ร่วมมือกับงานร่วมมือกับคน

วันที่ 16 กย. พ.ศ.2558

 

ร่วมมือกับงานร่วมมือกับคน


เมื่อเราต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย ลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงาน มีหลัก 3 ประการ ที่จะช่วยให้การทำงานราบรื่น


ประการที่ 1 ฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่มีประโยชน์ต่อหน่วยงาน 
            ผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ต้องการขององค์กรย่อมมีความมั่นคงในชีวิตการทำงาน และมีความมั่นใจในตนเอง ตรงข้ามกับผู้ที่มีความรู้น้อยหรือไม่สามารถถึงขั้น ชีวิตการทำงานก็ยากที่จะไปรอดหลักการนี้ใช้ได้ทุกระดับ นับตั้งแต่ระดับจุลภาคคือบุคล ไปจนถึงระดับมหภาคคือประเทศชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ กว่า200ประเทศทั่วโลกนั้น มีทั้งความร่วมมือกัน และการแข่งขันกัน ดังนั้นแต่ละประเทศจึงต้องพยายามสร้างคุณค่าของตน เพื่อให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงในองค์กรขนาดใหญ่คือโลกใบนี้ 
            ขอยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้ดุลการค้าจากประเทศต่างๆ มาอย่างยาวนาน ทั้งที่ประเทศคู่ค้าเหล่านั้น ต่างก็พยายามรณรงค์ให้ประชาชนของตนลดการใช้สินค้าญี่ปุ่น แต่ดูเหมือนว่าความนิยมในสินค้าญี่ปุ่นกลับมิได้ลดลงเลย และทั้งที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนชาติอื่นสักเท่าไร เพราะเหตุที่เคยรุกรานชาติต่างๆ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถึงอย่างนั้นประเทศต่างๆ ก็ยังนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น
ดังเช่น ประเทศเกาหลี ที่เคยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นอยู่ช่วงหนึ่ง แม้คนเกาหลีจะไม่ชอบคนญี่ปุ่น แต่ก็ซื้อสินค้าญี่ปุ่น จนขาดดุลการค้าปีหนึ่งเป็นจำนวนมหาศาลรัฐบาลเกาหลีต้องดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้า ห้ามนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นได้แก่รถยนต์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางวัฒนธรรมเป็นต้น แต่ไม่ว่าจะห้ามอย่างไร เกาหลีก็ยังขาดดุลการค้าญี่ปุ่น ปีหนึ่งนับหมื่นล้านเหรียญ
            ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าที่ประเทศอื่นมีความจำเป็นต้องใช้ แต่ไม่สามารถผลิตเองได้ ยกตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมการต่อเรือ ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีเป็นคู่แข่งกัน ซึ่งบางช่วงเกาหลีมีปริมาณการต่อเรือสูงกว่าญี่ปุ่นเสียอีก เนื่องจากแรงงานมีราคาถูกกว่า แต่ถึงกระนั้น เรือเกาหลีก็ยังต้องใช้ส่วนประกอบเครื่องยนต์ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นอยู่นั่นเอง ดังนั้นแม้ญี่ปุ่นจะเคยพ่ายแพ้ในสงครามทั้งถูกประณามในเรื่องต่างๆ แต่ญี่ปุ่นกลับยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในเวทีโลก ก็เพราะความสามารถอันโดดเด่น ที่ใครๆต้องยอมรับ ระดับประเทศเป็นอย่างไร ระดับบุคคลก็เป็นทำนองเดียวกัน เราจะยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง ก็ด้วยความสามารถและผลงานของตัวเราเอง ยิ่งถ้ามีฝีมือยอดเยี่ยมหาตัวจับได้ยากก็ยิ่งมีคุณค่าต่อองค์กร แม้เจ้านายก็เกรงใจ


ประการที่ 2 ขจัดทิฐิมานะออกจากใจ
            เนื่องจากความรู้ความสามารถ มักตามติดมาด้วยทิฐิมานะ ดังนั้นเมื่อเราฝึกฝนตนเองให้เก่งกล้าสามารถแล้วต้องฝึกลดทิฐิมานะด้วย แม้ว่าทุกองค์กรต้องการคนเก่ง แต่ถ้าเก่งแล้วถือตัวว่าเหนือกว่าคนอื่น ไม่ยอมฟังความคิดเห็นของใคร ย่อมสร้างปัญหาสร้างความลำบากใจให้เพื่อนร่วมงาน คนเก่งแบบนี้ลูกน้องก็ขยาด เจ้านายก็หนักใจ และคงไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
            ในระดับประเทศก็เช่นกัน เยอรมณีเป็นตัวอย่างของประเทศที่มีศักยภาพสูงมาก คนเยอรมันได้ชื่อว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง เอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นทำงาน ทำให้ประเทศชาติมีความก้าวหน้าอย่างมาก ดังที่ครั้งหนึ่งเยอรมณีเคยทะยานขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของยุโรป แต่ด้วยเหตุที่คนเยอรมณีมีความทะนงในเชื้อชาติของตนอย่างสูง ถือว่าตนเหนือกว่าชนชาติอื่น ทำให้มักจะเกิดความขัดแย้งกับประเทศต่างๆ จนดูเหมือนเป็นประเทศที่โดเดี่ยวทั้งที่ด้วยศักยภาพแล้วน่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกเลยทีเดียว
            ดังนั้น คนเก่งควรอ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมจะให้เกียรติทุกคน คนเก่งแบบนี้องค์กรไหนๆก็ต้องการทั้งเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ลูกน้องและเจ้านาย 


