ชาดก 500 ชาติ
กุกกุฏชาดก-ชาดกว่าด้วยผลของการไม่เชื่อง่าย
พุทธศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจพุทธศาสนิกชนมาเป็นเวลาเนิ่นนาน การได้ออกบวชเป็นเพศบรรพชิตล้วนแต่เป็นสิ่งหมายปองของผู้ที่อยากละซึ่งกิเลส แต่ผู้ที่ออกบวชแล้วหากยังไม่หนักแน่นในพระธรรมดีพอก็ไม่สามารถจะบรรลุได้
ครั้งนั้นได้มีภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง เมื่อออกบวชแล้วแทนที่จะได้พบกับความสงบสุข แต่ด้วยยังห่วงในกิเลสจึงเป็นทุกข์จนอยากจะสึกจากบรรพชิต “ เราจะมีจิตใจสงบได้อย่างไร เมื่อน้องนางของของพี่ยังคงรอคอยพี่กลับไปหาอยู่ทุกวันอย่างนี้ ”
“ พี่ค่ะ น้องยังรอพี่อยู่นะ พี่สึกจากเพศบรรพชิตเมื่อไหร่ เราจะมาอยู่ด้วยกันนะคะ ” เมื่อใจยังคงติดอยู่กับกิเลส จึงทำให้ภิกษุหนุ่มไม่สามารถปฏิบัติกิจสงฆ์ได้อย่างภิกษุรูปอื่น ๆ
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ด้วยญาณวิเศษจึงมาโปรดให้ภิกษุได้รู้แจ้งแห่งธรรม “ ดูก่อนภิกษุในอดีตชาติเธอก็เคยถูกหลอกด้วยมารยาหญิงมาแล้ว ” พระพุทธเจ้าได้ตรัสเล่า กุกกุฏชาดกดังนี้
ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่งสัตว์ป่าล้วนอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสงบ สัตว์แต่ละตัวแต่ละฝูงต่างหากินอยู่ในถิ่นของตนเองอย่างมีวินัย ไม่ล้ำถิ่นของกันและกัน เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของพวกมันด้วย
เหล่าฝูงไก่ป่าก็เช่นกัน พญาไก่ป่าผู้เป็นผู้นำฝูง ดูแลฝูงไก่บริวารให้หากินอยู่แต่ในถิ่นของพวกมัน “ พวกเจ้าหากินกันอยู่แต่ ณ ที่นี้เถิด หากล้ำถิ่นไปเราไม่อาจจะดูแลพวกเจ้าได้ หากเกิดอันตรายใด ๆ เราก็คงไม่สามารถช่วยเหลือได้ จงรักษาระเบียบวินัยนี้ให้ดีเถอะ ”
“ ทำไม่ท่านพญาไก่ป่าต้องให้เราหากินแต่ที่ตรงนี้ด้วยนะ ข้าเบื่อแล้ว ” “ เอาเถอะน่า อย่างน้อยถ้าพวกเราเชื่อฟังท่าน พวกเราก็จะปลอดภัยนะ ” “ น่าเบื่อ ๆ ๆ ๆ เบื่อ เบื่อ ”
ในบริเวณใกล้เคียงกับฝูงไก่ป่านั้น แมวป่าตัวหนึ่งก็เฝ้าซุ่มเพื่อหวังดักจับไก่ป่ามาเป็นอาหารของมัน “ หิว ๆ ๆ หนีออกมาจากฝูงสักตัวเถอะ แม่จะจับมากินให้อิ่มเลยออกมามะ เจ้าไก่ป่า ”
“ อืม ขึ้นมาดูบนต้นไม้ค่อยเห็นชัดหน่อย พวกเจ้าหากินให้สบายเถอะ เราจะอยู่บนนี้ คอยดูแลพวกเจ้าเอง ” “ เชอะ เบื่อเจ้าพญาไก่ป่านี้จริง ๆ คอยคุมเข้มอยู่ได้ คอยดูเถอะ มันจะต้องมีสักตัวสองตัวแหละที่หนีออกมา ” “ นี่พวกเจ้า เราแอบออกไปหากินตรงนั้นดีไหม ข้าเห็นมีกสรดอกไม้ปลิวร่วงอยู่เต็มเลย คงหวานน่าดู ”
“ ว้าย ไม่เอาหรอก ที่ตรงนั้นหน่ะ ไม่ได้อยู่ในถิ่นของพวกเรา ต้องเป็นอันตรายแน่ ๆ เลย ” “ ไม่หรอกน่า มันแค่ล้ำถิ่นออกไปนิดเดียวเอง ไม่มีอันตรายหรอกน่า ตามใจเถอะใครอยากอยู่ก็อยู่ เราจะไปแล้ว ”
