กรรมอะไร มาเกิดเป็น นาค ครุฑ ยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์
กรรมอะไร จึงมาเกิดเป็น นาค ครุฑ ยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ครับ ?
พระอาจารย์ตอบ :
คุณโยม ผู้ที่ไปเกิดเป็น นาค ยักษ์ ครุฑ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเทวดาจำพวกหนึ่งก็ว่าได้ อาจจะเป็นสัตว์ แต่ก็เป็นสัตว์พิเศษ อยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ก็คือทำบุญมาระดับหนึ่ง แต่ว่ามันมีของผสม เช่นว่า เกิดมาเป็นนาคเพราะว่า ของผสมก็คือจะออกเชิงราคะ เป็นคนขี้หึง เจ้าชู้ แต่ก็ทำบุญ แล้วไม่ได้หาบาปท่ากรรมอะไรมาก ถึงขนาดเจ้าชู้แต่ก็ไม่ได้ไปผิดศีล ผิดลูกผิดเมียเขา ผลก็คือไปเกิดเป็นนาค มีวิบากกรรมราคะเจือ
ส่วนไปเกิดเป็นครุฑ เป็นเพราะว่าก็ทำบุญมา แต่ไม่ได้เยอะมากนัก แล้วไม่ได้ทำบาปทำกรรมอะไรเยอะ แต่เป็นคนที่ถือทิฐิ กร้าว หยิ่ง ผยอง ไม่ยอมใคร ก้าวร้าวหน่อย วิบากกรรมไปเกิดเป็นครุฑ
ส่วนผู้ที่เกิดเป็นยักษ์ วิบากกรรมที่เงื้อมาก็คือว่า ขี้โกรธ โมโห บุญก็ทำนะ แต่ว่าขี้โมโหด้วย มันก็เลยไปเกิดเป็นยักษ์
ส่วนกุมภัณฑ์ก็คล้าย ๆ ยักษ์ พุงจะโล ๆ หน่อย พญายมราชนี่ก็กุมภัณฑ์ประเภทหนึ่ง กุมภัณฑ์เองก็มีหลายระดับชั้น ระดับสูงหน่อยก็เป็นพญายมราช ระดับกลางหน่อยก็เป็นผู้คุม ยมทูต อย่างนี้เป็นต้น อันนี้ก็อยู่ในตระกูลเดียวกับยักษ์ ก็คือเจือด้วยโทสะ ใครชอบทำบุญแต่ทำหน้าดุ ๆ คนอื่นเขากลัว เขาไม่สบายใจ อึดอัด ระวังนะ เดี๋ยวไปเกิดเป็นกุมภัณฑ์ล่ะยุ่งเลย
ส่วนคนธรรพ์ คือประเภทที่ว่าชอบเรื่องดนตรี ดีด สี ตี เป่า อะไรไปด้วย เช่น มีงานวัด งานศพ เดี๋ยวไปเล่นปี่พาทย์ ตะโพน อะไรต่าง ๆ ดนตรีไทยในงานศพบ้าง มีงานบวชนาคก็ไปตีกลองยาว ตีฉิ่ง ตีฉาบ อย่างนี้เป็นต้น วิบากกรรมผสมมาตรงนี้ ถึงไปเกิดเป็นคนธรรพ์ ซึ่งจะชอบเรื่องดนตรี แต่ถ้าเกิดว่าชอบสิ่งเหล่านี้ แต่ว่าทำบุญเยอะๆ ไปเลย มันก็พ้นไปเลย แม้จะชอบเกี่ยวกับเรื่องดีด สี ตี เป่า แต่ทำบุญเยอะๆ ก็ไม่ต้องเป็นคนธรรพ์ ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ว่าบุญที่เราทำ มีปริมาณมากพอหรือเปล่าด้วย
เจริญพร.
