ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

วันที่ 07 เมย. พ.ศ.2565

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

            เปรต     หมายถึงสัตว์ที่มีฐานะห่างจากความสุขทั้งหลาย
           คำว่าเปรต    คนส่วนมากเรียกกันหลายชื่อ เช่น เรียกผี เรียกยักษ์ ธรรมดาเปรตทั้งหลายมีที่อยู่ที่อาศัยไม่แน่นอน มีอยู่ทั่ว ๆ ไป เช่นตามป่า ภูเขา เหว เกาะ ทะเล มหาสมุทร ป่าช้า แต่เฉพาะที่เชิงภูเขาหิมาลัย มีป่าอยู่แห่งหนึ่งชื่อ ป่าวิชฌาฏ เป็นเมืองของเปรต ๑๒ จำพวก เปรตที่เป็นเจ้าปกครองดูแลบรรดาเปรตทั้งหลายคือ มหิทธิกเปรต


ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

          ขนาดร่างกายของเปรตมีต่างๆ กัน บางพวกเป็นเปรตเล็ก บางพวกเป็นเปรตใหญ่ บางพวกเนรมิตตัวให้น่าเกลียดน่ากลัว (อนิฏฐารมณ์) บางพวกเนรมิตให้ตัวเองเป็นที่น่าพึงพอใจ อิฏฐารมณ์) ได้ เช่นที่ไม่น่าดูมี เนรมิต เป็นวัว ควาย ช้าง สุนัข ที่มีรูปร่างสัณฐานน่ากลัว มีศีรษะใหญ่ ตาพอง บางทีปรากฏไม่ชัดเจน ให้เห็นเป็นเพียงสีดำ แดง ขาว เปรตที่เนรมิตร่างให้น่าดู เช่นให้มีรูปเป็นเทวดา ชาย หญิง ดาบส สามเณร พระภิกษุ แม่ชี


ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

          ความเป็นอยู่ของเปรตแต่ละพวกแตกต่างกันตามกรรมที่ตนเองสร้างไว้ บางพวกอดข้าวอดน้ำ เสวยทุกข์อยู่นาน บางพวกเข้าไปกินเศษอาหารที่ชาวบ้านทิ้งไว้ตามที่โสโครกบางพวกกินเสมหะ น้ำลาย อุจจาระ ส่วนเปรตบางพวกเช่นที่อาศัยอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ ไม่ใช่อดอาหารอย่างเดียว ยังต้องเสวยทุกข์ทรมานเหมือนสัตว์นรกอีกด้วย


ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

เปรตที่กล่าวไว้ว่ามี ๑๒ จําพวก คือ

๑. วันตาสะ  กินทําลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
๒. กุณปาสะ กินซากศพคนหรือสัตว์เป็นอาหาร
๓. คูถขาทกะ กินอุจจาระต่าง ๆ เป็นอาหาร
๔. อัคคีชาสมุขะ มีเปลวไฟลุกอยู่ในปากเสมอ
๕. สูจิมุขะ มีปากเล็กเท่ารูเข็ม
๖. ตัณหัฏฐิตะ ถูกตัณหาเบียดเบียนให้หิวข้าว หิวน้ำ อยู่เสมอ
๗. สุนิชฌามกะ มีลำตัวเหมือนตอไม้ที่ถูกเผา
๘. สัตตังคะ มีเล็บมือเล็บเท้ายาว และคมเหมือนมีด
๙. ปัพพตังคะ มีร่างกายสูงใหญ่เท่าภูเขา
๑๐. องคว้งคะ มีร่างกายเหมือนงูเหลือม
๑๑. เวมานิกะ เกิดในวิมาน กลางวันเสวยทุกข์ กลางคืนได้เสวยสุขอยู่ในวิมาน
๑๒. มหิทธิกะ

มีฤทธิ์มาก

       

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)        

