ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

ชาดก 500 ชาติ
ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       ครั้งเมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ก่อสงครามทรงรบเพื่อชิงบ้านเมืองนั้น ทั้งสองพระองค์ทรงรบกันหลายครั้งหลายครา ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่อย่างนั้น ในคราวแรกของการทำสงคราม พระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีชัย กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลไม่สามารถต้านทานกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูไว้ได้ จึงถอนร่นกลับเมืองเพื่อเตรียมวางแผนการศึกครั้งต่อไป

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชนะแล้ว ครั้งนี้เราชนะแล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ” พระเจ้าปเสนทิโกศลเมื่อเสียท่าจากศึกครั้งที่แล้ว ก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอันมากเร่งคิดหาวิธีรบครั้งต่อไป เพื่อนำชัยชนะมาให้ได้ “ จะมีวิธีการรบอย่างไรบ้างนะ ที่จะทำให้เราสามารถเอาชนะได้ จะทำอย่างไรให้สามารถจับตัวพระเจ้าอชาตศัตรูมาให้ได้ ”

       “ ข้าแต่พระมหาราช ธรรมดาว่าภิกษุทั้งหลายย่อมเป็นผู้ฉลาดในความคิดอ่าน ควรที่พระองค์จะส่งคนสอดแนมไปคอยกำหนดถ้อยคำของหมู่ภิกษุดู พระเจ้าค่ะ ” “ ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าจงรับคำสั่งจากเรา ส่งราชบุตรผู้หนึ่งไปสู่พระวิหาร แล้วก็ซ่อนตัวเสีย คอยจดจำเอาถ้อยคำของพระคุณเจ้าทั้งหลายมาให้จงได้ ”

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       ในพระเชตวันวิหารนั้นมีที่เป็นพระเถระแก่สองรูปอยู่ที่บรรณศาลาหลังวัด รูปหนึ่งนามว่า ธนุคคหติสสเถระ รูปหนึ่งชื่อว่า มันตทัตตเถระ ขณะที่กำลังก่อกองไฟอยู่นั้น ก็ได้พูดคุยถึงเรื่องสงครามของพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้าโกศล “ พระราชาปเสนทิโกศลองค์นี้ช่างเขลาเสียจริง ๆ พระองค์คงจะทรงทราบแต่เพียงเสวยกกระยาหารประมาณ 1  ถาดเท่านั้นเอง ”

        “ เหตุใด ท่านถึงกล่าวอย่างนั้นเล่า ” “ พระราชาพ่ายแพ้ศัตรูผู้เป็นเพียงตัวหนอนในพระอุทรของพระองค์ก็ว่าได้ การรบมันต้องมียุทธวิธี การที่จะเอาชนะกองทัพพระเจ้าอชาตศัตรูนั้น มันต้องมีวิธีการ ช่องเขาตรงโน้นเหมาะที่จะวางคนไว้สองข้าง ต้องวางแผนล่อให้ข้าศึกเข้ามา พอรู้ว่าเข้ามาภายในแล้ว ก็โห่ร้องก้องสนั่นล้อมไว้ กระทำให้อยู่ในกำมือแล้วก็จับเอา เหมือนจับปลาที่เข้าไซนั่นแหละ ”

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

      ผู้ที่พระราชาทรงใช้ไปสืบฟังถ้อยคำนั้นแล้ว พากันกราบทูลแด่พระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้งนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเสด็จไปด้วยกองทัพใหญ่ ทรงกระทำตามแผนการที่ฟังจากพระเถระ ทำให้สามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้  เรื่องราวที่ว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ ด้วยการจัดแจงของพระธนุคคหติสสเถระโด่งดังไปในกลุ่มภิกษุ พากันยกเรื่องนั้นขึ้นสนทนาในธรรมสภา

       “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ถึงในครั้งก่อนธนุคคหติสสเถระ ก็เป็นผู้ฉลาดในการจัดขบวนรบ ” ลำดับนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทานมาเล่าดังต่อไปนี้

