อรรถกถา ปูฏทูสกชาดก
ว่าด้วย ผู้ชอบทำลาย
ณ พระวิหารเชตวันอันสงบ พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่เหล่าภิกษุ ขณะนั้น มีเรื่องเล่าถึงเด็กชายคนหนึ่ง ผู้ชอบทำลายห่อใบไม้ที่พ่อของเขาจัดไว้ เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อสนทนาของเหล่าภิกษุ
วันหนึ่ง อำมาตย์ผู้หนึ่งในกรุงสาวัตถี นิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมภิกษุสงฆ์มารับทานในสวนของเขา อำมาตย์กล่าวว่า “ในระหว่างมื้ออาหาร หากพระคุณเจ้าทั้งหลายปรารถนาเดินชมสวน ก็โปรดตามสบายเถิด”
ภิกษุทั้งหลายจึงออกเดินชมสวนที่ร่มรื่น ขณะนั้น คนดูแลสวนกำลังเก็บใบไม้จากต้นไม้สูง โดยทำเป็นห่อแยกไว้เป็นพวก เช่น ห่อดอกไม้ ห่อผลไม้ แล้ววางไว้โคนต้น ทว่า เด็กชายผู้เป็นลูกของคนสวนกลับฉีกห่อใบไม้เหล่านั้นเล่นอย่างสนุกสนาน เมื่อภิกษุเห็นเหตุการณ์จึงกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า “ข้าแต่พระองค์ เด็กชายคนนี้ชอบทำลายสิ่งที่พ่อของเขาจัดไว้”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เด็กคนนี้ไม่ได้เริ่มทำลายห่อใบไม้ในชาตินี้เท่านั้น แม้ในอดีตเขาก็เคยเป็นผู้ทำลายเช่นนี้”
จากนั้น พระองค์ทรงเล่าเรื่องในอดีตกาล...
กาลครั้งหนึ่ง ณ เมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ผู้เปี่ยมด้วยปัญญา วันหนึ่ง พระโพธิสัตว์เดินทางไปยังสวนใหญ่เพื่อทำธุระเฉพาะ ระหว่างนั้น คนดูแลสวนกำลังเก็บใบไม้จากต้นไม้ ทำห่อไว้เหมือนในปัจจุบัน
ในสวนแห่งนั้น มีกลุ่มลิงอาศัยอยู่ ลิงจ่าฝูงเห็นห่อใบไม้ที่คนสวนจัดไว้จึงเริ่มรื้อทำลายห่อเหล่านั้น พระโพธิสัตว์เห็นเหตุการณ์จึงกล่าวกับลิงจ่าฝูงว่า “เจ้าคงอยากแสดงฝีมือทำห่อใบไม้ใหม่ให้ดีกว่าเขา จึงทำลายห่อเก่าหมดใช่ไหม?” คำพูดนั้นเปี่ยมด้วยความเสียดสี
ลิงจ่าฝูงได้ยินดังนั้น จึงตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้ฉลาดในการทำห่อใบไม้เลย พ่อแม่ของข้าก็ไม่ได้สอน ข้ารื้อเพียงเพราะมันเป็นธรรมชาติของพวกข้า”
พระโพธิสัตว์ยิ้มบางๆ ก่อนตอบว่า “ถ้าธรรมชาติของเจ้าคือการทำลาย เช่นนั้นสิ่งที่ผิดธรรมชาติก็คงเลวร้ายยิ่งกว่า ข้าไม่ปรารถนาเห็นทั้งธรรมชาติและสิ่งผิดธรรมชาติของพวกเจ้าในเวลาใดอีกเลย” หลังจากนั้น พระโพธิสัตว์ก็จากไป ก็แหละครั้นกล่าวแล้วจึงติเตียนหมู่วานร แล้วหลีกไป
พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย แล้วทรงประชุมชาดกว่า
วานรในครั้งนั้น ได้เป็นทารกผู้ทำลายห่อใบไม้ในบัดนี้
ส่วนบุรุษบัณฑิตในครั้งนั้น ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.