ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

ชาดก 500 ชาติ
กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     ในกาลสมัย ณ เมืองสาวัตถี นครที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนต่างดำเนินชีวิตด้วยความปกติสุข ท่ามกลางความปกครองขององค์เจ้าเหนือหัว ผู้ตั้งอยู่ในทศพิศราชธรรมเรียกได้ว่า ณ เมืองนั้นผู้คนต่างดำรงชีวิตอยู่ด้วยความสุข

     แต่ในความสุขนั้นก็ย่อมหลีกหนีไม้พ้นทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากการเจ็บป่วยซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ดังบุรุษคนหนึ่งเป็นผู้เดือดร้อนด้วยโรคผอมเหลือง “ เฮ้อทรมานจริง ๆ จะเดินเหินไปไหนอย่างใครเขาก็ไม่ได้ วัน ๆ ได้แต่นอนหมดเรี่ยวแรง เฮ้ย ”

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     ภรรยาของชายป่วยนี้ได้ตระเวนหาหมอฝีมือดีไปทั่ว เมื่อได้ยินใครที่ไหนพูดกันว่ามีหมอดี แม้จะอยู่ไกลเพียงใด เธอก็สามารถตามตัวมารักษาได้ “ โรคนี้มันก็แปลก ๆ อยู่เหมือนกัน ตั้งแต่เป็นหมอมาฉันก็ไม่เคยเห็นใครหมดเรี่ยวหมดแรงอย่างนี้สักที อย่างมากก็แค่เบื่ออาหารสองสามวัน ”

      “ แล้วมีหนทางรักษาได้บ้างไหมจ๊ะ ” “ นี่เป็นยาบำรุงขนานใหม่ลองต้มให้เขากินดูแล้วกัน เผื่อจะเจริญอาหารแล้วกลับมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาบ้าง ” เมื่อได้รับยาจากหมอแล้ว ผู้เป็นภรรยาและลูกก็รีบนำมาต้มตามคำสั่งของหมด “ แม่ แม่ว่าพ่อกินยานี้แล้วจะหายไหมจ๊ะ ” “ เฮ้อ แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน หมอเองเค้าก็บอกว่าเป็นแค่ยาบำรุงเท่านั้น ไม่ได้รักษาอะไร ” ชายผู้เป็นโรคเหลืองได้ทานยาของหมอแล้วหลายวัน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ความหวังในการหายจากโรคของเขาได้สูญสิ้นไปอีกครั้ง อาการป่วยของเขาแม้แต่พวกแพทย์ก็ไม่ยอมรักษา

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     แม้บุตรและภรรยาของเขาก็คิดว่า ไม่มีใครจะสามารถปฏิบัติพยาบาลผู้นี้ได้ “ พอเถอะไม่ต้องต้มยามาให้กินอีกแล้ว กินไปตั้งหลายวันแล้วไม่เห็นดีขึ้นเลย ” “ โธ่ พี่ก็อย่าเพิ่งท้อสิจ๊ะมันอาจจะต้องใช้เวลารักษากันบ้างละน่ะ ” “ ช่างเถอะพี่คงจะต้องตายด้วยโรคนี้จริง ๆ หมอกี่คนต่อกี่คนแล้วล่ะ ไม่เห็นจะมีใครรักษาได้สักคน ” “ โธ่พ่อ ลูกจะช่วยพ่ออย่างไรดี ”

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

      รุ่งเข้าวันหนึ่ง ชายป่วยได้ตื่นเช้ากว่าปกติ เขาหันหน้าออกไปทางหน้าต่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์เขามองออกไปดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นพระภิกษุสงฆ์ออกมาบิณฑบาต แล้วเขาก็เกิดความคิดอย่างหนึ่ง “ จริงสินะ ชีวิตมันไม่เที่ยงจริง ๆ สังขารย่อมร่วงโรยเป็นธรรมดา ถ้าเราหายจากโรคนี้เราจะบวช ” ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเหตุอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ชายผู้นี้อาการดีขึ้นตามลำดับเขาสามารถทานอาหารได้ตามปกติ มีเรี่ยวแรงลุกยืนนั่ง แล้วความสุขก็เกิดขึ้นในครอบครัวนี้อีกครั้ง

     อาการที่ดีขึ้นตามลำดับของชายผู้นี้ได้สร้างความแปลกใจให้กับภรรยาและบุตรของเขามาก จนวันหนึ่งภรรยาของเขาเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ จึงได้เอ่ยปากถามขึ้นในวันหนึ่ง

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     “ พี่จ๊ะ ฉันดีใจที่พี่ดีขึ้นนะ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ที่ผ่านมา มีหมอโน่นหมอนี่ มารักษาพี่มากมายแต่ก็ไม่เห็นมีใครรักษาได้ แล้วทำไมอยู่ ๆ วันหนึ่ง พี่ก็อาการดีขึ้นได้เองละจ๊ะเนี่ย ” “ ว่าแล้วมันก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะ เช้าวันนั้นพี่ได้มองออกไปเห็นพระภิกษุ พี่เลยได้พูดว่า ถ้าวันใดพี่หายจากโรคนี้ พี่จะออกบวช ตั้งแต่วันนั้นมา พี่ก็รู้สึกดีขึ้น มีเรี่ยวแรง ”

     “ พี่จะออกบวช งั้น ก็แสดงว่าเราก็จะไม่ได้อยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิมนะสิ โธ่ ” วันเวลาล่วงไปสองสามวัน บุรุษผู้นั้นได้ความสบายเล็กน้อย จนเป็นผู้ไม่มีโรค จึงไปยังพระเชตะวันมหาวิหารทูลขอบรรพชากับพระศาสดา เขาได้บรรพชาและอุปสมบทในสำนักของพระศาสดาแล้ว

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหันต์ อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้งหลายนั่งสนทนากันในโรงธรรมสภา ได้นำเรื่องของชายป่วยนี้มาถกกันว่า “ ดูก่อนอาวุโสทั้งหลายบุรุษผู้มีโรคผอมเหลืองชื่อโน้นคิดว่า ถ้าเราหายจากโรคนี้จักบวช ครั้นหายโรคแล้วจึงบวชแล้วบรรลุพระอรหันต์ ช่างน่าแปลกเหลือเกิน ”

     พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสถาม เมื่อรู้ว่าภิกษุเหล่าภิกษุทั้งหลายได้สนทนาธรรมในเรื่องนี้จึงตรัสว่า “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่บุรุษผู้นี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อนบัณฑิตทั้งหลายก็กล่าวอย่างนี้ครั้นหายจากโรคผอมเหลืองแล้วบวช ได้ทำความเจริญแก่ตน ” บัดนั้นพระองค์ทรงนำเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชย์สมบัติ ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ทำงานค้าขาย พราหมณ์ผู้เป็นคนขยันหมั่นทำมาหากิน เขาและเพื่อนๆ ของเขา มักออกเดินทาง  ค้าขาย นำของอีกเมืองหนึ่งไปขายอีกเมืองหนึ่ง

     เมื่อได้กำไรอันสมควร ขากลับก็แวะเที่ยวหาของเพื่อนำกลับมาขายในเมืองที่อยู่อาศัย การเดินทางเพื่อการค้าขายของสามี แม้จะได้กำไรมากมาย แต่ภรรยาสาวก็ไม่ได้สบายใจเสียทีเดียวการต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง กับการต้องเฝ้าเป็นห่วงผู้เป็นสามี ทำให้เกิดความทรมานใจแก่เธอยิ่งนัก

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     “ พี่จ๊ะ เมื่อไหร่พี่จะเลิกเดินทางเสียทีละจ๊ะ เราทำมาค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่ในบ้านเราไม่ได้เหรอจ๊ะ ” “ โธ่เอ้ย ทูนหัวของพี่ เจ้าคงจะเหงาละสิ เอาเถิดพี่ขอไปอีกครั้งเดียว ครั้งนี้พี่จะหาสินค้ามาตุนไว้เยอะ ๆ เลย แล้วจากนี้พี่ก็จะได้อยู่กับเจ้าตลอดไปไงจ๊ะ ดีไหมจ๊ะ ”

     เมื่อได้ให้สัญญากับผู้เป็นภรรยาไว้แล้ว ชายผู้นี้จึงได้ตระเตรียมเดินทางในครั้งสุดท้ายของเขาเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้สินค้ากลับมาได้มากตามความต้องการ พราหมณ์ผู้นี้กับเพื่อนเดินทางค้าขายจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งจนได้กำไรงาม แล้วก็เดินทางกลับ

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ต่อจากนั้นอีกไม่นานนัก พราหมณ์ผู้นี้ก็ได้เกิดเป็นโรคประหลาด โรคผอมเหลือง อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากอาหาร หมดเรี่ยวแรง “ เป็นอะไรไปละจ๊ะพี่น้องทำกับข้าวไม่อร่อยอย่างเคยเหรอจ๊ะ ทำไมพี่ไม่ทานเลยล่ะ ”

     “ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่พี่รู้สึกไม่สบายตัวยังไงก็ไม่รู้ ไม่อยากทานอะไร อยากแต่จะนอนจ๊ะ ” เมื่อไม่ได้ทานอะไรเลย นานวันเข้าชายผู้นี้ก็อาการทรุดลง วัน ๆ เขาไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้เลย เอาแต่นอนซมอยู่ในห้อง เมื่อเห็นสามีอาการไม่ดีขึ้น

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

      ภรรยาสาวจึงเที่ยวหาหมอมารักษา แต่ไม่ว่าจะเป็นหมอคนไหนในหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครรักษาอาการเขาผู้นี้ได้เลย “ เฮ้อ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะรักษายังไง อาการอย่างนี้ก็ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เอายาอะไรให้กินก็ไม่หายสักที เฮ้อ จนปัญญาหมออย่างฉันแล้วจริง ๆ ”

     รุ่งขึ้นภรรยาของเขาก็ออกเดินทางกับเพื่อนบ้านแต่เช้า เพื่อตามหมอที่ได้รับความร่ำลือว่าเก่งกาจ มารักษาผู้เป็นสามี เมื่อหมอผู้นั้นมาถึงก็ตรวจอาการโรคที่ชายผู้นี้เป็น แต่ไม่ว่าจะเทียบกับตำราใด ๆ  ที่เคยศึกษามา เขาก็ไม่พบวิธีรักษาได้เลย “ หมอได้ตรวจดูอาการแล้ว เอายานี้ให้เขากินเถิด คงจะช่วยรักษาอาการป่วยให้หายได้ ”

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

      เมื่อได้รับยาจากหมอแล้ว ผู้เป็นภรรยาก็รีบเร่งนำไปต้ม เพื่อนำมาให้สามีชายพราหมณ์ได้ดื่มกินด้วยความหวังว่าจะทำให้หายจากโรคเหลืองนี้ได้ “ พี่นี่จ๊ะ ยาจากหมอ พี่ดื่มหน่อยนะเค้าว่ากันว่าหมอคนนี้เก่ง ยานี้คงจะทำให้พี่อาการดีขึ้นได้ แข็งใจดื่มหน่อยนะจ๊ะ ”  ชายป่วยผู้นี้ดื่มยาของหมอจนผ่านไปได้ 2-3 วัน

       อาการของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น อาการป่วยของชายคนนี้ทรุดลงทุกวัน แม้หมอไหน ๆ ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ “ โธ่ ฉันจะทำยังไงดีละเนี่ย ทำยังไงถึงจะทำให้พี่หายจากโรคนี้ได้เมื่อก่อนเราก็เคยมีความสุขกันแท้ ๆ ถึงแม้พี่จะออกเดินทางบ่อยไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าที่ได้อยู่กับพี่ทุกวัน แต่พี่ต้อง..พี่ต้องมาจมกับความทุกข์ทรมานกับโรคแบบนี้ ”

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

    ชายผู้เป็นโรคเหลืองได้นอนซมอยู่ในห้องด้วยความหมดหวังที่จะรอดพ้นจากโรคร้าย แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นกับเขา เมื่อวันหนึ่งเขาได้มองออกไปเห็นผู้คนดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขดังที่เขาเคยมี “ เฮ้อ ครั้งหนึ่งเราก็เคยมีความสุขอย่างนี้สินะ เมื่อก่อนเราก็ค้าขายเช่นนี้ เป็นคนร่างกายแข็งแรง แต่อยู่ ๆ ก็เป็นโรคขึ้นมาได้ ความสุขนี้มันไม่เที่ยงสินะ ถ้าเราหายจากโรคนี้เมื่อไหร่เราจะออกบวช ”

