ผลของบาป ตอนที่ ๑
โรคที่เกิดจากวิบากกรรม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแยกแยะคนไข้ไว้ ๓ จำพวก
พวกแรก คนไข้ที่รักษา หรือไม่รักษา ยังไงก็ไม่หาย เช่น โรคชรา มะเร็งระยะสุดท้าย เป็นต้น
พวกที่ ๒ คนไข้ที่รักษา หรือไม่รักษา ยังไงก็หาย เช่น ไข้หวัด เป็นต้น
พวกที่ ๓ คนไข้ที่รักษาหาย ไม่รักษาตาย เช่น ไส้ติ่งอักเสบ เป็นต้น
คนไข้ประเภทแรก อย่างไรก็ตายแน่ๆ เมื่อต้องไปเยี่ยมคนไข้ประเภทนี้ ต้องมีหลัก... พระบรมศาสดาตรัสว่า “จิตเต อสังกิลฎเฐ สุคติ ปาฏิกังขา” เมื่อจิตผ่องใส ไม่เศร้าหมอง สุคติเป็นอันหวัง
เยี่ยมคนไข้ประเภทนี้ ต้องคิดว่า ทำอย่างไรจะแนะนำผู้ป่วยให้รักษาใจให้ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง เมื่อต้องละสังขาร จะได้มีสุคติเป็นที่ไป
คนไข้ประเภทที่ ๒ แล้วแต่เวลาและอารมณ์ ถ้ามีเวลาน้อยก็เยี่ยมให้กำลังใจทางโทรศัพท์ Line หรือ WhatsApp แทน เพราะยังไงก็หาย
คนไข้ประเภทที่ ๓ ต้องได้หมอดี ยาดี และทันเวลา จึงหายจากโรคได้
ส่วนสมมติฐานของทุกขเวทนา หรือโรคในทางพระพุทธศาสนา มีกล่าวให้ไว้ ๕ ประการ คือ
๑. สังขารแปรปรวน เช่น ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในตัวแปรปรวน เป็นต้น
๒. ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงหัวค่ำร้อน แต่ตอนดึกหนาว ร่างกายปรับตัวไม่ทันก็ป่วย เป็นต้น
๓. อริยาบทที่ไม่เหมาะสม เช่น อาชีพที่ต้องนั่งนานๆ ยืนนานๆ ทำให้อวัยวะบางส่วนของร่างกาย ทำงานหนักเกินไป เป็นต้น
๔. ถูกประทุษร้าย เช่น ถูกเชื้อรา ไวรัส แบคทีเรีย เข้าไปในร่างกาย ทำให้เจ็บป่วย เป็นต้น
๕. วิบากกรรมตามมาส่งผล เช่น ในอดีตชาติ ชอบแกล้งทำสัตว์ให้ตกใจ วิบากกรรมตามมาส่งผลทำให้เป็นโรคหัวใจ ในอดีตชาติ เคยขี่ม้าแข่ง วิบากกรรมตามมาส่งผลทำให้เป็นโรคหอบหืด เป็นต้น
ทุกขเวทนา หรือโรคที่เกิดจากสาเหตุข้อที่ ๑-๔ อาจทำให้ทุเลาลงได้ แต่โรคที่เกิดจากสาเหตุข้อที่ 5 คือ วิบากกรรม ถ้ายังไม่หมดกรรม รักษาจนหมอตาย ก็ไม่หาย
พระบรมศาสดาตรัสว่า คนที่มีโรคมากเพราะในอดีตชาติ ชอบเบียดเบียน รังแก ทรมานสัตว์ จากการติดตามศึกษาความรู้ที่คุณครูไม่ใหญ่ ได้เล่าเรื่องนี้ไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC พบว่า วิบากกรรมทำให้เกิดโรคทั้งหลายส่วนใหญ่เกิดจากการผิดศีล ๕ และมีนิสัยมักโกรธ
วิธีแก้ไขโรคที่เกิดจากวิบากกรรม
๑. ปล่อยสัตว์ให้ชีวิตเป็นทาน
๒. ถวายยารักษาโรคแก่พระภิกษุ สามเณรอาพาธ หรือคนป่วยที่ต้องการยารักษาโรค ถ้าแข็งแรงก็ให้บริจาคโลหิต
๓. สั่งสมบุญให้เต็มที่ ทั้งการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา แล้วอุทิศบุญให้คู่กรรม คู่เวร ที่เคยผิดพลาดล่วงเกินมาในอดีต ขอให้เป็นอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
๔. อธิษฐานจิตให้บุญที่สั่งสมมาไปตัดรอนวิบากกรรมที่ผิดพลาดมาในอดีต จากหนักให้เบา จากเบาก็ให้มลายหายสูญไปให้หมด
อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
วิบากกรรมที่ทำให้เป็นคนใบ้ บ้า ปัญญาอ่อน
ใบ้ หมายถึง ไม่สามารถพูดออกมาเป็นถ้อยคำที่คนทั่วไปเข้าใจได้
บ้า คือ อาการที่แสดงถึงความคลุ้มคลั่ง สาเหตุเกิดจากความเครียด ความวิตก ความเศร้า
ภาวะปัญญาอ่อน หมายถึง ภาวะที่สมองหยุดพัฒนา หรือพัฒนาไม่สมบูรณ์
ในทรรศนะกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่ ได้เคยเล่าไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC ว่า วิบากกรรมที่ทำให้เป็นคนใบ้ บ้า ปัญญาอ่อน เกิดจาก...
ในอดีตชาติ ดื่มน้ำเมา เมาแล้วด่าพ่อแม่ บุพการี ใช้ปากทำบาปกับบุพการี วิบากกรรมทำให้เป็นคนใบ้
ในอดีตชาติ ดื่มน้ำเมา เมาแล้ว โทสะกำเริบ ชอบก่อการทะเลาะวิวาททำลายข้าวของ ทำร้ายคนในครอบครัว วิบากกรรม ทำให้เป็นคนบ้า
ในอดีตชาติ ดื่มน้ำเมา เมาแล้ว ไม่สร้างความเดือดร้อนกับใคร นอนอย่างเดียว วิบากกรรมทำให้เป็นคนปัญญาอ่อน
เคยสังเกตไหมว่า คนเมาแล้ว จะมีอาการ หรือพฤติกรรม ๓ กลุ่มใหญ่ๆ คือ
๑. เมาแล้ว ปากเสีย โวยวาย ด่าไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแม่
๒. เมาแล้ว ชอบความรุนแรง ทะเลาะวิวาท เลยมาถึงทำลายข้าวของ หรือทำร้ายลูกเมีย พ่อแม่ก็มี
๓. เมาแล้ว ไม่เอาเรื่องกับใคร นอนดีกว่า
สรุปว่า เมาแล้วด่า ชาติหน้า ใบ้ เมาแล้วซาดิตส์ ชาติหน้า บ้า
เมาแล้วนอน ชาติหน้า ปัญญาอ่อน คงทราบที่มาที่ไปกันแล้ว ทรรศนะกฎแห่งกรรม มองกันอย่างนี้ ผู้รู้ท่านเล่ามาก็บอกต่อกันไป เผื่อจะมีขี้เมาที่หมดกรรม จะได้รีบแก้ไข ส่วนที่ยังไม่หมดกรรม คุณหมอจะได้ไม่ตกงาน
วิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคตา
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่ถ้าตาเป็นอะไรไป ก็เหมือนบ้านที่ไม่มีหน้าต่าง
โรคตานั้นมีความรุนแรงหลายระดับ หนักที่สุด คือ ตาบอดมองไม่เห็นอะไรเลย รองลงมา เห็นได้ไม่ชัด เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม ตาเข เป็นต้น ถัดลงมา เห็นไม่ชัด แต่ใช้แว่นตาช่วยได้ เช่น สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง เป็นต้น
ในทางการแพทย์ได้กล่าวถึงสาเหตุไว้หลากหลายแตกต่างกันไป ตามเหตุปัจจัย...
ในทรรศนะของกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับโรคตา ไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC ว่า โรคตาเกิดจากวิบากกรรม...
๑. ในอดีตชาติ ทำร้ายคน และสัตว์ที่ดวงตา เช่น ชกคนจนตาบอด หยิบยาผิดไปหยอดตาให้ญาติ เอาทรายปาใส่ตาเพื่อน เอาไม้ที่มถูกตาสุนัข เป็นต้น
๒. ในอดีตชาติ ขังนักโทษไว้ในคุกมืด จับปลามาขังในตุ่มที่ปิดฝา เป็นต้น
๓. ในอดีตชาติ มองคนอื่นด้วยตาที่ดๆ มองคนด้วยความหมั่นไส้ จ้องหน้าผู้ใหญ่เมื่อถูกตักเตือน มองคนด้วยจิตริษยา ดูถูกดูแคลน มองคนด้วยหางตา ชอบมองจับผิดคนอื่น มองสัตว์ด้วยจิตคิดร้าย เล็งธนูล่าสัตว์ แอบดูสาวอาบน้ำ เป็นต้น
๔. ในอดีตชาติ เป็นนักการพนัน ซ่อนไพ่หลอกพวกนักพนัน เป็นต้น
๕. ในอดีตชาติ พูดตัดรอนกำลังใจกับคนที่มาขอความช่วยเหลือ พูดคำหยาบคาย โกหกย้อมแมวขาย ล้อเลียนเพื่อนที่ใส่แว่นตาหนา คนหนังตาตก คนตาชั้นเดียว เป็นต้น
สรุปวิบากกรรมที่ทำให้เกิดโรคตา คือ
๑. ทำร้ายตาคน และสัตว์
๒. ขังคน และสัตว์ในที่มืด
๓. ใช้ดวงตาไปทำบาป
๔. ใช้ปากทำบาป
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงลักษณะดวงตาของพระมหาบุรุษเอาไว้ว่า พระองค์ทรงมีพระเนตรดำสนิท มีพระเนตรแจ่มใส ดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด เพราะในชาติก่อน ไม่ทรงถลึงตามอง ไม่มองค้อน ไม่เมิน มองเต็มตา แลดูชนหมู่มากด้วยดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เพราะทรงกระทำสั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากสวรรค์ มาเป็นมนุษย์... ย่อมได้มหาปุริสลักษณะ ๒ ประการนี้ ฯลฯ
วิธีแก้ไขวิบากกรรมโรคตาไม่ให้ติดตัวไปข้ามชาติ
๑. ทำบุญให้แสงสว่าง เช่น บริจาคหลอดไฟ แว่นตา ทำบุญค่าไฟ เป็นต้น
๒. จุดประทีปบูชาพระรัตนตรัย ให้แสงสว่าง ชื่อว่า ให้จักษุ คือ ให้การมองเห็น เพราะแม้มีดวงตา แต่ไม่มีแสงสว่าง ก็มองไม่เห็น แม้ทิพยจักษุ ที่เกิดจากการได้จุดประทีปบูชาพระรัตนตรัย
สรุปว่า อยากมีดวงตาสวย มองได้ชัด มองได้ไกล มองได้แม้ในที่มืด อย่าใช้ตาทำบาป ให้ใช้ตาสร้างบุญ และทำบุญให้แสงสว่าง
ชาติต่อไปจะได้ไม่ต้องร้องเพลง “ดวงตาของฉันมันมืดมิด แต่ชีวิตฉันยังไม่มีดลง...”
วิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับหู
หู เป็นอวัยวะทำหน้าที่ในการรับเสียง ใครอยู่กับคนที่การได้ยินบกพร่อง จะเหนื่อยมาก กลายเป็นคนเสียงดัง พูดแบบมะนาวไม่มีน้ำไปโดยปริยาย
อาการที่หนักที่สุด คือ หูไม่ได้ยินอะไรเลย เช่น หูหนวกอยู่ในโลกแห่งความเงียบ ถ้าเป็นตั้งแต่เด็ก ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนโสตศึกษา ใช้ภาษามือช่วยในการสื่อสาร
รองลงมาก็หูตึง หูเสื่อม หูอื้อ คือ การได้ยินบกพร่อง ได้ยินเสียงที่ดังๆ เท่านั้น อันนี้ใช้เครื่องฟังช่วยได้ เหมือนเอาเครื่องขยายเสียงติดที่หู
รองลงมา คือ หูเป็นน้ำหนวก มีเสียงดังอยู่ในหู พอรักษาให้หายได้
โรคที่เกี่ยวกับหู และการได้ยิน เกิดจากอะไร?
ในทรรศนะของกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่เคยตอบคำถามเรื่องนี้ ไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC ว่า โรคเกี่ยวกับหู และการได้ยิน เกิดจากวิบากกรรม..
๑. ในอดีตชาติ ทำเป็นหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยิน เวลาพ่อ แม่ ผู้ใหญ่ตักเตือนสั่งสอน หรือเรียกใช้งาน
๒. ในอดีตชาติ เอาไม้ตีหูคู่อริ แกล้งน้องโดยไม่ตั้งใจ ทำให้น้องหูหนวก และตัดหูคน เป็นต้น
สรุปว่า โรคที่เกี่ยวกับหู และการได้ยิน เกิดจากวิบากกรรม ทำเป็นหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยิน เวลาพ่อแม่ ผู้ใหญ่ตักเตือน หรือเรียกใช้งาน และวิบากกรรมทำร้ายคนและสัตว์ที่หู โอกาสที่ทำหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยินเวลาพ่อแม่ ผู้ใหญ่ตักเตือน หรือเรียกใช้งาน
น่าจะมีโอกาสมากกว่า
ถ้ายังไม่เคยทำก็โชคดี ถ้าพลาดพลั้งทำไปแล้ว ต้องรีบหาโอกาสไปกราบขอขมาพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ เมื่อขอขมาแล้ว กรรมที่ผิดพลาดทำมา จากหนักก็จะเบา จากเบาก็มลายหายสูญ เช่น ชาติหน้า แทนที่หูหนวกก็แค่หูตึง แทนที่หูตึงก็แค่มีเสียงแว่วในหู
พอรักษาให้หายได้
บางครั้งเราต้องการหาที่เงียบสงบ แต่ถ้าทำหูทวนลมกับพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ที่ตักเตือนด้วยปรารถนาดี ไม่ต้องหาที่เงียบ แต่จะได้อยู่ในโลกเงียบโดยไม่ต้องหา!!!
วิบากกรรมที่ทำให้หน้าแก่เกินวัย
๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้เสนอข่าวมุนซุนยอง สาวเกาหลีหน้าแก่เกินวัย เมื่อเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ทุกคนเรียกเธอว่า คุณผู้หญิง เมื่อเธออยู่ชั้นมัธยมปลาย ทุกคนเรียกเธอว่า คุณป้า ขณะนี้มุนซุนยองอายุ ๒๙ ปี ทุกคนเรียกเธอว่า คุณยาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ไม่มีครอบครัวและไม่มีเงินมากมาย ด้วยฉายาคุณป้าวัย ๒๐ ทำให้รายการโทรทัศน์ Let Beauty ตัดสินใจที่จะแปลงโฉมและมอบชีวิตใหม่ให้มุนซุนยอง โดยมอบโอกาสให้เธอทำศัลยกรรม เปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ สวยได้ในช่วงข้ามคืน
ในบ้านเราก็เคยมีเด็กฝาแฝดหน้าแก่เกินวัยคู่หนึ่ง เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดมา มีใบหน้าเหมือนคนแก่ในวัย ๘๐ ปี คนพี่เสียชีวิตไปก่อน ส่วนแฝดผู้น้องชื่อน้องยัย
ต่อมาได้มีผู้เขียนจดหมายมาถามคุณครูไม่ใหญ่ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ฝาแฝดคู่นี้มีใบหน้าแก่เกินวัย คุณครูไม่ใหญ่ได้ตอบคำถามเรื่องนี้ ไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC
ในอดีต มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง มีลูกชายหนึ่งคน ต่อมาสามีตาย ภรรยาก็เลี้ยงลูกมาจนโต กระทั่งลูกชายโต มีอาชีพค้าขายต่างเมือง ภายหลังได้ภรรยามาจากต่างเมือง เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ก็มีปัญหาแบบแม่ผัวลูกสะใภ้ จนภายหลัง ภรรยาคลอดลูกสาวออกมา ส่วนสามีไปค้าขายต่างเมือง ส่วนภรรยาก็เลี้ยงลูกอยู่บ้านกับแม่สามี มักจะมีเรื่องทะเลาะกัน ระหองระแหงกันอยู่เรื่อยๆ สะใภ้มักจะด่าว่าแม่สามีบ่อยๆ และสอนลูกสาวของตน ให้พูดจากระทบ ให้คุณย่าของตนเสียใจ ช่วงแรกจะพูดลับหลัง โดยสอนลูกให้เรียกคุณย่าว่า อีแก่
ดังนั้น ต่อมาหลานจึงเรียกคุณย่าว่า อีแก่ แต่ถ้าสามีอยู่ จะเสแสร้งทำความดี จึงทำให้สามีนักว่า ภรรยาดีต่อแม่ของตัว ต่อมาสามีไปค้าขาย ถูกโจรปล้น และถูกฆ่าตาย ดังนั้น ๒ แม่ลูก จึงรุมด่ากระทบกระเทียบแม่สามีว่า อีแก่ ทำท่าทางล้อเลียนแบบคนแก่ที่งกๆ เงินๆ เรื่อยๆ จนแม่สามีตรอมใจตาย
ด้วยกรรมนี้จึงทำให้ทั้ง ๒ แม่ลูก มาเกิดเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน แต่คนแม่ตายไปก่อน เพราะกรรมหนักกว่า เนื่องจากทำเอง และสอนลูกให้ทำตาม
สรุปว่า วิบากกรรมที่ทำให้หน้าแก่เกินวัย เกิดจากวจีกรรม ไปด่าว่า ล้อเลียน พูดกระทบกระเทียบคนแก่หรือคนที่หน้าแก่เกินวัยจนเขาเจ็บช้ำน้ำใจ
วิธีแก้ไขวิบากกรรมไม่ให้ติดตัวข้ามชาติไป
๑. ชาตินี้ต้องพูดแต่ปิยวาจา อย่าไปด่าว่าใครอีก
๒. ต้องสั่งสมบุญให้เต็มที่ ทั้งการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา แล้วอุทิศบุญไปให้คู่กรรมคู่เวรที่เคยล่วงเกินเอาไว้
๓. หมั่นเจริญสมาธิภาวนา ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ก็จะไปตัดรอนวิบากกรรมได้เร็วขึ้น
รูปวิบัติเพราะปากแท้ๆ
วิบัติ แปลว่า แปรปรวน คลาดเคลื่อน
รูปวิบัติ หมายถึง รูปกายที่แปรปรวน คลาดเคลื่อนไปจากปกติ เช่น อ้วนมากเกินไป ตัวเตี้ย ตัวเล็ก ตัวสูงมากเกินไป สีผิวสว่าง หรือ เข้มมากเกินไป เป็นต้น
มีธุรกิจจำนวนมาก หากินกับการแก้ไขความวิบัติของรูปกาย เช่น ธุรกิจความงามบนใบหน้า ศัลยกรรม ลบริ้วรอย ดูดไขมัน ลดความอ้วน ยกกระชับ ขัดสีผิว ลบรอยสัก ปาน ไผ่ รวมไปถึงจัดฟัน ฯลฯ
ถ้าพูดถึงสัจธรรมแล้ว ลักษณะที่งดงามที่สุดฝ่ายชาย คือ ลักษณะมหาบุรุษทั้ง ๓๒ ประการของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ฝ่ายหญิง คือ ลักษณะเบญจกัลยาณี ความงาม ๕ ประการ คือ ฟันงาม ผมงาม ผิวงาม ริมฝีปากงาม วัยงาม อย่างมหาอุบาสิกาวิสาขา
แต่บังเอิญคนทั้งโลก จะหาคนมีบุญบารมีที่จะได้รูปกายงดงามที่สุด หาไม่ได้เลยต่างคนต่างก็ไม่สมประกอบเหมือนๆ กัน ก็เลยไม่มีรูปกายมาตราฐานให้ดูเทียบเคียง ประกวดนางงามหรือชายงาม คือ การประกวดคนที่พิการน้อยที่สุด
แล้วรูปวิบัติเกิดจากอะไร ?
ในทรรศนะกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่ ได้ตอบคำถามไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC ว่า วิบากกรรมที่ทำให้รูปวิบัติเกิดจาก...
๑. ในอดีตชาติ พูดถากถาง พูดล้อเลียน คนอ้วน คนเตี้ย คนตัวสูง คนสีผิว ทำให้เขาเจ็บซ้ำใจ
๒. ในอดีตชาติ ทำท่าทางล้อเลียนคนหลังค่อม คนพิการ เป็นต้น
๓. ในอดีตชาติ ทำศาสนาสถาน หรือสถานที่สาธารณะให้สกปรก เปรอะเปื้อน เช่น ปัสสาวะตามกำแพง วาดภาพตามฝาผนัง พ่นสีตัวอักษร หรือข้อความบนป้าย เป็นต้น
น้องอ้วน คุณโย่ง ท่านเตี้ย หนูกุ้งแห้ง พี่หมึก คุณแว่น ฯลฯ ถึงคราวกรรมหมุนกลับ ด่าว่า ล้อเลียนเขาไว้อย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น
รูปวิบัติเพราะปากแท้ ๆ !!!
วิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ในที่นี้หมายถึง ภูมิแพ้จากฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ มองไม่เห็น ทำให้เกิดอาการแพ้ คันจมูก น้ำมูกไหล เป็นไม่มาก แต่เรื้อรัง ทำให้เกิดความรำคาญ ทำงานได้ไม่สะดวก สารที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อย เช่น ฝุ่น นุ่น ละอองเกสรพืช ไรฝุ่น ขนสัตว์จากสุนัข แมว เชื้อราในอากาศ รวมทั้งอุณหภูมิของอากาศ ภาวะมลพิษ หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม
สาเหตุที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาที่ไวเกินไป ในการตอบสนองสิ่งแปลกปลอมแบบผิดปกติทั้งๆ ที่สิ่งแปลกปลอมนั้นไม่มีอันตรายต่อร่างกาย แต่เป็นความเข้าใจผิดของร่างกาย
ในทรรศนะกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่ เคยตอบคำถามไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC เกี่ยวกับวิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ เกิดจาก
๑. ในอดีตชาติ ฆ่าสัตว์ ฉีดยาฆ่าแมลง
๒. ในอดีตชาติ ทรมานข้าศึก จับหัวกดลงในถังน้ำ บีบคอข้าศึก รีดข่าว จับแมวโยนน้ำ
๓. ในอดีตชาติ ใช้แรงงานสัตว์หนัก ไม่ดูแล เลี้ยงสัตว์ไว้นอกบ้านให้ตากแดด ตากฝน ควบม้าส่งข่าวเกินกำลังจนม้าเหนื่อยหอบ
๔. ในอดีตชาติ เผาที่นา เผาหญ้ารบกวนเพื่อนบ้าน
๕. ในอดีตชาติ ชอบเถียงผู้ใหญ่ให้แสบๆ คันๆ
สรุปว่า วิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ คือ ฆ่า ทรมาน ใช้แรงงานหนักเกินไป เถียงผู้ใหญ่
วิธีแก้ไขวิบากกรรมโรคภูมิแพ้ไม่ให้ติดตามไปข้ามชาติ
๑. ปล่อยสัตว์ให้ชีวิตเป็นทาน
๒. ถวายยากับพระภิกษุ สามเณรที่อาพาธ หรือผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ
๓. สั่งสมบุญให้เต็มที่ ทั้งการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา แล้วอุทิศบุญให้คู่กรรมคู่เวรที่เคยล่วงเกิน เบียดเบียนมา
๔. อธิษฐานจิต ให้บุญไปตัดรอนวิบากกรรมที่เคยผิดพลาดมาในอดีต จากหนักให้เบา จากเบาให้มลายหายสูญ
ภูมิจะได้ชนะกะเขาเสียที !!!
วิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคหอบหืด
โรคหอบหืดเกิดจากทางเดินอากาศเข้าและออกจากปอด มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไวเกินต่อสารภูมิแพ้รอบข้าง เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองและอักเสบ
อาการของโรคหอบหืด เช่น ไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจสั้นลำบาก และแน่นหน้าอก
ในทางการแพทย์กล่าวว่า สาเหตุของโรคหอบหืด เกิดจากถ่ายทอดพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม มารดาสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ สิ่งกระตุ้นจากฝุ่น ควันบุหรี่ สารเคมีในที่ทำงาน แพ้เกสรดอกไม้ และความเครียด เป็นต้น
ในทรรศนะของกฎแห่งกรรมที่คุณครูไม่ใหญ่ ได้ตอบคำถามไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC ตัวอย่างวิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคหอบหืด เกิดจาก...
๑. ในอดีตชาติ ใช้แรงงานคน และสัตว์หนักเกินไป เช่น ให้แบกของ ลากของ วิ่งแข่ง จนเหนื่อยหอบ ไม่ดูแล ปล่อยให้ตากแดด ตากฝน เป็นต้น
๒. ในอดีตชาติ แกล้งจับแมวกดน้ำ
๓. ในอดีตชาติ เล่นกีฬาต่อสู้ทำร้ายคน
สรุปว่า โรคหอบหืดเกิดจากวิบากกรรมใช้แรงงานคน และสัตว์หนักเกินไป ทรมาน แกล้งจับคน และสัตว์กดน้ำ
ร่างกายให้คุณหมอดูแลรักษา แต่โรคหอบหืด เกิดจากวิบากกรรม ทำอย่างไรไม่ให้วิบากกรรมโรคหอบหืดติดตามไปข้ามชาติ
วิธีแก้ไข
๑. ปล่อยสัตว์ให้ชีวิตเป็นทาน
๒. ถวายยารักษาโรคแก่พระภิกษุ สามเณร หรือผู้ป่วยที่ต้องการ ถ้าแข็งแรงให้บริจาคโลหิต
๓. สั่งสมบุญให้เต็มที่ ทั้งการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา แล้วอุทิศบุญให้คู่กรรมคู่เวรที่เคยล่วงเกินกันมา
๔. อธิษฐานจิตให้บุญไปตัดรอนวิบากกรรมที่ผิดพลาดทำมาจากหนักให้เบา จากเบาให้มลายหายสูญ ถึงแม้จะต้องละสังขารก็ไปดี
จากหนังสือ ราตรีสว่าง
พระครูวิบูลนิติธรรม (ไพบูลย์ ธัมมวิปุโล)