มนุษย์ต่างดาว
มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ มีรูปร่างหน้าตาเช่นไร และมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร โลกของเราเคยมีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนบ้างไหม หรือเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการของมนุษย์เท่านั้น คำถามเหล่านี้ล้วนมีคำตอบอยู่ในพระพุทธศาสนาผู้ที่ได้ศึกษาคำสอนของพระบรมศาสดา ต่างทราบว่าในเอกภพอันกว้างใหญ่ที่ไร้ขอบเขตนี้ มีจักรวาลหรือกาแลคซีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ดังที่พระพุทธองค์ทรงใช้คำว่า อนันตจักรวาล ซึ่งแต่ละจักรวาลมีดวงดาวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างน้อย 4 ดวง โดยมีชื่อเรียกดังนี้
ดวงดาวเช่นที่เราอาศัยอยู่นี้มีชื่อว่าชมพูทวีปอยู่ทางทิศใต้ ดวงดาวที่ชื่อ บุพพวิเทหทวีปอยู่ทางทิศตะวันออกดวงดาวที่ชื่ออมรโคยานทวีป อยู่ทางทิศตะวันตก ดวงดาวที่ชื่อ อุตตรกุรุทวีปอยู่ทางทิศเหนือในเมื่อจักรวาลมีอยู่มากมายนับอนันตจักรวาลดวงดาวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ก็ย่อมมีมากมายเช่นกัน ดังนั้นมนุษย์ต่างดาวจึงมีอยู่จริง และมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน รูปร่างหน้าตาของมนุษย์ต่างดาว ก็เหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเรา แต่สมส่วนกว่า และมีความแตกต่างที่รูปหน้า เช่น พวกเราชาวชมพูทวีปจะมีหน้ารูปไข่ ส่วนชาวอุตตรกุรุทวีปจะมีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม เป็นต้น
ชาวอุตตรกุรุทวีปนั้น มีอายุขัย 1,000 ปี และไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่จึงมีอายุยืนยาวตราบสิ้นอายุขัยชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุตตรกุรุทวีปก็น่าสนใจอย่างยิ่ง ผู้คนทั้งหลายไม่ค่อยยึดถือเอาหลักทรัพย์สินมาเป็นของตน ไม่ว่าจะเป็บ้านเรือน หรือแก้วแหวนเงินทอง ด้วยเหตุที่ในอุตตรกุรุทวีปนี้ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ใครอยากได้อะไรก็ไปยืนใต้ต้นกัลปพฤกษ์ นึกถึงสิ่งนั้นแล้วก็จะได้มาด้วยอำนาจบุญ ภูมิอากาศก็เย็นสบายไม่ร้อนเกินไปไม่หนาวเกินไป ภูมิประเทศก็น่าอยู่ แผ่นดินราบเรียบสม่ำเสมอ สะดวกสบาย เด็กทารกชาวทวีปนี้ ยามที่คลอดออกมาจะมีแผ่นศิลาที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นมารองรับ ผู้คนที่ผ่านมาพบเด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดู ก็มักจะเอานิ้วไปแตะที่ริมฝีปากของเด็ก และเกิดธารน้ำนมไหลจากปลายนิ้วให้เด็กได้กินจนอิ่ม
หญิงสาวชาวอุตตรกุรุทวีป มีรูปร่างหน้าตางดงามมีรัศมีคล้ายๆนางฟ้า เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าจักพรรดิบังเกิดขึ้นในชมพูทวีป นางแก้วผู้เป็นอัครมเหสีของพระองค์จะเดินทางมาจากต่างดาว ซึ่งก็คือหญิงชาวอุตตรกุรุทวีปนั่นเอง จากเรื่องราวที่กล่าวมา บางคนอาจรู้สึกว่าชีวิตความเป็นอยู่ ณ ดวงดาวเหล่านั้นช่างน่าอิจฉา เพราะมีแต่ความสุขสบาย และสิ่งสวยงาม ไม่มีความยากจนข้านแค้น ไม่มีความชั่วร้ายเลวทราม ผู้คนต่างมีศีลธรรมคล้ายๆกันแต่เชื่อหรือไม่ว่าดวงดาวเหล่านั้นไม่เคยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นเลย
ในขณะที่ชมพูทวีป เช่นโลกของเรา จะเป็นที่รวมของความดีความชั่วทั้งหมด คือมีทั้งคนดี ที่ดีเลิศ เช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า และพระเจ้าจักรพรรดิ มีทั้งคนเลว ที่เลวระดับถูกธรณีสูบ มีทั้งคนรวยที่รวยมหาศาล มีทั้งคนจน ที่ยากแค้นแสนเข็ญอีกทั้งดินฟ้าอากาศก็แปรปรวนเหลือคณา แต่ทว่าสำหรับชีวิตนักสร้างบารมี ชมพูทวีปของเราคือดวงดาวที่เหมาะสมที่สุด เพราะความยากลำบากในการดำเนินชีวิตจะทำให้คนเราเห็นทุกข์ภัยในวัฏสงสารแล้วแสวงหาทางพ้นทุกข์ ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ที่ตั้งความปรารถนาในพุทธภูมิครั้งแรก เมื่อกำลังลอยคออยู่กลางมหาสมุทร 7 วัน 7 คืน
ส่วนเหตุผลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่บังเกิดขึ้นในดวงดาวที่เปี่ยมไปด้วยความสุขสบายเหล่านั้นก็เพราะวิถีชีวิตที่สุขสบายทำให้ผู้คนไม่รู้จักความทุกข์จึงไม่ขวนขวายในการประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยรู้สึกว่าชีวิตก็ดีอยู่แล้ว พวกเราชาวโลกจึงนับว่าโชคดีที่สุด ที่มีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนา เพื่อศึกษาความจริงของชีวิต ได้พบเนื้อนาบุญ เพื่อสั่งสมบุญอย่างทับทวี ชีวิตเช่นนี้ต่างหากที่มนุษย์ต่างดาวรวมทั้งเหล่าเทวดาต้องอิจฉาเรา เพราะชีวิตของเขาอยู่ในช่วงเสวยบุญแต่ขาดโอกาสในการประกอบเหตุสร้างบุญกุศล เมื่อโชคดีแล้วชาวโลกก็ไม่ควรประมาท เพราะชมพูทวีปนี้มีภัยพาลปะปนอยู่มาก หากพลั้งเผลอคบคนพาลชีวิตก็อาจตก่ำดำดิ่งสู่มหานรกได้เช่นกัน
ดังนั้นเมื่อเราโชคดีแล้วต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ตระหนักอยู่เสมอว่าชีวิตเกิดมาเพื่อสร้างบารมี แม้ต้องประสบความทุกข์ยาก ลำบากของโลกนี้ ก็ให้ระลึกว่านี่คือชมพูทวีป ที่เดียวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบังเกิด จะเห็นได้ว่าความรู้ต่างๆ ในพระพุทธศาสนานั้นช่างน่าอัศจรรย์ และมีคุณค่าสุดประมาณ เรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวเป็นเพียงเกร็ดความรู้ที่พระพุทธองค์ทรงเล่า เพื่อประกอบการสอนธรรมะ ซึ่งผู้คนในยุคนี้อาจสงสัยว่า ในเมื่อโลกของเราในยุคปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ แต่เหตุใดเรื่องราวต่างๆ ที่พระพุทธองค์ตรัสเล่านั้น จึงเป็นภาพเหตุการณ์ในยุคสังคมเกษตรกรรมแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว หรือชาดกต่างๆ ที่ทรงระลึกชาติแล้วนำมาเล่า
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ พระพุทธองค์ทรงมีเป้าหมาย ที่จะสอนให้ผู้คนเข้าใจในหลักธรรม หากทรงยกตัวอย่างที่ยากต่อการเข้าใจ ก็จะทำให้เกิดความงุนงงสงสัยไขว้เขวไปในเรื่องอื่นแทนที่จะเข้าใจหลักธรรม พระพุทธองค์จึงทรงเลือกหยิบยกเหตุการณ์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยพุทธกาลมาประกอบการสอนธรรมะ วิถีชีวิตของมนุษย์ต่างดาว และมนุษย์ที่ต่างภพชาติกับเรานั้น ย่อมมีรูปแบบแตกต่างกันไปมากมาย บ้างก็เป็นมนุษย์ยุคหิน บ้างก็เป็นยุคสังคมเกษตรกรรม และแน่นอนว่า ยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำนำหน้าแบบที่นิยายวิทยาศาสตร์ต้องชิดซ้ายไปเลยก็มี ซึ่งถ้าหากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบังเกิดขึ้นในยุคไฮเทคเช่นนั้น เรื่องราวที่จะทรงหยิบยกมาเล่า ก็ต้องเป็นเหตุการณ์ในยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีจะก้าวหน้าหรือล้าหลังไม่ใช่เรื่องสำคัญ การได้เกิดในชมพูทวีปได้กายมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา ได้สร้างบารมี นี่สิสำคัญ
----------------------------------------------------------------------------------
หนังสือ " ทันโลกทันธรรม 5 "
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