"ทำอะไรไม่ขึ้น"
เจริญพร วันนี้มีคุณโยมท่านหนึ่งได้ถามเข้ามาว่า ทำอะไรก็ไม่ขึ้น มีเงินบ้างก็จะมีเหตุให้ต้องจ่ายเงิน แล้วเงินก็หมดไป ค่าครองชีพแทบไม่พอ ทั้งๆที่ก็เป็นคนดี ศีลก็รักษา ทานก็ชอบให้เท่าที่จะมี ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น จะแก้อย่างไรดี
ต้องขอบอกว่า คุณโยมเวลามองอะไรอย่ามองแค่เฉพาะหน้า มันมีผลสั่งสมต่อเนื่องมา คนที่แต่เดิมเราเปรียบกับการเรียน เรียนหนังสือไม่ดี พื้นฐานไม่แน่น พอจะมาตั้งใจเรียน ขยันเรียน มันยังไม่ได้เก่งในสองเดือนสามเดือน ต้องค่อยใช้เวลาสั่งสม แต่ถ้าเกิดไม่ท้อ ยืนหยัดขยันหมั่นเพียร ดูหนังสืออย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายเราก็จะเป็นคนที่เรียนเก่ง ประสบความสำเร็จได้ ในทางกลับกัน คนที่พื้นฐานดีเรียนเก่งมาก่อนถึงคราวอาจจะขี้เกียจไปบ้าง เดือนสองเดือนเขาก็ยังไม่ใช่ว่าการเรียนจะวูบลงไปเลย ฐานเดิมยังหนุนไว้ ก็เหมือนบางคน เขาทำอะไรไม่ค่อยดี ทำไมเขายังดูประสบความสำเร็จ ทั้งที่ความประพฤติไม่ค่อยดี บุญเก่ายังตามหนุนส่ง แต่ของเราเองตั้งใจทำความดี แต่ยังไม่สำเร็จ วิบากกรรมในอดีตยังตามมา ฉนั้นให้ยืนหยัดเดินหน้าทำความดีต่อไป สุดท้ายความสำเร็จจะเป็นของเรา เพราะว่าในอดีตเราเองก็อาจจะเคยทำดีอยู่บ้าง บางทีมันก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง จังหวะวิบากกรรมที่ไม่ดีมาส่งผลก่อน เราก็เลยมีปัญหาอย่างนี้ ถ้ายืนหยัดทำความดีต่อไป สุดท้ายสายบุญก็จะเชื่อมต่อ เราก็จะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ แล้วในขณะเดียวกัน อย่าลืมสร้างเหตุในปัจจุบัน ก็คือการตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เอาเป็นว่าลูกค้าทุกคนที่มาถึงเราแล้ว ทำให้เขาประทับใจในงานที่เราทำ ในการต้อนรับ ในการให้บริการ อย่ามานั่งซึมนั่งเซ็ง จนกระทั่งหน้าตาบอกบุญไม่รับ ยิ้มแย้มแจ่มใสลูกค้ามาถึง บริการเขาให้สุดฝีมือ ยิ่งลูกค้าน้อยเราก็มีเวลาบริการลูกค้าแต่ละคนได้มากขึ้น บริการหลังการขายก็ให้เต็มที่ ใครมาถึงเราแล้ว ให้เขารู้สึกว่าไม่อยากไปร้านอื่นอีกเลย ต้องผูกเป็นเจ้าประจำกับเราเองตลอดชีวิต แล้วก็อยากจะไปบอกต่อ ถ้าอย่างนี้แล้ว สุดท้ายเราก็จะประสบความสำเร็จ ได้ด้วยบุญปัจจุบันที่เราเองตั้งใจทำ ทั้งหน้าที่การงาน ทำอย่างเต็มที่แล้วก็สร้างบุญอย่างสม่ำเสมอ
เจริญพร
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
