ใครก็แย่งเอาบุญไปไม่ได้

วันที่ 28 สค. พ.ศ.2567

2567-08-28b.jpg

 

ใครก็แย่งเอาบุญไปไม่ได้

 

       เมื่อมหาทุคตะกลับมาถึงเรือน  มองเห็นกองรัตนชาติมากมายอยู่บริเวณรอบบ้านและภายในบ้าน  เห็นภรรยาและลูกๆ  รออยู่บริเวณหน้าบ้านเพราะเข้าบ้านไม่ได้ เขาจึงนำความไปกราบทูลต่อพระราชาว่า “บ้านของข้าพระองค์ตอนนี้มีหินอะไรก็ไม่ทราบกองอยู่เต็มไปหมดสวยงามมาก สงสัยว่าจะเป็นสิ่งที่มีค่า ขอพระองค์ทรงส่งเกวียนมาสักพันเล่ม เพื่อมาขนหินสวยงามเหล่านี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” การที่ต้องใช้เกวียนถึงพันเล่ม แสดงว่ารัตนชาติมีจำนวนมาก และหากนำเอาเกวียนมาต่อกันจะเป็นแถวยาวหลายกิโลเมตร
 

2567-08-28-b.jpg

2567.08.28%20b.jpg

       พระราชาจึงรับสั่งให้คนมาขนรัตนชาติตามที่มหาทุคตะร้องขอและให้นำเอาไปกองไว้หน้าวัง เป็นกองรัตนชาติสูงใหญ่มาก ในระหว่างทางที่มหาดเล็กมาขนรัตนชาติไปนั้นก็พูดคุยกันว่า “รัตนชาติเหล่านี้สวยงามด้วยสีสัน รูปทรง และขนาดที่ใหญ่โต สวยจริงๆ เลย เกิดมาไม่เคยเห็นรัตนชาติอะไรสวยงามขนาดนี้ ของพวกนี้คงจะเป็นสมบัติของพระราชานะ” แค่คิดอย่างนี้เท่านั้น รัตนชาติก็กลายเป็นดินเป็นหินไปในทันที

       เนื่องจากฝนรัตนชาติที่ตกมาครั้งนี้  เป็นสิ่งที่สำเร็จได้ด้วยบุญเฉพาะตน  ใครจะมาแย่งเอาไปไม่ได้  เพียงแค่ข้าราชบริพารคิดกันไปว่า รัตนชาติเหล่านี้เป็นของพระราชาเท่านั้น กองรัตนชาติก็กลับกลายเป็นก้อนหินหรือดินไปทันที เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องขนกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ

2567.08.28b.jpg

       เมื่อนำความไปเล่าให้พระราชาฟัง   พระองค์จึงทรงถามว่า   “เธอคิดอย่างไร”   เหล่ามหาดเล็กจึงกราบทูลว่า   “พวกข้าพระองค์คิดว่า ทรัพย์ทั้งหมดนี้เป็นของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” พระองค์จึงทรงชี้แจงว่า “ทรัพย์เหล่านี้ไม่ใช่ของเราพวกท่านไปคิดอย่างนั้นไม่ได้ นี่เป็นบุญของเขา ให้กลับไปคิดใหม่ว่า จะขนทรัพย์ของมหาทุคตะและครอบครัวเอามากองที่ลานหน้าพระราชวัง” พอพวกข้าราชบริพารคิดใหม่ ดินหินก็กลับกลายเป็นรัตนชาติอีกครั้ง

           นับเป็นเรื่องที่แปลกมากทีเดียว  หากเป็นบุญของเราแล้วโจรก็ไม่สามารถปล้นเอาไปได้  ไฟก็ไม่ไหม้  น้ำก็ไม่ท่วม  ใครจะคิดคดโกงก็ไม่สามารถเอาไปได้ทั้งนั้น เพราะสิ่งนี้สำเร็จได้ด้วยบุญของเรา

         เมื่อมหาดเล็กขนกองรัตนชาติทั้งหมดไปไว้ที่ลานหน้าพระราชวังแล้วมหาทุคตะ    ภรรยา   และบุตร  จึงเข้าไปในบ้านได้   ครอบครัวของมหาทุคตะไม่มีใครสนใจในกองรัตนชาติเหล่านั้นเลย เพราะคิดว่าทรัพย์ที่เกิดมาเหล่านั้นเป็นของพระราชา พอกลับเข้าไปในบ้านได้ จึงรีบตรงเข้าไปในครัว แล้วเปิดฝาที่ครอบภัตตาหาร เห็นข้าวคลุกปลาตะเพียนเหลืออยู่จึงพากันทานทั้งครอบครัวข้าวนั้นทั้งหอมหวาน อร่อยมีโอชารส ทานแล้วรู้สึกสดชื่นไปทั้งเนื้อทั้งตัวอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ผิวพรรณวรรณะก็พลันเปล่งปลั่งขึ้นมา มีสง่าราศีเหมาะสมที่จะเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองในตอนนั้นเอง

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0019457856814067 Mins