อสุรกาย (อสุรภูมิ)

วันที่ 21 เมย. พ.ศ.2565

อสุรกาย (อสุรภูมิ)
 

เราคือใคร, Who we are, ถวิล วัติรางกูล, เกิดมาทำไม, ตายแล้วไปไหน, ภูมิมนุษย์, มนุษย์, เกิด แก่ เจ็บ ตาย, ภพภูมิ, กิเลส, ตัวเรา, รูปธรรม, นามธรรม, ดวงจิต, สรรพสัตว์, จักรวาลและภูมิ ๓๑, เวียนว่ายตายเกิด, จักรวาล , อบายภูมิ ๔ , นรก , เดรัจฉาน , เปรต , อสุรกาย, เรื่องของพระยายมราชและนายนิรยบาล , พญายม , นายนิรยบาล, อสุรกาย (อสุรภูมิ)

      อสุระ คือเหล่าสัตว์ที่ไม่สว่างรุ่งโรจน์ (คือไม่แช่มชื่น ด้วยไม่มีอิสระและความสนุกรื่นเริง) หมายความว่า มีความเป็นอยู่ไม่สมบูรณ์ เช่น มีอาหารการกินที่อดอยาก มีของใช้ที่ไม่ดี บางทียังมีความทุกข์ยากในความเป็นอยู่ต่าง ๆ

       เปรตที่เรียกว่า กาลกัญจิกเปรต หรือเรียกว่าอสุรา ไม่มีภูมิเป็นที่อยู่ของตนเอง โดยเฉพาะ อยู่ตามป่า ทะเล มหาสมุทร ภูเขา เกาะและเหว เป็นต้น

        อสุรา มี ๓ อย่าง คือ เทวอสุรา เปตอสุรา และนิรยอสุรา
             เทวอสุรา     ได้แก่ เทวดาพวกที่เรียกว่า อสุระหรืออสูร
             เปต อสุรา    ได้แก่ เปรตที่เรียกว่าอสุระ
             นิรยอสุรา     ได้แก่ สัตว์นรกที่เรียกว่าอสุระ

        เทวอสุรา มี ๖ อย่าง คือ
             ๑. เวปจิตติอสุรา
             ๒. สุพ อสุรา
             ๓. ราหุอสุรา
             ๔. ปหารอสุรา
             ๕. สัมพรตีอสุรา
             ๖. วินิปาติกอสุรา

       เทวอสุรา ๕ พวกแรก มีที่อยู่ใต้ภูเขาสิเนรุ มีความเป็นอยู่คล้ายเทวดาชั้นดาวดึงส์ แต่เป็นปฏิปักษ์กับเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยมีเรื่องการแย่งภพภูมิที่อยู่กันมาแต่ในสมัยอดีต

       เทวอสุราพวกสุดท้าย วินิปาติกอสุรา มีอำนาจน้อยกว่าเทวดาชั้นดาวดึงส์ รูปร่างสัณฐานเล็กกว่า มีที่อยู่อาศัยไม่แน่นอน เที่ยวอาศัยในมนุษยโลกทั่วไป เช่น ตามป่า ตามเขา ต้นไม้ และศาลที่เขาปลูกไว้ อันเป็นที่อยู่ของมุมมัฏฐเทวดา พูดได้ว่าวินิปาติกอสุรา คือบริวารของภุมมัฏฐเทวดานั่นเอง ถ้าสงเคราะห์เข้าในพวกเทวดา นับได้ว่าเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา ไม่ใช่ดาวดึงสาเหมือนอสุรา ๕ พวกข้างต้น

          เปตติอสุรา มี ๓ จําพวก คือ กาลกัญจิกเปรตอสุรา เวมานิกเปรตอสุรา อาวุธิกเปรตอสุรา พวกแรก กล่าวไว้แล้วในเปตตวิสัยภูมิ

          เวมานิกเปรตอสุรา เป็นจำพวกเปรตที่เสวยทุกข์ในเวลากลางวัน เสวยสุขในเวลากลางคืน โดยมีความสุขเหมือนเทวดาชั้นดาวติงสา

          อาวุธิกเปรตอสุรา คือพวกเปรตที่ใช้อาวุธต่างๆ เข้าประหัตประหารซึ่งกันและกัน ไม่มีความรักใคร่กันเหมือนเทวดาชั้นดาวดึงสา

         นิรยอสุรา ที่อยู่ของสัตว์พวกนี้ อยู่ที่โลกันตริกนรก ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกลางของจักรวาลทั้งสามที่มีเขตเชื่อมติดต่อกัน อยู่ตรงช่องว่างตรงกลาง ภายในที่ว่างนี้มืดมิด มีน้ำเย็นจัด ถ้าสัตว์นรกตนใดตกลงไปในน้ำ ร่างกายจะละลายทันที ราวถูกน้ำกรดอย่างแรงกดละลายสูญสิ้นไปโดยรวดเร็ว สัตว์ในโลกันตริกนรกนี้ มีความเป็นอยู่เหมือนค้างคาวที่เกาะอยู่ตามฝาผนัง ต่างพากันเกาะอยู่ตามขอบกำแพงจักรวาล ภายในช่องว่างตรงกลางของจักรวาลทั้งสาม มีความหิวกระหายเป็นกำลัง ขณะกำลังไต่ไปมา ถ้าไปสัมผัสสัตว์นรกตัวอื่นเข้า ก็เข้าใจว่าเป็นอาหาร ต่างกระโดดเข้ากัดกันทันที เมื่อกระโดดเข้าหากันย่อมปล่อยมือจากการเกาะ ทำให้ตนเองหล่นลงไปในน้ำกรดเย็นจัดละลายตัวเองจนหมด เมื่อตายแล้วก็เกิดมีชีวิตเป็นขึ้นมา เกาะอยู่ตามเดิมใหม่อีก หมุนเวียนอยู่ดังนี้ไม่สิ้นสุด สัตว์เหล่านี้ร่างกายใหญ่โตมากราวภูเขา แม้จะมีอยู่จำนวนมากมายเท่าใด ก็ไม่สามารถมองเห็นซึ่งกันและกันได้เลย เพราะเป็นภูมิที่อยู่ในความมืดมิดเป็นที่สุด

      อกุศลกรรมที่เป็นเหตุให้ไปเกิดในอสุรกายภูมิ เกิดจาก โมหะ เป็นส่วนใหญ่ขาดปัญญาพิจารณาใคร่ครวญในสิ่งต่าง ๆ เมื่อมีทรัพย์ มีอำนาจ จึงมักใช้ไปในทางผิดๆ บุคคลใดเป็นคนมีคุณงามความดีควรยกย่องสรรเสริญ กลับกดขี่ข่มเหงดูถูกติเตียนส่วนคนเลวประพฤติทุจริตผิดศีลธรรม กลับยกย่องสนับสนุน ทั้งนี้เป็นต้น

         สัตว์ในนรก เปรต และอสุรกาย เหล่านี้ เมื่อเวลาเกิดขึ้นในภพนั้น ๆ เกิดแบบโอปปาติกะ คือเกิดโดยมีร่างกายปรากฏโตใหญ่ขึ้นทันที ไม่ต้องเป็นทารกในครรภ์ เกิดในไข่ หรืออื่นๆ

 

 

"เล่ห์ล้อหมุนตามรอยต้นแล้ว      มั่นมั่วลาภแอกอันหนักใหญ่
คือทุกข์บาปร้อนไหม้ตามไป       ทุกข์สมัยเวรกรรมมืดงำเอย"

อังคาร กัลยาณพงศ์

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0011236349741618 Mins