึกตัวผ่านเสนาสนวัตร
๑. สิ่งที่จะประเมิน : ผลการฝึกตัวตามเสนาสนวัตร
๒. เกณฑ์การประเมิน
๒.๑ การเรียนรู้
- ๒.๑.๑ มีสัมมาทิฏฐิ มีสติสัมปชัญญะ มีความช่างสังเกตมีความสำรวม มีความเป็นทีม หรือไม่
- ๒.๑.๒ เป็นผู้ถือธรรม หรือถืออารมณ์ หรือถือความเคยขึ้นเป็นใหญ่
- ๒.๑.๓ ให้เขียนจากความเป็นจริงว่า เมื่อก่อนบวชมีการปฏิบัติต่อเสนาสนะอย่างไร หลังการบวชได้รับการฝึกเสนาสนวัตรแล้วตนเองปฏิบัติต่อเสนาสนะอย่างไร และเปรียบเทียบความแตกต่างทางด้านอารมณ์ และทัศนคติทั้งก่อนบวช และหลังการฝึกเสนาสนวัตรแล้วด้วย
๒.๒ เสนาสนะ และอุปกรณ์ : บริเวณภายนอกและภายในสะอาดเป็นระเบียบ ตลอดเวลา
๒.๓ ความประพฤติการใช้เสนาสนะ : พิจารณาว่าสะอาดและเป็นระเบียบหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนความประพฤติการใช้เสนาสนะ
๒.๔ บรรยากาศ : มีความปลื้มปิติ ความเป็นทีม หรือมีความเครียด เบื่อหน่าย เก็บกด ทนทำ โดยอาจดูจากการจดบันทึกประจำวันของพระธรรมทายาทเรื่องการจับดีตนเอง ผู้อื่น
๒.๕ ผลการปฏิบัติธรรมและการปฏิบัติงาน : การปฏิบัติเสนาสนวัตร มีผลในด้านต่อไปนี้อย่างไร
ผลด้านกายภาพ
๑) ผลต่อสุขภาพกาย ใจ
๒) ผลต่อการทำงานส่วนตน
๓) ผลต่อการทำงานเป็นทีม
๔) ผลต่อการปฏิบัติธรรม
ผลด้านคุณธรรม
สมณธรรม |
ฆราวาสธรรม |
๑) มีสัมมาทิฏฐิ |
๑) มีสัจจะ |
๒) มีสติสัมปชัญญะ |
๒) มีทมะ |
๓) มีความช่างสังเกต พิจารณา |
๓) มีขันติ |
๔) มีความสำรวมกาย วาจา ใจ |
๔) มีจาคะ |
ผลด้านกายภาพและด้านคุณธรรมเพื่อทำให้เกิดสำนึกว่า การดูแลรักษาวัด และสมบัติวัด เป็นการรักษาและเพิ่มพูนศรัทธา และบุญของเจ้าภาพผู้บริจาคทรัพย์สิ่งของนั้น ๆ ตัวเราเองก็ปลื้มใจ จัดเป็นบุญทันตาของเรา อานิสงส์ตามมาคือ ทรัพย์สมบัติใด ๆ เกิดแก่เรา ทรัพย์สมบัตินั้นจะคงทนถาวร ปราศจากเภทภัยใด ๆ ทำลาย
๓. เกณฑ์วินิจฉัย
เกณฑ์วินิจฉัย |
ไม่ผ่าน | ผ่าน |
๓.๑ ความรู้ความเข้าใจหน่วยฝึกเสนาสนวัตร |
ตอบถูกไม่ถึง ๗๐% ตอบผิดในข้อที่เป็น Critical Error |
ตอบถูกมากกว่า ๗๐% ตอบถูกทุกข้อในข้อที่เป็น Critical Error |
๓.๒ ความประพฤติการใช้เสนาสนะ |
สกปรก ไร้ระเบียบพบ ๓ ครั้ง |
สะอาดเป็นระเบียบพบมากกว่า ๓ ครั้ง |
๓.๓ เสนาสนะเเละอุปกรณ์ |
สกปรก ไร้ระเบียบพบ ๓ ครั้ง |
สะอาดเป็นระเบียบพบมากกว่า ๓ ครั้ง |
๓.๔ บรรยากาศการฝึก |
เก็บกด หดหู่ เครียด ทนทำ |
เข้าใจ น่าทำ มั่นใจ อยากทำตาม อาจหาญ ร่าเริง ปลื้มปิติ เป็นทีม |
ถ้าผ่านเกณฑ์วินิจฉัย ๓.๑ , ๓.๒ , ๓.๓ , ๓.๔ จึงจะพิจารณาเกณฑ์การเรียนรู้ ผลการปฎิบัติธรรมเเละการปฎิบัติงานเพื่อประเมินผลต่อไป
๔. การพัฒนา : หากไม่ผ่านเกณฑ์วินิจฉัยข้อใดข้อหนึ่งให้ย้อนกลับไปตั้งต้นพัฒนาใหม่ในสิ่งที่ประเมินไม่ผ่าน
จากหนังสือ กวาดวัด กวาดใจ ไปนิพพาน "เสนาสนวัตร"
โดย คุณครูไม่เล็ก