            บางแห่งกล่าวแบ่งเปรตเป็น ๔ ประเภท บางแห่งแบ่งไว้เป็น ๒๑ ประเภท

แบ่ง ๔ ประเภท คือ

๑. ปรทัตตุปชีวิกเปรต เลี้ยงชีวิตอยู่โดยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้
๒. ปปิปาสิกเปรต ถูกเบียดเบียนด้วยการหิวข้าวหิวน้ำ
๓. นิชฌาน ณ กเปรต ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
๔. กาลกัญจิกเปรต อสุราจําพวกหนึ่งที่เป็นเปรต เปรตพวกนี้มีร่างกาย สูงถึง ๓ คาวุต
(๔ คาวุต เท่ากับ ๑ โยชน์) ไม่มีเรี่ยวแรง เพราะมีเลือดเนื้อน้อย
สีสรรของร่างกายคล้ายใบไม้แห้ง ตาถลนออกมาเหมือนตาของปู
มีปากเท่ารูเข็ม ตั้งอยู่ตรงกลางศีรษะ


           เปรต ๓ ประเภทหลังนี้ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย บรรดาที่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วย่อมไม่ไปบังเกิด ยกเว้นประเภทแรก อาจจะพลาดพลั้งเกิดได้ในบางชาติ

             (ภพ พระโพธิสัตว์ ไม่ไปบังเกิด หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว มี ๑๖ แห่งคือ ไม่เกิดเป็น

๑. คนป่า

๒. มารเทวบุตร

๓. อสัญญสัต พรหม

๔. สุทธาวาสพรหม

๕. ในจักรวาลอื่น

๖. อรูปพรหม

๗. ผู้หญิง

๔. เกิดกับคนที่เป็นทาส 

๔. คนบอด หนวก ใบ้ 

๑๐. โรคเรื้อนกุฏฐัง

๑๑. เปลี่ยนแปลงเพศ

๑๒. ท่าปัญจานันตริยกรรม กรรมหนัก ๕ ประการฆ่ามารดา บิดา พระอรหันต์ ทำพระบาทของพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต ทําสังฆาท

๑๓. เกิดในโลกันตริกนรก

๑๔. เกิดในอเวจีมหานรกหรือเป็นเปรต ๓ ชนิดดังกล่าว

๑๕. เป็นสัตว์ที่เล็กกว่านกกระจาบและใหญ่กว่าช้าง

๑๖. เป็นพระอริยบุคคลในระหว่าง ๔ อสงไขยแสนมหากัป)

 

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

แบ่งเปรต ๒๑ จําพวก

๑. มีกระดูกติดต่อกันเป็นท่อน ๆ แต่ไม่มีเนื้อ

๒. มีเนื้อเป็นชิ้น ๆ แต่ไม่มีกระดูก

๓. มีเนื้อเป็นก้อน

๔. มีขนเป็นพระขรรค์

๕. ไม่มีหนัง

๖. มีขนเป็นหอก

๗. มีขนยาวเป็นลูกธนู

๘. มีขนเป็นเข็ม

๙. มีขนเป็นเข็มชนิดที่สอง

๑๐. มีอัณฑะใหญ่โตมาก

๑๑. จมอยู่ในอุจจาระ

๑๒. กินอุจจาระ

๑๓. เป็นเปรตหญิงไม่มีหนัง

๑๔. มีกลิ่นเหม็นเน่า

๑๕. มีร่างกายเป็นถ่านไฟ

๑๖. ไม่มีศีรษะ

๑๗. มีรูปร่างสัณฐานเหมือนพระภิกษุ

๑๘. เหมือนพระภิกษุณี

๑๙. เหมือนสิกขมานา

๒๐.เหมือนสามเณร

๒๑. เหมือนสามเณรี

 

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

          นอกจากนี้ยังมีเปรตที่มีรูปร่างเหมือนสัตว์ต่างๆ แต่มีขนาดใหญ่โตมาก เช่น เปรตหนู เปรต เปรตา เปรตหมู เป็นไปต่าง ๆ ตามแต่อำนาจอกุศลกรรมที่สัตว์นั้นกระทําไว้

        ในบรรดาเปรตทั้งหลายที่กล่าวมา จะแบ่งเป็น ๑๒ ประเภทก็ดี ๔ ประเภทก็ดี ๒๑ ประเภทก็ดี ทั้งหมดนี้ มีแต่ปรทัตตุปชีวิกเปรตจำพวกเดียวที่มีโอกาสรับส่วนบุญที่เหล่าญาติอุทิศให้ เปรตอื่น ๆ นอกจากนี้ไม่สามารถได้รับ เนื่องจากเกิดอยู่ในที่ห่างไกลไม่สามารถทราบว่าญาติทำการกุศลอุทิศให้ตน จึงมิได้อนุโมทนาว่าสาธุ ส่วนปรหัตตุปชีวิตเปรต มักเกิดอยู่ในบริเวณบ้าน บางทียังปรากฏตนให้ญาติ ๆ ได้พบ พากันเรียกโดยทั่วไปว่า "ผี" เปรตจําพวก จึงสามารถทราบการทําการกุศลของเหล่าญาติและอนุโมทนาด้วย อย่างไรก็ดีแม้เกิดเป็นปรทัตตุปชีวิกเปรต แต่ถ้าไม่สามารถทราบได้ว่ามีผู้อุทิศส่วนกุศลให้ ไม่ได้อนุโมทนาว่าสาธุ ย่อมไม่ได้รับส่วนกุศลเช่นเดียวกัน

 

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

        ส่วนบรรดาผู้ที่ไปเกิดในภพภูมิอื่น ๆ ในนรกบ้าง ติรัจฉานบ้าง เทวดาบ้าง พรหมบ้างหมู่ญาติทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ไม่สำเร็จประโยชน์แก่บุคคลเหล่านี้แต่ประการใด เพราะในภพภูมินั้น ๆ มีสิ่งที่เขาได้รับเฉพาะอยู่แล้ว เช่น เมื่อญาติพี่น้องตายลง เกิดเป็นสุนัขอยู่ในบ้าน สุนัขนั้นก็สามารถกินได้แต่เพียงอาหารที่คนเลี้ยง หรือเกิดเป็นวัว ควาย คงกินได้เพียงหญ้า น้ำ บุญที่มีผู้อุทิศให้ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์อันใด แม้เกิดเป็นเทวดาพรหม ย่อมมีอาหารกินในภพภูมิเหล่านั้นประจำอยู่ ไม่จำต้องได้รับการอุทิศส่วนกุศล

 

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

        การทำบุญอุทิศส่วนกุศล แม้ญาติจะไม่ได้รับโดยตรง แต่บุญนั้นไม่สูญหายไปใด ย่อมเป็นของผู้บำเพ็ญ เป็นบุญติดตัวทั้งในชาตินี้ ชาติหน้า และชาติต่อ ๆ ไป

        เมื่อเวลาทําบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ควรสมาทานศีล และเจริญภาวนาให้จิตใจสงบเสียก่อน ไม่ควรมีเรื่องที่เป็นอกุศลปะปนเช่น เลี้ยงสุรา เล่นการพนัน มีมหรสพ ทั้งนี้เพื่อให้ได้อานิสงส์ในการทำบุญนั้นโดยเต็มที่ และผู้ที่ตายไปถ้าได้อนุโมทนา จะได้รับผลบุญเต็มที่เช่นเดียวกัน

 

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

       การทำบุญที่เจือด้วยอกุศล มีการสนุกสนานเฮฮา ผู้กระทำได้รับอานิสงส์น้อย ยิ่งหากบังเอิญตายลงในขณะนั้น จิตใจเกาะเกี่ยวในส่วนที่เป็นบาปมากกว่าส่วนที่เป็นกุศล จะไปเกิดในอบายภูมิทันที

        การอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วนั้น สามารถกระทำได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์กันในชาตินี้ หรือเคยมีความสัมพันธ์กันมาในอดีตชาติ

 

ภูมิเปรต (เปตตวิสัยภูมิ)

      อนึ่งอายุของเปรต ไม่แน่นอน แล้วแต่กรรม สําหรับเปรตที่สามารถรับส่วนกุศลที่มีผู้อุทิศให้ได้ และมีกรรมไม่หนักมาก อาจพ้นจากอบายภูมิโดยทันที ในขณะอนุโมทนาสาธุการนั้นเอง

 

 

"ผู้ปรารถนาสุขให้เกิดแก่ตน            โดยทำความทุกข์ให้ผู้อื่น
ผู้นั้นย่อมช้องอยู่ในเวร                   ไม่พ้นจากเวรไปได้"

พุทธพจน์
 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0012259840965271 Mins