จุดเริ่มต้นของวิถีชีวิต

วันที่ 05 มีค. พ.ศ.2558

จุดเริ่มต้นของวิถีชีวิต

การมีสัมมาทิฏฐิ

     สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะนำไปสู่การตั้งเป้าหมายของชีวิต และการเลือกวิถีชีวิต คือ วิธีที่เรามองโลกและชีวิต ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำไปสู่ความคิด คำพูด และการกระทำของเรา ยกตัวอย่างเช่น เด็ก 3 คน เห็นนกบินมาเกาะที่ต้นไม้ คนแรกมองเห็นนกเป็นอาหาร ก็คิดว่า “ มันน่ายิง เอามาย่างกิน คงอร่อยดี”Ž คนที่สองมองเห็นเป็นของเล่น ก็คิดว่า ”นกสีสวยจริงๆ น่าจับมาเลี้ยง”Ž คนที่สามมองเห็นนกเป็นสัตว์ที่มีความทุกข์ ก็คิดว่า  “ มันมีกรรมอะไรหนอ ถึงต้องมาเกิดเป็นนก”Ž แม้ภาพนกที่ทั้งสามคนมองเห็นจะเป็นภาพเดียวกัน แต่การแปล ความหมายภาพนั้นมาสู่ ความคิด คำพูด และการกระทำ กลับแตกต่างกันมากมาย ทั้งนี้เพราะแต่ละคนมองสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ผ่านกรอบความคิดที่ต่างกันนั่นเอง ดังนั้นวิถีชีวิตของเรา จะดำเนินไปอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น คือ กรอบความคิด หรือความรู้ความเข้าใจเรื่องโลกและชีวิตนั่นเอง

     ดังที่เราได้ทราบแล้วว่าแผนที่ในการดำเนินชีวิต ก็คือ วิธีที่เรามองโลกและชีวิต ดังนั้น หากต้องการให้เส้นทางชีวิตนั้นพบกับความสุขและความสำเร็จที่แท้จริง ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึง ถึงประการแรกคือ การมองโลกและชีวิตให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ซึ่งศัพท์ทาง พระพุทธศาสนาเรียกว่า สัมมาทิฏฐิŽ

ความหมายของคำว่า “ สัมมาทิฏฐิ”Ž

     สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นถูก หมายถึงการมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องโลก และความเป็นไปของชีวิต ว่าเป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ คือ มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ถ้าเข้าใจอย่างนี้แล้ว หนทางในการก้าวไปให้ถึงเป้าหมายของชีวิตก็เป็นเรื่องที่ไม่ยาก จนเกินไป อีกทั้งหนทางการสร้างบารมีก็จะสว่างสดใสเลยทีเดียว

ระดับของสัมมาทิฏฐิแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ

1. สัมมาทิฏฐิเบื้องต้น หรือระดับโลกียะ เป็นความเข้าใจถูกในระดับที่เกื้อกูลให้ชีวิต ได้รับความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า หรือในระหว่างที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด จนกว่าจะหมดกิเลส

2. สัมมาทิฏฐิเบื้องสูง หรือระดับโลกุตตระ เป็นความเข้าใจถูกในระดับ รู้แจ้งเห็นจริงของพระอริยเจ้าด้วยการเจริญสมาธิภาวนา จนสามารถกำจัดกิเลสได้ไปตามลำดับ

     สัมมาทิฏฐิเบื้องต้นสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ เป็นเรื่องที่ชาวโลกทุกคน ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง มี 10 ประการ คือ

1. ทานที่ให้แล้วมีผล (หมายถึงการให้ในระดับแบ่งปันกัน)

2. ยัญที่บูชาแล้วมีผล (หมายถึงการให้ในระดับสงเคราะห์กัน)

3. การเซ่นสรวงมีผล (หมายถึงการบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลดีจริง)

4. ผลคือวิบากของกรรมที่ทำดีและทำชั่วมี (กฎแห่งกรรมมีจริง)

5. โลกนี้มี (หมายถึงความเชื่อเรื่องผลกรรมข้ามชาติมีจริง)

6. โลกหน้ามี (หมายถึงความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด)

7. มารดามี (หมายถึงมีบุญคุณ)

8. บิดามี (หมายถึงมีบุญคุณ)

9. สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะมีจริง (สัตว์ที่ผุดขึ้นเกิดแล้วโตทันทีมีจริง)

10. ในโลกนี้มีสมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองมีอยู่ (พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสได้ด้วยตนเองมีจริง)

 

จากหนังสือ DOU
วิชา SB 101 วิถีชาวพุทธ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.00099416573842367 Mins