ประการที่ 3 ศึกษาเรียนรู้อัธยาศัยของเพื่อนร่วมงาน 
            คำโบราณที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครา ยังใช้ได้เสมอในทุกๆงาน เพราะเมื่อเราพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีมีฝีมือ คือ รู้เรา แล้วก็ต้องศึกษาให้รู้ถึงฝีมือและนิสัยใจคอของเพื่อนร่วมงาน คือ รู้เขา ด้วยจึงจะร่วมงานกันได้อย่างราบรื่น ใครมีบทบาทอย่างไร มีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหน แม้กระทั่งชอบหรือไม่ชอบอะไร ก็เป็นสิ่งที่เราควรรู้ไว้ เพราะเรื่องบางเรื่องไม่ได้ตัดสินกันที่ความถูกผิด แต่ตัดสินที่ความชอบ ความพอใจ เช่น ถ้าหัวหน้างานของเราเป็นคนชอบความรวดเร็ว เราก็ต้องทำงานให้ทันใจ แม้ความประณีตจะหย่อนไปบ้าง ก็ต้องยอม แต่ถ้าหัวหน้าเป็นคนละเอียดพิถีพิถัน แม้จะช้าไปบ้างก็ไม่ว่ากัน เราก็ต้องปรับการทำงานให้สอดคล้อง ทุกอย่างจึงจะราบรื่นสำเร็จด้วยดี
            ระดับประเทศก็เช่นกัน ในการร่วมมือติดต่อค้าขาย หรือดำเนินนโยบายต่างประเทศ ต้องยึดหลัก รู้เขารู้เรา เป็นสำคัญ เพราะการก้าวพลาด อาจสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศชาติทีเดียว การที่ประเทศจีนติดต่อค้าขายกับประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลกคือสหรัฐอเมริกา โดยที่จีนได้ดุลการค้าปีละหลายแสนล้านเหรียญมาโดยตลอดนั้น เชื่อแน่ว่าจีนพยายามศึกษาสหรัฐอเมริกา เพื่อให้รู้เท่าทันทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง และแนวโน้มความเป็นไปต่างๆ ของสหรัฐตามหลัก รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครา
            ที่เห็นได้ชัดคือ เมื่อครั้งที่สหรัฐเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และมีความพยายามที่จะกดดันให้ประเทศจีนเพิ่มค่าเงินหยวน เพื่อให้สินค้าจีนมีราคาสูงขึ้น เป็นการลดความได้เปรียบในการส่งออกของจีน แรงกดดันได้เพิ่มขึ้น เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยกล่าวโจมตีรัฐบาลจีนว่า ควบคุมค่าเงินหยวน ทำให้จีนต้องมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างระมัดระวัง เพราะถ้าเราชนกลับ ก็สู้เขาไม่ได้ แต่ถ้ายอมอ่อนข้อให้มากไป ก็จะต้องถูกรุกต่ออย่างแน่นอน 
            จีนจึงแสดงท่าทีว่า การที่จีนซื้อพันธบัตรสหรัฐเป็นจำนวนมากนั้น ย่อมมีผลทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลง แต่ถ้าจะให้ค่าเงินหยวนสูงขึ้น จีนก็ต้องหยุดซื้อพันธบัตรจากสหรัฐถึงจุดนี้สหรัฐซึ่งรู้ดีว่าตนกำลังต้องการเม็ดเงินเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ถ้ายังขืนกดดันจีนต่อๆไป ตนก็จะเสียผลประโยชน์รัฐมนตรีคลังของสหรัฐจึงออกมาพูดปรับความเข้าใจกับรัฐบาลจีน เมื่อสหรัฐมีท่าทีอ่อนลง จีนก็ปรับอ่อนตามสถานการณ์ที่เคยตึงเครียดแทบจะแตกหัก จึงคลี่คลายลง 
ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศอื่นๆไม่อาจหลีกเลี่ยงจากผลกระทบได้ ดังนั้นแม้รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยคราแล้ว ก็ขอให้เป็นชัยชนะร่วมกันด้วยการถ้อยทีถ้อยอาศัย รักษาสายสัมพันธ์ เป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นเพื่อนร่วมงาน ที่ร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ

----------------------------------------------------------------------------------

หนังสือ " ทันโลกทันธรรม 5  "

พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0047834157943726 Mins