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       ในอดีตกาลมีช่างไม้ผู้หนึ่ง อาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี วันหนึ่งเขาได้เดินเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้านนั้น เพื่อหาไม้ดี ๆ มาประกอบงานช่างของเขา ขณะที่เขากำลังเดินสำรวจดูไม้อยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นลูกหมูตัวหนึ่งตกอยู่ในหลุม “ เฮ้ย นี่ลูกหมูนี่น่า น่าสงสารจังเลย นี่คงเผลอเดินตกหลุมมาละสิ มามะ มามะ โอ๋ ไม่เป็นไรนะ น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย ฉันจะเลี้ยงแกไว้แล้วกัน กลับบ้านด้วยกันนะเจ้าหมูน้อย ”

       ด้วยความรักใคร่เอ็นดูแต่แรกเห็น ช่างไม้นำลูกหมูตัวนั้นมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แล้วตั้งชื่อให้ว่า  ตัจฉกสุกร เขาให้การเลี้ยงดูเจ้าหมูตัจฉกสุกรอย่างดี “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้านี่ก็ซนเหมือนกันนะ ตั้งแต่มีเจ้ามาอยู่ด้วย ข้าไม่เคยเหงาเลย ดีจังเลย ” ทั้งหมูและช่างไม้ผู้เป็นเจ้าของต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข 

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       ตัจฉกสุกรเมื่อได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีก็เติบโตเป็นหมูที่สมบูรณ์ ร่างกายของมันใหญ่โตสง่างาม มีกำลังมากมาย มันสามารถช่วยช่างไม้ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเอาจะงอยปากพลิกไม้ให้ก็ได้ เอาเส้นบรรทัดพันจมูกลากจมูกไปให้ก็ได้ เอาปากคาบขวาน สิ่ว ค้อน มาให้ก็ได้ “ ขอบใจมากลูกรักของพ่อ ขยันทำงานดีจริง ๆ น่ารัก ”

       วันหนึ่งมีเพื่อนบ้านแวะมาที่บ้านของช่างไม้นั้น เมื่อพวกเขาได้เห็นตัจฉกสุกร ก็คิดถึงเมนูอาหารจานใหญ่ พวกเขาหวังว่าจะได้กินเนื้อของมันในสักวัน “ โอ้โหเจ้าหมูตัวน้อยนั่น โตแล้วนี่ อ้วนดีจริง ๆ แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะฆ่าเอาเนื้อมันมากินล่ะ กินตอนนี้กำลังดี เนื้อยังไม่เหนียวถ้าเจ้าฆ่าไม่ลงบอกพวกเรานะ เดี๋ยวมาช่วย ”

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       ช่างไม้เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนบ้านกล่าวก็เกิดความหวั่นวิตก “ ลูกเอ๋ย พ่อเลี้ยงเจ้าไว้ที่นี่ต่อไป คงเกิดอันตรายกับเจ้าขึ้นแน่ ๆ ถ้าพ่อต้องออกไปตัดไม้แล้ว ใครจะอยู่กับเจ้าถึงตอนนั้นพวกชาวบ้านก็จะได้มาฆ่าเจ้าเอาไปทำแกงเป็นแน่ ๆ เฮ้อ นี่คงถึงเวลาที่เจ้าจะกลับไปบ้านของเจ้าที่แท้จริงแล้วสินะ ”

       เมื่อคิดได้ดังนั้น รุ่งเช้าช่างไม้จึงพาตัจฉกสุกรมาปล่อยไว้ในป่าดังเดิม “ ไปเถอะลูกเอ้ย ไปอยู่บ้านจริง ๆ ของเจ้า พ่อได้เลี้ยงเจ้าอย่างดีจนเติบใหญ่แข็งแรงแล้วบัดนี้เจ้าคงสามารถเอาตัวรอดในป่าใหญ่นี้ได้ โชคดีนะลูกพ่อ ” ตัจฉกสุกร เมื่อจากป่าไปตั้งแต่ยังเด็ก การใช้ชีวิตในป่าใหญ่นี้ด้วยตัวคนเดียวมันจึงยากนัก

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       “ เราจะอยู่ในป่านี้แต่เพียงลำพังตัวเดียวได้อย่างไร ศัตรูสัตว์ใหญ่ ๆ เหล่านั้นมีมากมายนัก เราตัวคนเดียวคงสู้กับพวกมันไม่ได้ เห็นทีเราจะต้องเที่ยวค้นหาหมู่ญาติให้ได้ญาติ ๆ ของเราเท่านั้นที่จะช่วยดูแลกันได้ ” ตัจฉกสุกรเดินเที่ยวเสาะหาฝูงหมูไปในป่าชัน พบหมูเป็นอันมากก็ดีใจ “ นั่นไง เจอแล้วหางเหมือนเรา จมูก ปาก เท้า หัว หู ทุกอย่างเหมือนเราหมดเลย สัตว์เหล่านั้นต้องเป็นญาติของเราแน่ ๆ ดูสิที่เห็นนี่ก็อุดมสมบูรณ์ มีทั้งน้ำทั้งผลหมากรากไม้เยอะแยะ อยู่ที่นี่ต้องดีแน่ ๆ เลย ดีล่ะ เราจะไปขออยู่กับหมูเหล่านี้ ” “ ท่านทั้งหลาย เราขออยู่กับพวกท่านได้ไหม เรามาจากในหมู่บ้าน ถูกคนนำไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก บัดนี้เขาได้เอาเรามาไว้ในป่าดังเดิมแล้ว เราไม่สามารถอยู่ตัวเดียวได้ขอเราอยู่กับพวกท่านได้ไหม ” “ ฮึ เจ้าคิดดีแล้วรึที่จะมาอยู่ที่นี่ เจ้าไม่รู้หรอกว่าที่นี่ มีศัตรูตัวร้าย มันคอยดักขย้ำพวกเราวันละตัว วันละตัว จนเทียบจะไม่เหลืออยู่แล้วหมูตัวไหนอ้วนสุด มันก็จะฆ่า เอาเนื้อไปกิน ตัวอ้วน ๆ อย่างเจ้านะ คงถูกมันฆ่าตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ ”

       “ ศัตรูที่ท่านว่าคือใคร มันเป็นใคร พวกท่านบอกเราหน่อยได้ไหม ” “ ก็เสือยังไงละ เจ้าเคยเจอไหมละ มันน่ากลัวมาก มีเขี้ยวแหลมคม เล็บของมันนะคมนักหากหมูตัวไหนโดนมันขย้ำแล้ว มีแต่ตายเท่านั้น ฮึย พูดแล้วก็ขนลุก เจ้าคิดดูสิ หมูอ้วน ๆ ขาสั้น ๆ อย่างเราจะวิ่งหนีมันทันได้อย่างไรกัน ” “ ทุกวันนี้ พวกเราอยู่กันด้วยความหวาดวิตก คอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตัวตลอดเวลา ชีวิตที่นี่มันไม่ปลอดภัยอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ”

       “ นั่นสิ เจ้าเสือนั่นน่ากลัวจะตาย แค่ได้ยินเสียงมันคำรามหัวใจข้าก็หล่นลงพื้นไปแล้ว ฮึย ” “ พวกท่านจะกลัวเสือตัวนั้นไปทำไม พวกเราไม่มีเขี้ยวหรือ กำลังกายไม่พรั่งพร้อมหรือพวกเราทั้งหมดพร้อมใจกันแล้ว ก็จะจับมันตัวเดียวเท่านั้นให้อยู่ในอำนาจได้ พวกท่านดูสิพวกเรามีทั้งหมดกี่ตัว แล้วแค่เสือตัวเดียว เราจะเอาชนะมันไม่ได้รึ พวกท่านจะอยู่อย่างหวาดกลัวทำไม ลุกขึ้นสู้สิ สั่งสอนให้เจ้าเสือนั่น รู้ว่าหมูอย่างพวกเราไม่ยอมให้ใครมารังแกกันได้ง่าย ๆ หรอกนะ ”

       ตัจฉกสุกรพูดสร้างกำลังใจเหล่าหมู ให้มีใจฮึกเหิมสู้กับศัตรูเจ้าเสือร้าย “ นั่นนะสินะ เราจะกลัวเจ้าเสือนั่นทำไม พวกเรามีมากกว่าตั้งเยอะตั้งแยะ ” “ เอาเถอะฉันจะสลัดความกลัวออกไป แล้วก็จะสู้กับมันสักครั้ง ” ตัจฉกสุกรกระทำพวกหมูทั้งหมดให้มีความสามัคคีเป็นใจเดียวกัน แล้ววางแผนกำจัดศัตรูเจ้าเสือร้าย “ พวกท่านทั้งหลายรุ่งเช้าพรุ่งนี้ หากเจ้าเสือนั้นมา พวกเราจงช่วยกันสู้กับมัน ฉันมีแผนที่จะกำจัดมันอย่างง่ายดาย หมูทั้งหลายช่วยกันทำตามแผนนี้เถิด ”

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       ตัจฉกสุกรนั้น ฉลาดในการรบรู้ชัยภูมิว่าตั้งในฐานที่ไม่อาจชนะได้ เหตุนั้นจึงตรวจดูประเทศแห่งหนึ่งแล้วให้พวกหมูหากินเสียแต่กลางคืน เมื่อกินกันจนอิ่มแล้ว หมูทั้งหลายก็เริ่มวางกับดักตามแผนที่ตัจฉกสุกรวางไว้ พอถึงเวลาค่อนรุ่งก็จัดให้เหล่าหมูตั้งเป็นขบวนรบ เมื่อตัจฉกจัดการเรียบร้อยก็ประจวบกับเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พญาเสือตัวนี้ได้อาศัยอยู่ในอาศรมของชฎิลโกง ทุกเช้ามันจะต้องล่าเหยื่อ แล้วนำเนื้อเหล่านั้นมาเป็นอาหารของมันเอง และฤาษีนั้นด้วย

       “ ตื่นแล้วหรือพ่อเอ๋ย วันนี้ขอเนื้อหมูอีกนะ เอามาย่างแล้วมันอร่อย เนื้อหวานนักเชียว หือ คิดแล้วน้ำลายไหล ” “ ได้เลย เราเองก็ชอบเนื้อหมูเหมือนกัน ไปล่ะ พูดแล้วก็ชักจะหิวสะแล้ว ” พญาเสือตัวนั้นเดินไปยังที่อยู่ของเหล่าหมู ตามเดิมอย่างที่มันเคยทำทุกครั้ง “ นั้นไงท่าน ศัตรูที่พวกเรารออยู่มาแล้ว ” “ โอ๊โอ๋ นั่นไงอาหารของเรา เห็นอยู่ลิบ ๆ นี่ออกมารอกันอยู่แต่เช้าเลยหรือนี่ แหม รู้หน้าที่จริง ๆ ดี ๆ จะได้ไม่ต้องเดินหาให้เหนื่อย ฮะฮ่าฮ่าฮ่า ”

 ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       “ พวกท่านอย่ากลัวไปเลย ครั้งนี้เราได้เตรียมแผนไว้เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อเสือตัวนั้นมาถึง ไม่ว่ามันจะทำอาการใด พวกท่านจงทำตามมัน อย่าได้เกรงกลัวไปเลย ” ครั้งนั้นเมื่อพญาเสือเดินมาถึงฝูงหมู มันสะบัดร่างกายแล้วขู่คำราม เพื่อทำให้ลูกหมูเหล่านั้นกลัว แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไป หมูเหล่านั้นไม่ได้มีทีท่ากลัวมันอย่างเดิม พวกมันกลับขู่กลับมา อย่างพร้อมใจสู้กันทั้งฝูง “ เฮ้ย เป็นไงกลัวกันหัวหดเลยละสิ เฮอะ ๆ ๆ” “ เราไม่กลัวเจ้าหรอก ”

       “ เฮ้ย เจ้าหมูพวกนี้วันนี้มันดูแปลก ๆ ทำมันไม่กลัวเราเหมือนเมื่อก่อน เมื่อวานมันยังกลัวหัวหดวิ่งหางจุกตูดไปเลย ทำไมวันนี้พวกมันน่ากลัวจังวะเนี่ย ทำท่าเป็นศัตรูกับเราซะด้วย เอ๊ะ หรือว่าพวกมันจะมีนายใหญ่คอยสั่งการเอาไว้ พวกนี้ได้แบ็กดี ท่าทางจะไม่ดี ถอยไปตั้งหลักก่อนดีกว่า ” วันนั้นเจ้าเสือโคร่งเมื่อเห็นพฤติกรรมของเหล่าหมูที่เปลี่ยนไปก็เกิดความกลัวมันจึงรีบกลับไปยังอาศรม พญาเสือเมื่อกลับไปถึงอาศรมโดยไม่มีเนื้อกลับมาด้วยดังเก่า ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ดาบส

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       “ อ้าวไหนละเนื้อหมู เจ้าไม่ได้เอามาด้วยดอกหรือ หรือว่า ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า นี่เจ้าหมดเขี้ยวเล็บแล้วหรือพญาเสือที่ดุร้าย วันนี้กลับกลายเป็นสุนัขน้อย ๆ น่าเอ็นดูไปแล้วหรือนี่ ฮะ ฮ่า ฮา ฮ่า น่าขำยิ่งนัก เสือที่ดุร้ายอย่างเจ้า กลัวแม้กระทั่งฝูงหมูอย่างนั้นรึ หมูที่ไหนจะมาพร้อมใจกันทำร้ายเจ้าได้ ไปเถิด ไปเอาเนื้อหมูนั้นมานะ ” เสือโคร่งเป็นสัตว์มีเขี้ยว ถูกชฎิลผู้หยาบช้าเห็นแก่อามิส ปลุกใจให้ฮึกเหิม สำคัญว่าจะทำได้เหมือนครั้งก่อน จึงวิ่งเข้าไปในฝูงสุกรผู้มีเขี้ยว แต่เหล่าหมูนั้นไม่ได้เกรงกลัวมันดังคำที่ฤาษีว่าไว้ พวกมันตั้งรับสู้ดังแผนที่เตรียมกันไว้ “ มาเลยเจ้าเสือร้าย เราไม่กลัวเจ้าหรอก มาเลย โดดมาเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”

 ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

        เสือโคร่งไม่สามารถยั้งความเร็วไว้ได้จึงไปตกในหลุมที่เป็นตะพักเหมือนกระด้ง แน่นอัดเหมือนฝ่อนหญ้าตัจฉกสุกรลุกขึ้นโดยเร็วเผ่นจากหลุมขบเขี้ยวลงตรงขั้วไส้ของมัน ขวิดขาดไปถึงหัวใจ กินเนื้อ แล้วเอาปากคาบเหวี่ยงไปนอกหลุมแบ่งให้หมูญาติของมันได้ลองลิ้มรสชาติของเสือบ้างแม้จะสามารถฆ่าศัตรูได้แล้ว แต่เหล่าหมูพวกนั้นก็ไม่ได้แสดงความยินดีเลย สร้างความสงสัยแก้ตัจฉกยิ่งนัก “ พวกท่านไม่ดีใจกันหรอกรึ นี่เราฆ่าเจ้าเสือร้ายนั่นได้แล้วต่อไปนี้พวกเราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข ”

 ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       “ นายเอ๋ย พวกเราเพียงจับเสือโคร่งได้ตัวเดียวเท่านั้น ก็เท่ากับพวกเราจับเสือโคร่งตัวที่ประทุษร้ายได้ตัวหนึ่ง แต่นอกจากนี้ ผู้ที่จะนำเสือโคร่งมาได้ยังมีอยู่ที่อาศรมนั่น มีชฎิลโกงอยู่เขาเป็นผู้บงการให้สัตว์ร้ายในป่านี้มาทำร้ายเรา เมื่อไหร่ที่เจ้าชฎิลโกงยังอยู่ พวกเราก็ไม่สมารถอยู่กันอย่างสงบสุขได้หรอก ” “ ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไปฆ่ามันกันเถอะ กำจัดคนร้ายนั้นให้พ้นไป ไปเถอะ ” กล่าวถึงชฎิลนึกว่าเสือโคร่งมัวช้าอยู่ มองดูมาทางของมัน เห็นพวกหมูเป็นอันมากกรูวิ่งมา ก็เกิดความกลัว รีบปีนขึ้นไปบนต้นมะเดื่อ “ เฮ้ย ๆ นั่น นั่น นั่นอะไรวิ่งมาทางนี้ นั่นมันหมูนี่น่า โอ้ย ซวยแล้วเรา นี่เจ้าเสือโคร่งมันคงโดนฆ่าตายแล้วละสิ หนี หนี หนีดีกว่า อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย ”

ชาดก 500 ชาติ ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

       เหล่าหมูเมื่อมาถึงอาศรมเห็นดาบสโกงปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้ ตัจฉกสุกรจึงเรียกหมูหนุ่ม ๆ มาให้ช่วยกันคุ้ยดินออกจากต้นไม้ ให้แม่หมูทั้งหลายไปอมน้ำมา ให้พวกหมูที่มีเขี้ยวใหญ่ ๆ ช่วยกันขวิดรากโดยรอบ จนเหลือแต่รากแก้วที่หยั่งลงไปตรงรากเดียวเท่านั้น “ เอาล่ะ พวกท่านหลบก่อน เราจะทำให้ต้นไม้นี่ล้มลงมาเอง เสร็จแน่เจ้าฤาษีทุศีล ” ตัจฉกสุกรคุกเข่าเอาเขี้ยวขวิดตรงรากแก้วขาดไปเหมือนฟันด้วยขวาน ต้นไม้นั้นก็พลิก “ เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ล้ม ล้ม ล้มแน่ ๆ ใครก็ได้ช่วยที โอ้ย โอ้ย โอ้ย ” พอชฎิลโกงตกลงมาเท่านั้นพวกหมูก็พากันรับไว้แล้วรุมกินเนื้อเสีย

       ครั้งนั้นได้มีรุกขเทวดาเห็นเหตุอัศจรรย์นั้นโดยทั้งหมด “ ญาติทั้งหลายมีมากด้วยกัน ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ ถึงต้นไม้ทั้งหลายที่เกิดในป่าก็เหมือนกัน สุกรทั้งหลายพร้อมเพรียงกันเข้า ฆ่าเสือโคร่งเสียได้ เพราะประพฤติร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ” หมูทั้งหลายช่วยกันฆ่าพราหมณ์และเสือโคร่งทั้งสองได้แล้ว ต่างร่าเริงบันเทิงใจ พากันบันลือศัพท์สำเนียงเสียงสนั่น หมูเหล่านั้นยกให้ตัจฉกสุกรเป็นพระราชา พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดกว่า


ชฎิลโกงในครั้งนั้น ได้มาเป็นเทวทัต
ตัจฉกสุกรได้มาเป็น ธนุคคหติสสะ
ส่วนรุกขเทวดา เสวยพระชาติเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล