ใช้พลังบวก ในการขับเคลื่อนชีวิต
ในสมัยราชวงศ์ฮั่นนั้น มีชื่อเสียงเกรียงไกรในทางประวัติศาสตร์ของจีนมาก คนจีนปัจจุบันเรียกตนเองว่า “ชาวฮั่น” เพราะราชวงศ์ฮั่นปกครองจีนมายาวนานกว่า 400 ปี และวางรากฐานทางวัฒนธรรมและอารยธรรมของจีนที่สำคัญไว้มากมาย
คนที่มีบทบาทสำคัญในการสถาปนาราชวงศ์ฮั่น คือ “ฮั่นสิน” แม่ทัพใหญ่ที่ปราบได้ทั้งหมด และยังทำให้ “เล่าปัง” สถาปนาราชวงศ์ฮั่น ขึ้นปกครองเป็นพระเจ้าฮั่นโกโจฮ่องเต้ของจีนได้ โดยมีฮั่นสินเป็นผู้นำทับขับเคลื่อนการรบ
แต่ประวัติของฮั่นสินสมัยที่ยังหนุ่มนั้น มักจะโดนนักเลงใหญ่รังแก ถึงขนาดต้องยอมคุกเข่าคลานลอดใต้หว่างขาคนอื่นกลางตลาดมาแล้ว
เกิดเป็นลูกผู้ชายนั้น “หัวเข่าล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำ” แต่ต้องยอมคุกเข่าลอดใต้หว่างขาคนอื่นนั้นน่าอับอายมาก สู้หน้าใครไม่ได้แล้วชาตินี้
แต่สุดท้ายฮั่นสินก็ฮึดสู้ ฝึกฝนวิทยายุทธ์จนสามารถรบในแบบตำราพิชัยสงคราม กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ สถาปนาราชวงศ์ฮั่นได้ในที่สุด
เมื่อฮั่นสินกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ เขาย้อนกลับไปจับตัวหัวหน้าอันธพาลที่เคยรังแกตนเองมา นักเลงคนนั้นนึกกลัวจนตัวสั่น เขานึกในใจว่าตนเองต้องตายแน่ ๆ
แต่แม่ทัพฮั่นสินกลับกล่าวกับนักเลงผู้นั้นว่า
“ขอบคุณที่ทำให้ข้ามีวันนี้”
แล้วตบรางวัลให้อีกด้วย นี่คือหัวใจของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงจะต้องเผชิญกับเรื่องหนัก ๆ ในชีวิต ก็ไม่คิดไปในทางร้ายเลย แต่กลับมองหาประโยชน์ในทางที่ดี มีความรู้สึกขอบคุณ
พอเติมความรู้สึกขอบคุณลงไปแล้ว ก็จะเกิดการขับเคลื่อนทางบวก ทำให้จากเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ ที่เคยถูกรังแก และโดนดูถูกเหยียดหยามอย่างหนัก กลับกลายเป็นแม่ทัพฮั่นสินผู้ยิ่งใหญ่ในที่สุด
ดังนั้น เราเองพอเจอเรื่องหนัก ๆ ในชีวิต ก็ให้ถามตนเองว่า หนักหนาถึงขนาดถูกบังคับให้คลานลอดใต้หว่างขาคนอื่นแล้วหรือยัง ถ้ายังก็แปลว่าไม่หนักหนาเท่าไร พอทนได้
เพราะฉะนั้น ให้เรามองทุกสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยความรู้สึกขอบคุณ
ในขณะเดียวกันความความรู้สึกขอบคุณจากใจจริงของเรานั้น ก็จะไปเหนี่ยวนำความดีในใจคนอื่นให้ทำงาน กระตุ้นความดีในใจลึก ๆ ของเขาที่มีอยู่ให้แสดงออกมา แล้วสิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้น เมื่อเราใช้พลังบวกด้วยคำพูดว่า "ขอบคุณ"
เจริญพร
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