สุขสามเณร ตอน3

วันที่ 18 สค. พ.ศ.2564

18-08-64-3-b.jpg

สุขสามเณร ตอน3

              คันธเศรษฐีเห็นว่าชายหนุ่มชาวชนบท เป็นคนพูดจริงทำจริง จึงให้เงื่อนไขว่า หากอยากกินจริงๆต้องทำงานรับจ้าง 3 ปีเต็ม โดยไม่ขาดตกบกพร่องและจะได้ให้อาหารที่อร่อยที่สุดถาดหนึ่ง หนุ่มชาวชนบทฟังเงื่อนไขแล้วก็ยินดีรับเงื่อนไขทันที รีบกลับไปบ้าน บอกลาลูกและภรรยาแล้วก็ไปทำงานทั้งเศรษฐี เศรษฐีเห็นความมุมานะของหนุ่มชาวชนบท ก็รู้สึกชื่นชมในความมุ่งมั่นจึงเพิ่มค่าจ้างให้มากกว่าคนอื่นๆ จนเวลาผ่านไปครบ 3 ปีพอดี

              หัวหน้าพ่อครัวได้กราบเรียนท่านเศรษฐีให้ทราบว่า นายภัตตภติกะได้ทำงานครบ 3 ปีบริบูรณ์แล้วเขาขยันทำงานด้วยความซื่อสัตย์ทำงานหนักกว่าคนใช้ทุกคนในบ้านโดยไม่ปริปากบ่นเลยการงานเเม้สักอย่างหนึ่งก็ไม่เคยเสียหาย ถึงเวลาที่ท่านเศรษฐีจะต้องตอบแทนเขาตามที่ตกลงกันไว้


              ท่านคันธเศรษฐีได้สั่งจ่ายทรัพย์ 3,000 ให้ผู้จัดการฝ่ายครัวคือ 2,000 ทำเป็นอาหารเย็นและอาหารเช้าของตัวเอง อีก 1,000 เป็นอาหารเช้าของนายภัตตติกะ และสั่งผู้จัดการฝ่ายครัวว่าวันนี้ พวกเจ้าจงดูแลนายภัตตติกะเป็นอย่างดี ทำเหมือนกับว่ากำลังดูแลรับใช้เราทุกอย่าง เมื่อสั่งงานเสร็จแล้วจึงเดินออกไปสั่งคนใช้ทั้งหมด เว้นภรรยาสุดที่รักที่ชื่อ จินดามณีว่า 

                วันนี้พวกเจ้าจงเเวดล้อมนายภัตตภติกะเถิด จงดูแลเขาอย่าให้ขาดตกบกพร่อง วันนี้ขอให้เขาได้เป็นใหญ่ในการบริโภคภัต  วันรุ่งขึ้น เมื่อถึงเวลานายภัตตภติกะ นั่งบนแผ่นกระดานในซุ้มอาบน้ำ

               อาบน้ำด้วยน้ำสำหรับอาบของเศรษฐี นุ่งผ้าสาฎกของท่านเศรษฐี แล้วนั่งบนบัลลังก์ของเศรษฐี เหมือนกัน เเม้ท่านเศรษฐีก็ยังใช้คนเที่ยวตีกลอง ประกาศไปในพระนครว่า นายภัตตภติกะ ทำการรับจ้างตลอด 3 ปีในบ้านของคันธเศรษฐีได้ถาดโภชนาหารถาด 1 ขอเชิญชาวเมืองทุกคนมาดูกิริยาอาการในการบริโภคภัตของเขาเถิด


               มหาชนได้เเห่เเหนกันมาดูอย่างเนืองเเน่น เมื่อถึงเวลาพวกนักฟ้อนได้ยืนล้อมนายภัตตภติกะ คอยดูแลเอาใจใส่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง พวกคนใช้ยกถาดภัตที่มีรสเลิศถาดหนึ่งมาตั้งไว้ข้างหน้า

             เมื่อเช้านั้นเอง ขณะที่นายภัตตภติกะกำลังล้างมือเพื่อเตรียมบริโภคอาหารที่มีรสโอชา ได้มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ได้ใคร่ครวญดูว่าวันนี้จะไปบิณฑบาตโปรดใครดีหนอ ก็ได้เห็นนายภัตตภติกะเกิดขึ้นมาในข่ายพระญาณ ท่านพิจารณาต่อไปอีกว่า นายภัตตภติกะนี้ทำการรับจ้างมานานถึง 3 ปีจึงได้ถาดอาหารที่มีรสเลิศที่สุดในพระนคร เขาเป็นคนมีศรัทธาพอที่จะถวายอาหารรสเลิศครั้งนี้ได้  อย่างไรก็ตามแม้จะรู้ว่าเขามีศรัทธา แต่ก็ตรวจญานต่อไปอีก  เพื่อความมั่นใจว่าคนบางพวกถึงมีศรัทธาแต่ก็ไม่อาจทำการสงเคราะห์ได้

              พวกเขาอาจนำอาหารชนิดอื่นนำมาถวาย จะไม่ได้ถวายภัตตาหารที่ได้มาด้วยความยากลำบากเพราะตัวเองต้องอดทนทำงานมานานถึง 3 ปี  เขาจะกล้าทำบุญใหญ่นี้ไหมหนอ  ในที่สุดท่านก็เห็นชัดแจ้งว่าได้นายภัตตภติกะสามารถบริจาคถาดภัตอันเลิศนี้โดยไม่เสียดาย และจะได้มหาสมบัติอีกด้วย


               เมื่อตรวจตราดูทุกอย่างเสร็จแล้ว ด้วยมหากรุณาต่อนายภัตตภติกะ ท่านจึงห่มจีวรถือบาตรเหาะขึ้นสู่เวหา ลงไปในระหว่างฝูงชน ยืนแสดงตนอยู่ข้างหน้าของนายภัตตภติกะ นายภัตตภติกะกำลังก้มหน้าเตรียมตัวจะรับประทานอาหารอันโอชะ ครั้นเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ  เหาะมายืนอยู่ตรงหน้าพอดีก็บังเกิดความศรัทธาเลื่อมใส คิดว่าการได้พบเห็นสมณะเป็นมงคลอย่างยิ่ง เราได้ทำการรับจ้างในบ้านคนอื่นถึง 3 ปี ก็เพื่อประโยชน์เพียงภัตตะถาดเดียว เราลำบากเพราะว่าเราไม่ได้ให้ทานในกาลก่อน


             บัดนี้ภัตตะของเราพึงรักษาเรา ก็เพียงวันหนึ่งกับคืนหนึ่งเท่านั้น แต่หากว่าได้ถวายภัตนี้เเก่พระคุณเจ้า ภัตจะรักษาเราไว้มิใช่โกฎกัปเท่านั้น แต่ภัตนี้จะส่งผลให้เรามีความสุขไปทุกภพทุกชาติจนถึงภพชาติสุดท้าย เราจะถวายภัตอันเลิศนี้ให้แก่พระคุณเจ้าผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ


            นายภัตตภติกะนั้นทำการรับจ้างมาตลอด 3 ปี เพื่อภัตนี้ เมื่อได้ภัตนี้แล้วยังไม่ทันจะได้ทานสักคำหนึ่ง ก็ระงับความอยาก ได้ยกถาดภัตขึ้นและเดินเข้าไปหาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า  ให้คนดูแลถือถาดไว้ชั่วครู่  แล้วก็น้อมกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ จากนั้นก็เอามือซ้ายจับถาด มือขวาเกลี่ยภัตลงไปในบาต ด้วยความปลื้มปิติที่ได้ทำบุญใหญ่  ในเวลานั้นภัตยังเหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้าได้เอามือปิดบาตร ฝ่ายนายภัตตภติกะเรียนท่านว่า ท่านครับภัตสำหรับคนคนเดียวเท่านั้น ผมไม่อาจแบ่งเป็น 2 ส่วนได้หรอก ท่านอย่าสงเคราะห์ผมเพียงภพนี้เลย ขอจงสงเคราะห์ผมในภพหน้าด้วยเถิด

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

ธรรมะเพื่อประชาชน

คุณครูไม่ใหญ่
 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0045873324076335 Mins