อรรถกถา กฬายมุฏฐิชาดก
ว่าด้วย โลภมาก
ในฤดูฝน แถบชายแดนของพระเจ้ากรุงโกศลเกิดกบฏ ทหารสู้รบถึงสองสามครั้ง ก็ไม่สามารถเอาชนะข้าศึกได้สักที จึงส่งข่าวทูลถวายพระราชาให้ทรงทราบ
ครั้นเมื่อพระราชาเสด็จออกในฤดูฝน จึงทรงจัดตั้งค่ายใกล้พระวิหารเชตวัน พระราชาทรงทราบทันทีว่าออกรบครั้งนี้ เป็นเวลาไม่สมควร เพราะซอกเขาเต็มไปด้วยน้ำ เดินทางลำบาก จึงตัดสินใจเข้าเฝ้าพระศาสดา พระตถาคตถามว่า "พระองค์จะเสด็จไปไหน" แล้วกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ พระองค์ก็ตรัสว่า "ยังไม่ถึงเวลาเสด็จ" แม้แต่ก่อน พระราชาทั้งหลายเมื่อจะยกทัพไป ครั้นได้ฟังคำของบัณฑิตแล้ว ก็ไม่เสด็จไปสู่กองทัพในเวลาอันไม่สมควร ครั้นพระราชาทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่า ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์สำเร็จราชกิจทั่วไป สอนธรรมพระราชา
ในวันหนึ่งทางชายแดนของพระองค์เกิดกบฎ ทหารที่ชายแดนส่งสาส์นให้ทรงทราบ พระราชาเสด็จออกในฤดูฝน ตั้งพักค่าย ณ พระอุทยาน พระโพธิสัตว์ได้อยู่ใกล้ที่ประทับพระราชา ขณะพวกทหารนำถั่วดำอาหารม้ามาใส่ไว้ในราง มีลิงตัวหนึ่งลงจากต้นไม้ ฉวยเอาถั่วดำจากรางนั้น ใส่ปากจนเต็มแล้วยังคว้าติดมือไปอีก กระโดดขึ้นไปนั่งบนต้นไม้
จากนั้นลิงกินถั่วดำปรากฎว่าขณะที่กำลังกินอยู่นั้นมีถั่วดำอยู่นั้นมีเม็ดหนึ่งหลุดจากมือตกลงไปบนดิน จึงทิ้งถั่วดำทั้งหมดทั้งที่อยู่ในปาก แล้วมองหาถั่วดำนั้น ครั้นไม่เห็นมันจึงจึงนั่งเศร้าโศกเสียใจ หน้าซึมอยู่บนกิ่งไม้ เหมือนแพ้คดีไปสักพันคดี
พระราชาทอดพระเนตรเห็นกิริยาของลิงจึงตรัสเรียกพระโพธิสัตว์แล้ว ตรัสถามว่า "ดูซิ ท่านอาจารย์ ลิงมันทำอะไรนั่น"
พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า "ขอเดชะข้าแต่มหาราช ผู้โง่เขลาไร้ปัญญา ไม่มองถึงของมาก มองแต่ของน้อย ย่อมกระทำเช่นนี้แหละ พระพุทธเจ้าข้า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมชน ลิงผู้เที่ยวหาอาหารตามกิ่งไม้นี้ โง่เขลายิ่งนัก ปัญญาของมันก็ไม่มี มันสาดถั่วทั้งกำ เสียหมดสิ้นแล้ว เที่ยวค้นหาถั่วเมล็ดเดียวที่ตกลงบนพื้นดิน"
พระโพธิสัตว์ถวายโอวาทแด่พระราชาว่า "ข้าแต่มหาราช พวกเราก็ดี ชนเหล่าอื่นที่ถูกความโลภครอบงำก็ดี ทั้งหมดนั้น ย่อมเสื่อมจากของมาก เพราะของน้อย ด้วยว่า บัดนี้ พวกเราจะเดินทางไปในฤดูฝนอันมิใช่กาลสมควร ย่อมเสื่อมจากประโยชน์มาก เพราะเหตุประโยชน์เล็กน้อย เหมือนลิงตัวนี้แสวงหาถั่วเมล็ดเดียว เสื่อมแล้วจากถั่วเป็นอันมาก เพราะถั่วเมล็ดเดียวนั้น ฉันใด แม้พวกเราในบัดนี้ก็ฉันนั้น กำลังจะไปในที่อันเต็มไปด้วยซอกเขาและลำธารเป็นต้น โดยมิใช่กาล แสวงหาประโยชน์เล็กน้อย แต่จักเสื่อมจากพาหนะช้าง พาหนะม้าเป็นต้นมากมายและหมู่นักรบ เพราะฉะนั้น ไม่ควรไปในเวลาอันมิใช่กาล"
พระราชาสดับถ้อยคำของพระโพธิสัตว์นั้น แล้วเสด็จกลับจากที่นั้น เข้าสู่พระนครพาราณสีทันที แม้พวกโจรได้ข่าวว่า พระราชาเสด็จออกจากพระนคร โดยพระประสงค์จะปราบปรามพวกโจร จึงพากันหนีออกจากชายแดน แม้ในปัจจุบันพวกโจรได้ยินข่าวว่า พระราชากรุงโกศลเสด็จออก จึงพากันหนีไป พระราชาสดับพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว เสด็จลุกจากที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า กระทำประทักษิณ เสด็จกลับกรุงสาวัตถี
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก.
พระราชาในครั้งนั้น ได้เป็น อานนท์ ในครั้งนี้
ส่วนอำมาตย์บัณฑิต คือ เราตถาคต นี้แล.