วิบากกรรมคนอาการป่วยทางจิต
โยมถาม : วิบากกรรมใดที่ทําให้ร่างกายอ่อนแรงและมีอาการป่วยทางจิต แล้วทำอย่างไรให้เรากลับมามีสุขภาพแข็งแรงได้เหมือนเดิมคะ
พระอาจารย์ตอบ : โรคทางกายก็อย่างหนึ่ง โรคทางใจก็อย่างหนึ่ง เริ่มจากร่างกายที่อ่อนแรง แก้ไขได้ด้วยการหมั่นออกกําลังกาย โดยเริ่มจากการทํางานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่มัวแต่นั่งซึมอยู่กับที่ อย่างนั้นจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ
ลุกขึ้นมาเลยทําความสะอาดบ้าน เริ่มจากห้องนอนของตนเองก็ได้ แล้วรดน้ำต้นไม้ ล้างรถ ทําอาหาร ล้างจาน เพราะการทำงานบ้านต่าง ๆ นี้จะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว มีส่วนช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง และมีกําลังมากขึ้น พอเหงื่อออกอารมณ์เราก็จะเบิกบานตามไปด้วย ใครที่มัวแต่นั่งซึมอย่างเดียว อารมณ์ก็จะยิ่งหดหู่ลงไปเรื่อย ๆ มีผลจากทางกายไปถึงทางใจ
ส่วนประเด็นที่สอง คือ โรคจิตใจ ถ้าเราพบว่าตนเองมีปัญหาทางจิตไม่ว่าระดับใด ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาแนวทางรักษาก่อนเป็นอันดับแรก ในต่างประเทศการไปพบจิตแพทย์เป็นเรื่องธรรมดามาก ขนาดนักกีฬาชื่อดังอย่าง ไทเกอร์วูด แชมป์กีฬากอล์ฟระดับโลก ก็ยังเข้าพบจิตแพทย์ในบางช่วงเช่นกัน
แชมป์กีฬาเทนนิสหญิงชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งได้อันดับหนึ่งมาครองเมื่อมาไม่นานมานี้ ก็ออกมายอมรับว่า ตนเองมีปัญหาด้านจิตใจ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และกําลังเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์
การไปพบจิตแพทย์ถือเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับการที่เราไปหาหมอรักษาไข้หวัด เราอย่าไปคิดว่าการไปหาจิตแพทย์แปลว่าเราบ้า การคิดอย่างนั้นไม่ถูกต้องเลย
มิเชลล์ โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ยังเคยออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเคยเข้าพบจิตแพทย์มาแล้ว
เพราะฉะนั้น เราก็สามารถเข้าไปปรึกษาคุณหมอได้หากมีอาการป่วยทางจิต เพื่อเราจะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จากนั้นกลับมาบ้านกินยาไปด้วยปฎิบัติตามที่คุณหมแนะนำ แล้วก็ให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญทำทาน เพื่อให้จิตใจได้ผ่อนคลายเบาสบายยิ่งขึ้น
แต่ถ้าอาการป่วยทางจิตของเรานั้นหนักหนาถึงขั้นหูแว่ว เห็นภาพหลอนหรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า "ฮาลูซิเนชั่น” (Hallucination) อย่างนี้เริ่มมีอาการทางจิตระดับสูงแล้ว อย่าเพิ่งไปนั่งสมาธิ เพราะใจเรายังป่วยอยู่ ยังไม่พร้อม เหมือนคนที่ขาแพลงอยู่แล้วไปวิ่ง อาการก็ยิ่งหนักขึ้น แตกต่างกับคนที่มีร่างกายปกติแล้วไปวิ่งก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้น
เปรียบกับคนที่มีอาการทางจิต อย่าเพิ่งไปนั่งสมาธิ อย่างมากแค่สวดมนต์พอ แต่ถ้าอาการทุเลาลงแล้ว เป็นโรคซึมเศร้าไม่มาก อย่างนี้สามารถนั่งสมาธิได้
ดังนั้น ก่อนอื่นให้เราไปตรวจดูก่อนว่า อาการป่วยทางจิตของเรานั้นอยู่ในระดับใด คือ มีประสาทหน่อย ๆ นั่งสมาธิได้ แต่ถ้าถึงขั้นเป็นไซโคลซีส คือ มีอาการบ่งชี้สำคัญว่าเป็นโรคจิตแล้ว เช่น เห็นภาพหลอน หูแว่ว อย่างนี้อย่าเพิ่งนั่งสมาธิ ทำแค่สวดมนต์ก็พอ
เจริญพร.