ชุมชนบ้านกัลยาณมิตร
การเปิดบ้านกัลยาณมิตร มีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกอบรมบ่มนิสัยสมาชิกทุกๆ คน ในบ้านให้เป็นกัลยาณมิตร ถ้าแต่ละบ้านในชุมชนล้วนเป็นกัลยาณมิตรกันทั้งหมด ผู้คนในชุมชนก็จะมีแต่คนดี หรือกัลยาณมิตรถ้าผู้คนในชุมชนทุกคนเป็นคนดี คนเลวย่อมไม่ปรากฏ นั่นคือ สังคมสันติสุขได้เกิดขึ้นแล้ว
ดังนั้น ผู้ที่สามารถเปิดบ้านกัลยาณมิตรได้แล้ว สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีความพร้อมเพรียงในการปฏิบัติกิจกรรมโดยไม่มีปัญหาขัดข้อง เจ้าของบ้านกัลยาณมิตรก็ควรจะมีวิสัยทัศน์ มองไกลไปถึง การสร้างเครือข่ายบ้านกัลยาณมิตรต่อไปอีกด้วย โดยการชักชวนเพื่อนบ้านบางคนมาร่วมกิจกรรม ปฏิบัติธรรมที่บ้านของเรา เพราะการสร้างเครือข่ายบ้านกัลยาณมิตร ก็คือการสร้างเครือข่ายคนดีอีก รูปแบบหนึ่ง
การสร้างเครือข่ายบ้านกัลยาณมิตร ควรเริ่มจาการพูดคุยชักชวนเพื่อนบ้านที่สนิทสนมคุ้นเคยกัน มาร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมที่บ้านของเราเป็นบางวัน ยิ่งถ้าวันใดเรามีโอกาสนิมนต์พระจากวัดกัลยาณมิตร มาสอนการเจริญภาวนาที่บ้านกัลยาณมิตรของเรา ก็อาจจะเชิญเพื่อนบ้านหลายๆ คนมาร่วมกิจกรรมปฏิบัติภาวนาด้วย (ถ้าสถานที่อำนวย)
การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว ถ้ามีการเริ่มต้นที่ดี ย่อมจะเป็นแรงจูงใจ ให้สมาชิกใหม่บางคนหรือทุกคน ปรารถนาจะปฏิบัติธรรมเป็นประจำที่บ้านของเขาเองบ้าง และในที่สุด เขาก็อาจจะเปิดบ้านของเขาเป็นบ้านกัลยาณมิตร โดยความยินยอม พร้อมใจของมวลสมาชิกในบ้าน
โดยวิธีนี้ จำนวนบ้านสมาชิกในชุมชนก็จะเริ่มขยายจาก 1 เป็น 2 เป็น 3 หรือ 4 หรือ 5 ฯลฯ ขยายวงออกไปเรื่อยๆ
สมาชิกในชุมชนนอกจากจะปฏิบัติธรรมในบ้านของตนเองแล้ว บางวันก็อาจจะรับเชิญไปปฏิบัติธรรมที่บ้านใกล้เคียงบ้าง หรือชักชวนเพื่อนบ้านมาปฏิบัติธรรมที่บ้านของตนบ้าง เป็นทำนองหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปปฏิบัติธรรมตามบ้านกัลยาณมิตรต่างๆ
โดยวิธีการนี้ สมาชิกในชุมชนก็จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ ประสบการณ์ทางโลกและทางธรรม ความรู้ความสามารถเฉพาะตน ข้อมูลข่าวสารกันบ่อยๆ ย่อมทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น เมื่อใครมีปัญหาเรื่องใด เพื่อนบ้านก็อาจจะช่วยกันชี้แนะวิธี แก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้
การเปิดบ้านกัลยาณมิตรให้ประสบความสำเร็จ
จากหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับบ้านกัลยาณมิตรที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การเปิดบ้านกัลยาณมิตรย่อมมีคุณค่ามหาศาลต่อการครองชีวิตของแต่ละคนๆ ต่อครอบครัว และต่อสังคมโดยรวม
บุคคลที่เป็นตัวจักรสำคัญ ที่ทำให้บ้านกัลยาณมิตรขับเคลื่อนไปได้จนประสบความสำเร็จ ก็คือ คู่สามีภรรยาที่ทำหน้าที่พ่อแม่ของลูก มีคุณสมบัติของคนดีที่โลกต้องการครบบริบูรณ์ทั้ง 4 ประการ มีลักษณะของกัลยาณมิตรอย่างแท้จริง ประกอบกับมีเจตนามุ่งมั่น ที่จะใช้กิจกรรมของบ้านกัลยาณมิตร เป็นเวทีฝึกลูกของตนให้เป็นคนดีที่โลกต้องการและเป็นกัลยาณมิตร
แท้ที่จริงการที่แต่ละครอบครัวจะเปิดบ้านกัลยาณมิตรนั้นไม่ใช่ของง่ายนักในระยะเริ่มต้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสุดวิสัยสำหรับผู้ที่มีความตั้งใจจริง ถ้าคู่สามีภรรยาซึ่งเป็นผู้เปิดบ้านกัลยาณมิตร สามารถเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ โครงการบ้านกัลยาณมิตรของเขาและเธอย่อมจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ต่อไปนี้คือ ตัวอย่างประกอบของการเปิดบ้านกัลยาณมิตรให้ประสบความสำเร็จ
1.คู่สามีภรรยาที่เปิดบ้านกัลยาณมิตร มีคุณสมบัติของคนดีที่โลกต้องการทั้ง 4 ประการ ทั้งมีลักษณะกัลยาณมิตรคงเส้นคงวา
2.เชื่อมั่นในคุณค่าอันประเสริฐของพระพุทธศาสนา มีความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนา สามารถนำมาปรับใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.คู่สามีภรรยา มีศรัทธา ศีล ทิฏฐิในพระพุทธศาสนาเสมอกัน การจัดกิจกรรม บ้านกัลยาณมิตร หากศรัทธา ศีล ทิฏฐิไม่เสมอกันจะเข้มแข็งเฉพาะในระยะแรก ครั้นนานไปก็จะย่อหย่อน อ่อนล้าลง ขาดความกระตือรือร้นเข้าทำนองไฟไหม้ฟาง ในที่สุดก็จะเลิกทำกิจกรรมกันไปเลย ซึ่งอาจจะมีผลทำให้ลูกเสื่อมศรัทธาในธรรมะไปด้วย
4.ภาระหน้าที่ในการประกอบอาชีพของคู่สามีภรรยา จะเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งในการทำกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัวโดยพร้อมเพรียงกัน ตามเวลาที่กำหนด ดังนั้นจึงควรจัดสรรเวลาให้ดี
5.ครอบครัวที่เริ่มเปิดบ้านกัลยาณมิตร เมื่อลูกๆ โตเกินวัยประถมต้นไปแล้ว อาจจะมีปัญหา ในการชักชวน จึงควรค่อยๆ แนะนำ โน้มน้าวอย่างใจเย็นๆ
6.ญาติผู้ใหญ่ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา แม้เพียงคนใดคนหนึ่งที่มาอยู่กับครอบครัว อาจเป็นได้ทั้งตัวปัญหาอุปสรรค หรือเป็นผู้ส่งเสริมการทำกิจกรรมของบ้านกัลยาณมิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะตัวของญาติแต่ละคนที่มาอยู่กับครอบครัว
7.พระธรรมคำสั่งสอนจำนวนมากมายถึง 84,000 พระธรรมขันธ์ เมื่อรวมสรุปลงเป็น ภาคปฏิบัติในชีวิตประจำวัน สำหรับฆราวาสแล้วก็จะมีเพียง 3 เรื่อง คือ ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งมีคำศัพท์ เรียกโดยเฉพาะว่า บุญกิริยาวัตถุ 3 การปฏิบัติบุญกิริยาวัตถุ 3 เป็นประจำวัน จะสามารถตอกย้ำความรู้ ความเข้าใจในพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงอยู่ในจิตใจพุทธศาสนิกยิ่งๆ ขึ้นไป แต่ถ้าบ้านกัลยาณมิตรชักนำ ส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัว ปฏิบัติบุญกิริยาวัตถุ 3 และให้ความรู้ด้านพระธรรมวินัย จะทำให้สมาชิกเกิดปัญญาสามารถนำความรู้และประสบการณ์จากการปฏิบัติกิจกรรมมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้
8.ครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ ในการเปิดบ้านกัลยาณมิตรที่ทายาทสืบสกุลเป็นคนดีที่โลกต้องการ มี ลักษณะกัลยาณมิตรอย่างครบถ้วน ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพการงาน แต่ถ้าทายาทเหล่านั้นเมื่อแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ไม่เปิดบ้านกัลยาณมิตร เพราะมีความคิดว่าการฝึกอบรมให้ลูกๆ ของตนเป็นคนดี ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเพราะตนเองซึ่งเป็นพ่อแม่เป็นคนดีอยู่แล้ว หรือจะเป็นเพราะมี เหตุผลอื่นใดก็ตามวงจรกัลยาณมิตรของตระกูลก็อาจจะจบอยู่ที่รุ่นลูกของตน ไม่มีสืบต่อไปถึงรุ่นหลานเข้าทำนองตระกูลเศรษฐีตั้งอยู่ไม่นาน อาจจะล่มสลายลงแค่เพียงสองสามชั่วคนเท่านั้น ดังนั้นจึงควรวางแผนระยะยาวให้บ้านกัลยาณมิตรดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด
อย่างไรก็ตาม อย่าได้กังวลกับปัญหาและอุปสรรคโดยไม่ได้เริ่มอะไร ควรทดลองเปิดบ้านกัลยาณมิตรไปก่อน อย่างน้อยที่สุดคนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด คือตัวท่านและครอบครัวท่านเอง มีข้อ น่าพิจารณาว่า ณ ปัจจุบัน สังคมส่วนใหญ่ถูกผลักดันมาสู่จุดที่เรียกได้ว่าไร้เป้าหมาย เพราะเยาวชนไม่เข้าใจคำว่า คุณธรรม และคุณงามความดี จริยธรรมกำลังเสื่อมถอย ความกตัญญูกตเวทิตาต่อบิดามารดาลดน้อยลง เด็กและเยาวชนไม่เคยได้รับการสอนให้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตอย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ พ่อแม่ ไม่มีเวลาให้ความรัก ความเอาใจใส่ ครั้นเมื่อพบปะเจอะเจอกันในบ้าน ก็กลายเป็นแหล่งที่ทุกคนพกพาเอาความเครียด ความกดดันจากข้างนอกเข้ามาแสดงใส่กัน ทุกคนต่างลืมที่จะหันหน้าเข้ามาฟูมฟัก ความรัก ความอบอุ่นในบ้านของตนและเป็นที่ปรากฏอย่างชัดเจนว่า ทุกวันนี้ปัญหายาเสพติด กำลังลุกลามโดยมีปัญหาความแตกร้าวในครอบครัวเป็นตัวผลักดัน มีปัญหาความไม่สำรวมทางเพศเป็นตัวส่งเสริม มีช่องว่างในครอบครัวเป็นทางเดินอันสะดวกที่จะนำปัญหาเข้าสู่สังคมให้ทุกข์ร้อนยิ่งขึ้น
ดังนั้น การดำเนินชีวิตครอบครัวอันเป็นหน่วยสำคัญที่เป็นแหล่งผลิต แหล่งหล่อหลอมบุคคลของชาติ ของสังคมและของหน่วยงาน ณ ปัจจุบัน ส่วนที่เป็น ใจหรือจิตสำนึก ของชาติกำลังได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงบ้านกัลยาณมิตรจะเป็นบ้านที่จะทำชีวิตในฝันให้พลันจริง บ้านที่จะเป็นแหล่งรวมทุกสิ่งแห่งความรัก ความดีงามเข้าไว้ เพื่อหล่อหลอมดวงใจ ของคนในบ้าน ให้เป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการสวดมนต์ หลับตาทำสมาธิอย่างสบายๆ รวมเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สิ่งนี้จะค่อยๆ หล่อหลอม น้อมนำใจทุกดวงของบ้านหลังนั้น ให้กลายเป็นต้นทางแห่งการรังสรรค์คุณงามความดีทั้งปวง
ซึ่งแท้ที่จริง คตินิยม ในเรื่องกิจกรรมบ้านกัลยาณมิตรนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เคยมีมาแล้ว แต่ครั้ง บรรพบุรุษไทยสมัยโบราณกาล เพราะวิถีชีวิตไทยผูกพันอยู่กับวัดและพระพุทธศาสนา ผู้คนต่างทำกิจกรรม เกี่ยวกับธรรมะทั้งที่บ้านและที่วัดเป็นประจำ ดังจะเห็นจากเรื่องราวและร่องรอยในประวัติศาสตร์ชาติไทยว่า มีชุมชนที่ไหน ต้องมีวัดที่นั่น อีกทั้งวัดยังเป็นทั้งโรงเรียน และสถาบันแห่งศาสตร์ทั้งปวง
ดังนั้น พระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา รวมทั้งพระสงฆ์จึงมีอิทธิพลต่อทัศนคติ วัฒนธรรม ตลอดจนบุคลิกภาพของชาวพุทธไทยสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน เป็นที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกว่าคนไทยยิ้มง่าย ใจดี มีเมตตากรุณา น่ารัก แต่วัฒนธรรมทางจิตใจอันดีงามเหล่านี้กำลังจะหมดไป เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้รับการปลูกฝังให้เกิดความเข้าใจซาบซึ้งอย่างแท้จริง จึงหันไปชื่นชมยึดถือวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบตะวันตก ที่หลั่งไหลเข้ามาสู่ประเทศไทย พร้อมกับวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่