กรรมอยู่ที่ไหน
จากพุทธภาษิตที่ว่า
“ บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว”
ทำให้เราเกิดความสงสัยว่ากรรมดีกรรมชั่วที่ทำไปแล้วอยู่ที่ไหน จะลองเปรียบเทียบจากอุปมาของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ สมมติว่า ชาวนาปลูกข้าวสาลีต้นหนึ่ง ต้นข้าวสาลีก็ค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้น โดยดูดซึมสารอาหารแร่ธาตุจากปุ๋ย น้ำ ดิน อากาศ ลำต้นทำหน้าที่ดูดซึมส่งอาหารไปหล่อเลี้ยงลำต้นทั้งหมด และทำให้เกิดเมล็ดผลข้าวซึ่งอุดมไปด้วยโอชะต่างๆ พร้อมที่จะนำมาบริโภคและใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไป จวบถึงวันเก็บเกี่ยวข้าว ชาวนาคัดเลือกเอาเมล็ดข้าวไปขาย ส่วนหนึ่งก็เอามาทำเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวก่อเกิดเป็นต้นข้าวสาลีต่อๆ ไป เปรียบเทียบกับหมู่สัตว์ที่ประกอบด้วยรูปกายกับจิตวิญญาณ รูปกายเปรียบเหมือน ลำต้นที่นำเอาสารอาหารทุกอย่างรอบข้างมาหล่อเลี้ยง จิตเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่คอยเก็บสารอาหารที่ลำต้นส่งมา ฉะนั้นรูปกายจึงเป็นอุปกรณ์ของจิตที่ใช้สร้างกรรมที่ผ่านมาจากการกระทำทางกาย ทางวาจา และทางใจ แล้วทุกการกระทำจะถูกบันทึกไว้ที่จิต เพราะธรรมชาติจิตนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่อง29) เหมือนผ้าขาวเอาสีอะไรมาแต้มก็จะติดสีนั้นไปโดยปริยาย ดังนั้นกรรมทั้งหลายจึงถูกเก็บสั่งสมรวมที่จิตวิญญาณ ถามว่าจิตนั้นใหญ่มากถึงขนาดเก็บได้หมดเลยหรือ อันนี้เปรียบเหมือนกระจกส่องเงาที่สามารถฉายภาพที่มากระทบได้ทั้งหมดทุกรายละเอียดปลีกย่อย จิตจึงเหมือนยุ้งฉางที่เก็บเมล็ดพันธุ์คือเชื้อกรรมทั้งหมด ทำหน้าที่เผล็ดผลแห่งกรรมทั้งในชาตินี้ ชาติหน้า และชาติต่อๆ ไป กรรมประดุจเงาติดตามเจ้าของไปทุกที่ ทุกสถานทุกกาลเวลา
-------------------------------------------------------------------
29) กายคตาสติสูตร, มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์, มก. เล่ม 22 ข้อ 306 หน้า 393.
GL 203 กฎแห่งกรรม
กลุ่มวิชาเป้าหมายชีวิต