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     ถัดจากวันนั้นมาไม่กี่วันอาการป่วยของชายผู้นี้ก็ดีขึ้นเป็นลำดับ เขาสามารถทานข้าวได้ตามปกติ เรี่ยวแรงก็ตามมา หน้าตาแจ่มใส ภรรยาของเขารู้สึกดีใจเป็นยิ่งนักที่สามีดีขึ้นมาได้ “ พี่จ๊ะ ทานนี่สิ อร้อยอร่อยนะ ฉันทำสุดฝีมือเลย อันนี้อีกจ๊ะพี่จ๋า เดี๋ยวตามด้วยของหวานดีไหมจ๊ะ ” “ เฮอะ ๆ ๆ พี่ว่า พอหายจากโรคนี้อาจจะเป็นโรคอ้วนตามมาได้นะเนี่ย ” เมื่ออาการดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติแล้ววันหนึ่งพราหมณ์ผู้นี้จึงบอกกล่าวความตั้งใจของเขาให้กับภรรยาได้รับรู้ “ ทูนหัวของพี่ เจ้าจงฟังพี่เถิด ที่พี่หายจากโรคนี้ได้เพราะว่า พี่เคยพูดไว้ ว่าถ้าหายจากโรคนี้เมื่อไหร่ พี่จะออกบวช นี่พี่ก็ดีขึ้นแล้ว พี่คิดว่าคงถึงเวลาสะที ที่พี่จะได้ทำตามที่พี่เคยได้พูดไว้ ” “ เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ตามใจพี่เถอะนะจ๊ะ เมื่อพี่หายจากโรคนี้แล้ว น้องเองก็เป็นสุขใจจ๊ะ ไม่ต้องการอะไรอีก เชิญพี่ทำตามที่ต้องการเถอะนะจ๊ะ ”
        หลังจากนั้นเมื่อพราหมณ์ได้ความสบายขึ้นมาบ้าง จนเป็นผู้ไม่มีโรค จึงเข้าป่าหิมพานบวชเป็นฤาษี ทำสมาบัติและอภิญญาให้เกิดขึ้น แล้วอยู่ด้วยความสุขในฌานตลอดไป ครั้งนั้นเขาได้กล่าวคาถาขึ้นมาว่า

 

ชาดก 500 ชาติ กายนิพพินทชาดก-ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

     “ เมื่อเราถูกโรคอย่างหนึ่งถูกต้อง ได้เสวยทุกขเวทนาอย่างสาหัส อันทุกขเวทนาเบียดเบียนอยู่ ร่างกายนี้ก็ซูบผอมอย่างรวดเร็ว ดุจดอกไม้ที่ทิ้งตากแดดไว้ในที่ทราย ฉะนั้นรูปร่างอันไม่น่าพอใจถึงกาลนับว่าน่าพอใจ ที่ไม่สะอาด สมมุติว่าเป็นของสะอาด เต็มด้วยซากศพต่าง ๆ ปรากฏแก่คนพาล ผู้ไม่พิจารณาเห็นว่าเป็นของน่าพอใจ น่าติเตียน กายอันเปื่อยเน่า กระสับกระส่ายน่าเกลียด ไม่สะอาด มีความป่วยไข้เป็นธรรมดา เป็นที่ที่หมู่สัตว์ผู้ประมาทหมกมุ่นอยู่ ย่อมยังหนทางเพื่อเข้าถึงสุขคติให้เสื่อมไป ”

     พระมหาสัตว์กำหนดพิจารณาภาวะอันไม่สะอาด และภาวะอันกระสับกระส่ายเป็นนิจโดยประการต่าง ๆ ด้วยประการดังนี้อยู่ เบื่อหน่ายในกาย จึงเจริญพรหมวิหาร 4 จนตลอดชีวิต ได้เป็นผู้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว จึงทรงประกาศสัจจะในเวลาจบสัจจะ ชนเป็นอันมากได้บรรลุโสดาปัตติผลเป็นต้น แล้วทรงประชุมชาดกว่า 


พระดาบสในครั้งนั้น คือเราตถาคต ฉะนี้แล

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล