ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: อรรถกถา กิมปักกชาดก ว่าด้วย โทษของกาม

อรรถกถา กิมปักกชาดก
ว่าด้วย โทษของกาม

              

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้กระสันแล้วรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้


            ได้ยินว่า กุลบุตรผู้หนึ่งบวชถวายชีวิตในพระพุทธศาสนา วันหนึ่ง เที่ยวบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี เห็นหญิงนางหนึ่งแต่งกายหมดจดงดงาม เกิดกระสัน. ครั้งนั้น อาจารย์แลอุปัชฌาย์พาเธอ มายังสำนักของพระบรมศาสดา

5-11-67-5br.jpg


               พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ จริงหรือที่ว่าเธอกระสัน. เมื่อเธอกราบทูลว่า จริง พระเจ้าข้า. ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ขึ้นชื่อว่า เบญจกามคุณเหล่านี้ น่ารื่นรมย์ในเวลาบริโภค แต่ว่า การบริโภคเบญจกามคุณเหล่านั้นย่อมเปรียบได้กับการบริโภคผลกิมปักกะ (ผลไม้มีพิษชนิดหนึ่ง ลูกเท่าผลมะม่วง) เพราะเป็นตัวให้เกิดปฏิสนธิในนรกเป็นต้น ที่ได้ชื่อว่า ผลกิมปักกะสมบูรณ์ด้วยสี กลิ่นและรส แต่กินเข้าไปแล้ว กัดไส้ทำให้ถึงสิ้นชีวิต ในครั้งก่อน คนเป็นอันมากไม่เห็นโทษของมัน ติดใจในสี กลิ่นและรส ต่างบริโภคผลนั้น พากันถึงสิ้นชีวิต. 


               อันภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น กราบทูลอาราธนา ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :- 

5-11-67-1br.jpg
               
                ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ อยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เป็นนายกองเกวียน คุมกองเกวียน ๕๐๐ เล่ม เดินทางไปสู่ชายแดนไกลๆ ถึงปากดง เรียกประชุมคนทั้งหลายตักเตือนว่า ในดงนี้มีต้นไม้ที่ชื่อต้นไม้มีพิษ ไม่ถามเราก่อนแล้ว อย่ากินผลาผลที่ไม่เคยกินมาก่อนเป็นอันขาด. 

5-11-67-2br.jpg


                ฝูงชนเดินทางล่วงเข้าสู่ดง ได้เห็นต้นกิมปักกะ (ต้นไม้มีผลเป็นพิษชนิดหนึ่ง ลูกเท่าผลมะม่วง) ต้นหนึ่ง มีกิ่งโน้มลงเพราะหนักผล ลำต้น กิ่งและใบของมัน คล้ายกับต้นมะม่วงทั้งสัณฐาน สี กลิ่นและรส พากันกินผลไม้ ด้วยสำคัญว่าผลมะม่วง 

 

                บางพวกก็ว่า ต้องถามนายกองเกวียนก่อนแล้วจึงจักกิน ถือยืนรออยู่. 

5-11-67-3br.jpg


               ครั้นพระโพธิสัตว์มาถึงที่นั้น ก็ร้องบอกพวกที่ถือยืนรอนั้นให้ทิ้งผลไม้เสีย บอกให้พวกที่พากันกินเข้าไปแล้วทำการสำรอก แล้วให้ยาพวกนั้นกิน พวกเหล่านั้นบางคนก็หาย แต่พวกที่กินเข้าไปก่อนพวกทีเดียว พากันสิ้นชีวิต. 

5-11-67-4br.jpg


               ฝ่ายพระโพธิสัตว์เดินทางถึงสถานที่ต้องการจะไปโดยสวัสดี ได้ลาภแล้ว กลับมาถึงสถานที่ของตนดังเดิม กระทำบุญมีให้ทานเป็นต้น แล้วไปตามยถากรรม. 

             

               พระศาสดาตรัสเรื่องนั้นแล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า 


               ผู้ใดไม่รู้โทษในอนาคต มัวเสพกามอยู่ ผลที่สุด กามเหล่านั้น ก็จะกำจัดบุคคลนั้นเสีย เหมือนผลกิมปักกะกำจัดผู้กินให้ถึงตายฉะนั้น ดังนี้. 

               ความไม่รู้คือไม่ทราบถึงโทษในกาลภายหน้า. 


               บุคคลใดซ่องเสพวัตถุกามและกิเลสกาม.   กามเหล่านั้นจะยังบุรุษนั้น ผู้เกิดแล้วในนรกเป็นต้นในที่สุด กล่าวคือวิบากของตน ให้พัวพันอยู่ด้วยทุกข์มีประการต่างๆ 

            
               อุปมาอย่างเดียวกับผลกิมปักกะที่บุคคลบริโภคแล้วฉะนั้น.  ผลกิมปักกะน่าชอบใจ เพราะถึงพร้อมด้วยสี กลิ่นและรสในเวลาบริโภค ทำให้คนที่ไม่เห็นโทษในอนาคต กินแล้วถึงความสิ้นชีวิตไปตามๆ กัน ฉันใด กามทั้งหลาย แม้จะน่าชอบใจในเวลาบริโภค ก็จะกำจัดเขาเสียในเวลาให้ผล ฉันนั้น. 


               พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมแล้วทรงประกาศสัจธรรม ภิกษุผู้กระสันบรรลุโสดาปัตติผล บริษัทที่เหลือ บางพวกเป็นพระโสดาบัน บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกเป็นพระอนาคามี บางพวกได้เป็นพระอรหันต์. 


               พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า 


                         บริษัทในครั้งนั้น ได้มาเป็น พุทธบริษัท 
                         ส่วนนายกองเกวียนได้มาเป็น เราตถาคต

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล