ให้ฝันสวยข้างใน ทอประกายอีกครั้ง

วันที่ 08 ธค. พ.ศ.2563

ให้ฝันสวยข้างใน ทอประกายอีกครั้ง

 

631208_b.jpg

 

              ใครบ้างไม่เคยฝันถึงความงดงามในชีวิต ไม่ปรารถนาความสุนทรีย์ของธรรมชาติ และเมื่อเอาความฝัน บรรเจิดมาไว้ด้วยกัน

 

              ใครกล้าปฏิเสธบ้าง ว่านั่นคือความฝันของความสำเร็จ ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ จนทำให้ไม่กล้าจะหยิบฝันเดิมนั้น ขึ้นมาปัดฝุ่น เพราะคิดว่าเป็นเพียงความฝัน ที่ไม่อาจ เป็นจริงได้ แต่พากันแสวงหาความสำเร็จในรูปแบบใหม่ ที่คิดว่าเข้าถึงได้ง่ายกว่า การปรากฏว่า ความสำเร็จ ที่หากได้มา ไม่ทำให้ใจ หรืออารมณ์ หรือความปรารถนา ภายในเป็นสุขได้ เหมือนที่เคยคาดคะเนไว้ด้วยใจที่ถูกครอบคลุม ด้วยกลไกการศึกษาและสังคม

 

              ชีวิตจึงยังคงมีความทุกข์เจือปน อารมณ์จึง ยังไม่สดใสเต็มที่ ความชื่นบานยังไม่มีเหมือนที่เคยได้รับ ขณะชีวิตยังอยู่ในวัยต้น วัยที่ทุกคนยอมรับว่าสดใส เป็นสุข ด้วยอารมณ์ที่เบิกบานกว้างไกลไปกับขอบฟ้า

 

              แต่ด้วยความไม่เข้าใจ จึงคิดว่านั่นคือความคิด ความฝันของเด็กๆที่ไม่สามารถย้อนกลับไปหาได้ เพราะขณะนี้เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

 

             ดังนั้น เราจึงพาไม่สดใสเบิกบานเท่าที่ควร

 

             ในเมื่อความจริง หากเราผนวกเอาความรู้กับความสามารถ ประสบการณ์ที่ได้ใหม่ ผสมเข้าไปกับอารมณ์ สดใสในวัยเด็ก

 

              คิดดูเถอะ เราจะเป็นสุขเพียงไหน ความสมบูรณ์ จะมาสู่เราได้อย่างไร เมื่อนั้น คำตอบจะหลั่งไหลมาสู่ ประตูแห่งความสำเร็จจะเปิดต้อนรับก้าวเดินของเรา ได้ในทันที

 

             เช่นแล้ว จะหันมาสนใจกันได้หรือยัง ไม่ยาก ไม่เพ้อฝัน และไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างที่คิด

 

             หวนนึกวันเวลาในวัยเยาว์ คิดดูว่าคือสิ่งที่ เป็นยอดปรารถนา จะพบว่าสิ่งนั้นคือ ความเป็นอิสระจาก การท้วงติง การได้วิ่งอย่างเต็มฝีเท้า ตะโกนแข่งกับสายลม หวังให้เสียงข้ามทุ่งไปแสนไกล ได้ท่อง จุ่ม เเกว่งเท้าในน้ำใส ที่ไหลเย็น ชะโงก ชะแง้ หรือก้มมองดูปลาบ้าง ก้อนหิน ตะไคร่น้ำบ้างอย่างเต็มฝัน เล่นกลางท้องทุ่ง สวน ในเวลากลางแจ้ง แล้วแกล้งทำตัวให้เปียกเพื่อจะได้ถือโอกาสเล่น น้ำฝนในช่วงฝนชุก ความสนุก ความสุขสดชื่น บดบังความกลัวสายฟ้า เสียงฟ้าได้สนิท

 

              ถูกแล้ว ธรรมชาติและความเป็นอิสระในช่วงเวลาหนึ่ง

 

              พากันให้สิ่งเหล่านั้นแก่ตัวเอง คนใกล้ชิด และ ครอบครัวเถิด ด้วยการพากันออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ปรับตัว ปรับอารมณ์ให้คล้องจองไปกับธรรมชาติรอบข้าง อย่างไม่ต้องมัวเมาร่างกายด้วยเครื่องดื่มละเลียด หรือเครื่องดื่ม ปลุกใจ ปล่อยให้ร่างกาย และอารมณ์ เข้าไปสัมผัสความ งดงามของธรรมชาติอย่างบริสุทธิ์ เช่นที่เคยเป็นมาในวัยเยาว์ แล้วธรรมชาติจะทำหน้าที่ซึมแทรกเข้าไปดึงเอาความร่าเริงแจ่มใสที่ซุกซ่อนไว้นับปี ให้ออกมาเผยโฉมหน้ากับเจ้าของ อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ด้วยความรู้สึกกลมกลืนเป็นหนึ่ง เดียวกันไปกับเสียงฮัมเพลงของใบไผ่ขณะต้องลมภูเขา เข้าใจในความบริสุทธิ์ของเปลวคลื่นที่กระฉอกตัวเป็นพลิ้วระริก เห็นความใสในน้ำไหลของร่องลำธารในน้อยๆ เพลินไปกับ การกวักปีกบินว่อนกินลมของนกทะเล

 

               ชีวิต ประสบการณ์ และความรู้จะถูกผสมผสาน เข้าไปกับความสดใสร่าเริงในวัยต้นที่หลบซ่อนอยู่เป็นเวลานาน กลายเป็นความรู้สึกซาบซ่าน ปลดปล่อย เป็นอิสระ จากการล่ามร้อยใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว หรือเพียงคนเดียว

 

              และถ้าหากใช้เวลาพักผ่อนไปอย่างไม่กักตัวเอง หรือกลุ่ม ไว้กับแผนการจนเกินไป เพียงแต่มีกำหนดการไว้ แต่ปล่อยให้กฎนั้นหย่อนๆ สบายๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ความระแวดระวัง เร่งรีบ เกร็งไปกับสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมา ทั้งๆ ที่การมาเที่ยวก็เป็นไปเพื่อหลีกออกจากกฎระเบียบ กลไก ที่เราต่างช่วยกันวางไว้จนแน่นหนา

 

             หากต้องมาเจอะเจออีก ขณะกำลังพักผ่อนละก็

 

             ความสนทรีย์ ความสดชื่น จะถดถอยลอยลับ ไปเสียกว่าครึ่ง เท่ากับว่าหนีไม่พ้นเครื่องพันธนาการ เท่ากับว่า ยังเปิดโอกาสให้กฎเกณฑ์ข้อบังคับนั้นยิ่งร้อยรัดหนาแน่น หนักขึ้น

 

            ฉะนั้น มาช่วยกันให้ใจข้างในของเราทอความ สดใสออกมา ด้วยการพักผ่อนหย่อนใจ อย่างสบายๆ ไปกับธรรมชาติ โดยไม่ลืมที่จะให้อิสระแก่อารมณ์ด้วยการ ไม่ปนของมึนเมาเข้าไปในสำนึก

 

            แน่นอน ใจจะผ่องใส  และมีพละกำลังขึ้นอย่าง น่าอัศจรรย์

 

            ซึ่งไม่เป็นเรื่องเสียหายมิใช่หรือที่จะลองดู ง่ายๆ แต่ให้ความสำเร็จเริ่มสาดแสงปลายๆ ทอประกายเรื่อเรื่อง ให้เห็นได้ด้วยตนเอง

 

 

กุญแจใจ

เกษมสุข ภมรสถิตย์

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.009684415658315 Mins