“ เหมี้ยว นั่นไงเหยื่อออกมาตัวหนึ่งแล้ว เสร็จแน่ ๆ อ้วนสะด้วย น่าหม่ำสุด ๆ ” “ ใครจะโง่หากินอยู่แต่ที่เก่าๆ ทุกวัน น่าเบื่อจะตาย ดูสิ ที่ตรงนี้มีอะไรให้กินตั้งเยอะ แค่นี้ก็ไม่กล้าออกมาเบื่อพวกไก่ป่าพวกนี้จริง ๆ ” “ สวัสดีจ๊ะพ่อไก่ป่ารูปงาม ทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ” “ เอ่อ ท่านเป็นใครรึ ” “ เราเป็นใครไม่สำคัญหรอก แต่ที่สำคัญ คือเราอยากเป็นเพื่อนกับท่าน ”
ไก่ป่าหลงพูดคุยกับแมวป่าจนลืมระวังตัว ในที่สุดไก่ป่าผู้เคราะห์ร้ายก็กลายเป็นอาหารรสเลิศให้กับแมวป่าเหลี่ยมจัดตัวนี้ โดยที่พญาไก่ป่าหัวหน้าฝูงของมันไม่รับรู้เลย “ อร่อยอย่างที่คิดไว้เลย เจ้าไก่ตัวนี้เนี่ย หือหวานปาก ” นับแต่นั้นมาเจ้าแมวป่าก็แอบซุ่มคอยจับไก่ป่าที่หนีออกมาจากฝูงกินอยู่เป็นประจำ
“ โอ้โห วันนี้มากันหลายตัวเลยหรือนี่ ดี ๆ ๆ ยิ่งหิว ๆ อยู่ คงได้กินเต็มกระเพาะก็คราวนี้แหละ ” ยิ่งนานวันไก่ป่าที่เคยมีจำนวนมาก ก็ค่อยๆ ลดลงไป ที่ละน้อย ๆ จนพญาไก่ป่าแปลกใจ “ เอ๊ะ เหตุใดฝูงไก่ป่าของเราถึงมีจำนวนน้อยลงไปเรื่อย ๆ คงเกิดเหตุร้ายขึ้นแน่ ๆ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เราต้องกำชับบริวารของเราให้ดีกว่านี้ ”
พญาไก่ป่ารู้สึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับฝูงของมัน จึงเรียกประชุมและกำชับให้ไก่ทุกตัวรักษาวินัยของฝูง “ ไก่ทุกตัวฟังทางนี้ ขณะนี้สมาชิกของเรา เริ่มหายไปที่ละตัวสองตัวเราคิดว่าต้องเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพวกเขาแน่ ๆ พวกเจ้าที่เหลืออยู่จงระมัดระวังตัวให้ดี แล้วที่สำคัญอย่าออกไปนอกถิ่นของพวกเรา ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นอันตรายได้ ”
“ ต้องเป็นอย่างที่ท่านหัวหน้าพูดแน่ ๆ ดูสิ เจ้าไก่ป่าที่เคยบ่นว่าเบื่อ ๆ ก็หายหน้าไปตั้งหลายวันแล้วนะ ข้าไม่เคยเจอเขาอีกเลย ตั้งแต่วันที่เค้าบอกว่า จะออกไปหากินแถวโน้นหน่ะ ” “ นั่นสินะ น่ากลัวจริง ๆเลย ” ไก่ป่าทุกตัวเชื่อฟังที่พญาไก่ป่าตักเตือน พวกมันหากินอยู่ในถิ่นของตนเอง ไม่มีตัวไหนกล้าออกมาจากเขตแดนของมันเลย
“ โอ้ย หิว หิว หิว หิวจะตายอยู่แล้ว ทำไมพักนี้ไม่มีไก่ป่าหลงมาสักตัวสองตัวเลย โอ้ยหิวจนแสบท้องแล้วเนี่ย ” เมื่อไม่มีไก่ป่าตัวใดกล้าออกมาจากฝูง แมวป่าจึงคิดหาแผนการที่จะล่อให้ไก่ป่าออกมาติดกับดักของตน
“ ในเมื่อพวกเจ้าไม่ออกมา เราก็จะล่อให้พวกเจ้าออกมาเองดูสิ ว่าใครจะแน่กว่ากัน ให้มันรู้ไปว่าจะไม่มีไก่ตัวไหนหลงกลเราเลย ” แมวป่าเริ่มแผนการของมัน โดยแอบเข้าไปใกล้ ๆ กับฝูงไก่ป่า แล้วพูดหลอกล่อให้ไก่ป่าเหล่านั้นเดินออกมาจากฝูง
“ พ่อไก่ป่ารูปงามจ๊ะ อาหารทางนั้นอร่อยดีรึ เราว่ามันดูแห้ง ๆ เหี่ยว ๆ นะท่าน ” “ เออ ก็ไม่ค่อยจะอร่อยเท่าไหร่หรอกนะ แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรให้กิน ” “ ถ้าอย่างนั้นพวกท่านลองชิมนี่สิ เราเอามาฝาก เกสรดอกไม้หวาน ๆ เต็มเลย เรานะเสียดายจริง ๆ ครั้นจะกินเองก็ไม่ใช่ของชอบ ปล่อยไว้ก็แห้งเหี่ยวเสียดายเปล่า ๆ เราก็เลยเก็บมาฝากพวกท่าน มาซี่ มากินสิ ”
“ โอ้โห น่ากินดีนะ ท่านนี่ใจดีจริง ๆ เราขอชิมหน่อยนะ ” เหตุการณ์เป็นไปตามแผนของแมวป่า มันใช้เกสรดอกไม้ล่อให้ไก่ป่าออกมาถิ่นของมัน ในเขตที่พญาไก่ป่าดูแลไม่ถึง จากนั้นมันก็ตะครุบและกัดกินจนเหลือแต่ซาก “ ฮะฮ่า เป็นไปตามแผนไก่พวกนี้นี่อร่อยจริง ๆ หือ หวานทั้งเนื้อทั้งกระดูก โปรตีนทั้งนั้น ”
พญาไก่ป่าเมื่อเห็นบริวารจำนวนน้อยลง ก็นึกสงสัยถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้น จึงพาบริวารย้ายถิ่นที่อยู่ “ ที่ตรงนี้คงใกล้กับที่อยู่ของแมวป่าแน่ ๆ เราย้ายที่อยู่ดีกว่า อยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่ปลอดภัยแน่ ๆ ”
“ เอ๊ะ ทำไม่พักนี้ไม่เห็นมีไก่ป่าออกมาให้กินเลย หรือว่าหัวหน้าพญาไก่ป่าพาบริวารมันหนีไปแล้ว ไม่ได้การล่ะ เราต้องตามหาให้เจอ ไม่งั้นงดตายแน่ ๆ ” หลายวันต่อมา เมื่อแมวป่ามองไม่เห็นไก่ป่าตัวไหนเฉียดไปใกล้ที่อยู่ของมัน นางแมวจึงเป็นฝ่ายย่องเข้ามาในฝูงไก่ป่าแทน “ อื้อหือ ที่แท้ก็แอบมาอยู่กันที่นี่เองกันเอง ไม่เป็นไรพวกเจ้าไม่ไปหาเรา เราก็จะมาหาพวกเจ้าเอง หึ หึ หึ ” นางแมวเดินย่องเข้าไปใต้กิ่งไม้ที่พญาไก่ป่าเกาะอยู่ มันพยายามพูดหลอกล่อให้ไก่ป่าตายใจไม่ทันได้ระวังตัวแล้วจะตะครุบกินเป็นอาหาร “ พ่อไก่ผู้สง่างาม ผู้มีขนสีแดงเป็นประกาย เจ้าลงมาจากกิ่งไม้เถอะ เรามีเรื่องจะพูดคุยกับท่าน ” “ แม่แมวป่าท่านมีสิ่งใดจะพูดกับเราเหรอ นี่เป็นถิ่นที่อยู่ของเราท่านไม่ควรจะล้ำเขตเข้ามาและเราก็ไม่มีเรื่องที่จะคุยกับท่าน ท่านจงออกไปเสียเถอะ ” “ โธ่ ท่านพญาไก่ป่า ท่านอย่าไล่เราไปไหนเลย ท่านลงมาเถอะ เราจะยอมเป็นภรรยาของท่าน ”
เจ้าแมวป่า เมื่อโดนพญาไก่ป่าขับไล่ ก็คิดหาวิธีในการหลอกล่อไม่ออก จึงคิดว่าจะใช้ความเป็นหญิงของตัวเองหลอกล่อ “ แม่แมวป่า เจ้าเป็นสัตว์สี่เท้าบินไม่ได้ ส่วนเราเป็นสัตว์สองเท้า มีปีกและบินได้แล้วเราจะอยู่ด้วยกันยังไง ท่านไปหาคู่ครองที่อื่นเถอะ ” “ โธ่ พ่อไก่หนุ่มรูปงามช่างคิดมากจริง ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ท่านบินได้ท่านก็บินไป เวลาที่ท่านเหนื่อยหยุดบิน เราก็จะอยู่เคียงข้างท่านเอง เราจะให้ท่านมีอิสระเต็มที่ ”
“ นางแมวเจ้าเล่ห์ เรารู้หมดแล้วว่าเจ้าแอบจับกินบริวารของข้าไปเกือบหมด เจ้าทำสิ่งที่ไม่ดี เจ้าจงไปจากที่นี่เสียเถิด เราขยะแขยงเจ้าเต็มที ออกไปแล้วอย่ามายุ่งกับบริวารของข้าอีก ” “ ท่านรู้เรื่องหมดแล้วเหรอ ” “ ใช่ ข้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ที่ที่ยังพูดกับเจ้า เพราะอยากให้รู้ว่า เจ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรมาหลอกล่อให้บริวารข้าหลงเชื่อ ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วแผนของเจ้าใช้หลอกข้าไม่ได้หรอก ไปซะ ” นางแมวป่าไม่อยู่รอให้พญาไก่ด่าทออีก มันวิ่งหนีหายไปในป่าอย่างผู้เสียหน้าและผิดหวัง และไม่กล้ากลับเข้าไปหากินในป่าแห่งนั้นอีกเลย
ไก่ป่าที่หลงกลแผนร้ายของแมวป่า ได้กำเนิดเป็น ภิกษุหนุ่ม
แมวป่า กำเนิดเป็น นางงาม
พญาไก่ป่า เสวยพระชาติเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า