อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๑๘๑ท่านมาเยี่ยม

เรื่องที่ ๑๘๑ท่านมาเยี่ยม

 

คุณสุปราณี พิมพาภรณ์ อายุ ๓๙ ปี ทำงานครัวอยู่บ้านคนไทยที่ฮ่องกง อยู่ย่านฝั่งเกาลูน เล่าว่า ได้ไปทำงานที่บ้านนั้นตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๔๑ ต่อมานายจ้างมาบอกเลิกจ้างให้กลับเมืองไทยเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของการใช้หนี้ที่เธอยืมนายจ้างล่วงหน้า ส่งไปรักษาพยาบาลคุณแม่ที่เมืองไทยเป็นเงินถึงแสนสองหมื่นบาท เมื่อพิจารณาตัวเองแล้วเธอทำงานดีขยันขันแข็งมาตลอด ทำไมจึงถูกเลิกจ้าง


ภายหลังทราบว่า น้องสาวซึ่งอยู่ที่นั่นมาก่อนเธอถึง ๘ ปีแล้ว ต้องการแก้ปัญหาที่คุณสุปราณีมีเรื่องขัดแย้งกับน้องเขย ขณะทำงานที่นั่นคุณสุปราณีนอกจากส่งเงินให้คุณแม่แล้ว ยังแบ่งเงินมาทำบุญสร้างองค์พระที่มหาธรรมกายเจดีย์ จนได้รับพระมหาสิริราชธาตุไปบูชา

เมื่อไม่ต้องการกลับเมืองไทยในเวลานั้น จึงอธิษฐานขอพรพระมหาสิริราชธาตุ ขอให้ได้ทำงานต่อ และขอให้มารดาหายป่วย แต่การอยู่ทำงานต่อที่ฮ่องกง ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องหาเจ้านายใหม่ทดลองงาน คุณสุปราณีเองไม่เก่งทั้งภาษากวางตุ้ง และภาษาอังกฤษ งานใหม่จึงเป็นเรื่องไม่มีความหวังเลย


แต่แล้วสิ่งอัศจรรย์ได้บังเกิดขึ้น พ้นเดือนธันวาคมแล้ว นายจ้างขอให้อยู่ทำงานเดือนมกราคมต่อ เพราะมีงานจัดเลี้ยงหลายงาน ให้อยู่ช่วยทำครัว จึงอยู่มาเรื่อยๆ จนถึง ๕ กุมภาพันธ์ นายจ้างจึงพูดให้อยู่ต่อไม่มีกำหนด และได้มีงานจัดเลี้ยงหลายครั้ง อยู่ต่อมาคืนหนึ่ง พี่สาวได้โทรศัพท์แจ้งให้ทราบว่า คุณแม่ที่กำลังป่วยอยู่ มีอาการบวมทั้งตัว และไม่รู้สึกตัวแล้ว ตั้งแต่เวลา ๕ ทุ่ม พี่สาวอยากให้น้องๆ ที่อยู่ฮ่องกงทั้ง ๓ คน กลับมาดูใจแม่

คุณสุปราณีรู้สึกกลุ้มใจมาก ถ้ากลับเมืองไทยตอนนั้น ก็เสียดายงาน แต่ไม่กลับไม่สมควรยิ่ง คืนนั้นนั่งสมาธิตั้งแต่เวลา ๔ ทุ่ม สวดสรรเสริญด้วย ทำอธิษฐานจิตด้วย ปฏิบัติด้วยความตั้งใจเต็มที่ ขอให้แม่ได้บุญที่ลูกๆ ร่วมกันสร้างองค์พระจารึกชื่อแม่ และไม่ยอมนอน นั่งสมาธิตลอด

กระทั่งตี ๒ มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณสุปราณีไม่กล้ารับสาย เกรงเป็นข่าวร้ายของมารดา น้องสาวเป็นผู้รับ บอกว่าแม่ต้องการคุยกับลูกๆ ที่อยู่ฮ่องกงทุกคน


คุณแม่พูดโทรศัพท์ไต่ถามทุกข์สุข และเล่าว่า "แม่ได้เห็นพระมหาสิริราชธาตุมายืนเรียกอยู่ที่หััวนอน" ท่านบอกว่า "ให้ลุกขึ้นมาอนุโมทนาบุญกับลูกๆ ที่ได้ร่วมกันทำบุญสร้างพระประจำตัวจารึกชื่อไว้ให้" แม่บอกลักษณะขององค์พระได้ถูกต้อง เหมือนในภาพถ่ายที่แจกกันอยู่ทั่วไป และคุณสุปราณีมอบให้พี่สาววางไว้ที่หัวนอนแม่รูปหนึ่ง


คุณแม่บอกว่า ท่านได้อนุโมทนาบุญเรียบร้อยแล้ว อยากจะไปที่วัดพระธรรมกาย แต่จะขอรอให้ลูกๆ เป็นคนพาไป ตอนนี้แม่ลุกขึ้นยืนเดินได้ อาการบวมก็ยุบลง แล้วเชื่อว่าจะหายในเร็ววันนี้


คุณสุปราณียืนยันว่า ต้องเป็นอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุแน่นอน ที่ทำให้พบเรื่องดีๆ

ที่ผู้เล่าประสบสิ่งดีๆ คงเป็นด้วยบุญกุศลที่เป็นลูกกตัญญูอยู่ด้วย อุตส่าห์เป็นหนี้นายจ้าง นำเงินส่งให้พี่สาวรักษาพยาบาลคุณแม่ นับว่าเป็นลูกที่หาได้ยาก เป็นตัวอย่างดีที่ลูกๆ ของทุกครอบครัวควรกระทำตาม ควรเป็น "ผู้ให้" ต่อบิดามารดาบ้าง ไม่ใช่คิดแต่จะเป็น "ผู้รับ" อยู่ฝ่ายเดียว ท่านแก่เฒ่ากันมากขึ้น แต่บางคนกลับยังต้องให้ท่านอุปถัมภ์ตนและลูกของตนเองอีก ดีไม่ดีเห็นพ่อแม่เป็นคนรับใช้ในบ้าน ทำอะไรไม่ถูกใจ เพราะคนแก่งกเงิ่น เส้นเอ็นแข็ง ทำข้าวของตกหล่นเสียหาย แทนที่จะหาเวลาคอยปรนนิบัติรับใช้ ตอบแทนคุณท่าน ลูกประเภทนี้ก็ดุว่าบ่นท่านไม่รู้จบ

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล