เรื่องที่ ๒๗๕เกือบไม่ได้เห็นหน้าแม่
เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็เข้าไปกอดคุณแม่แล้วร้องไห้และบอกคุณแม่ว่า หนูเกือบไม่ได้เห็นหน้าแม่แล้ว
คุณผ่องพรรณ ชูแก้ว
|
คุณผ่องพรรณ ชูแก้ว อยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่าเธอเริ่มเข้าวัดพระธรรมกายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒ ช่วงเข้าวัดใหม่ๆ จะมาวัดเฉพาะวันงานบุญใหญ่ เช่น วันทอดกฐิน วันมาฆบูชา วันคล้ายวันเกิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และได้ทำบุญกับพระที่บวชอุทิศชีวิต (บวชตลอดชีวิต) ตลอดมา
สมัยก่อน มาวัดด้วยความลำบากมากต้องนั่งรถประจำทางจากปราณบุรีมาพักกับน้องที่กรุงเทพฯ หลังจากทำบุญเสร็จก็เดินทางกลับ ถึงบ้านตี ๑ บ้าง ตี ๒ บ้าง วันรุ่งขึ้นต้องทำงาน แต่น้องสาวชื่อผุดผ่อง ชูแก้ว ก็ให้กำลังใจตลอดมา เนื่องจากเธอมีโรคประจำตัวคือ ภูมิแพ้ เวลาที่ร่างกายอ่อนเพลียมากๆ จะหอบ หายใจไม่ออก ต้องเข้าโรงพยาบาลให้ออกซิเจน ให้น้ำเกลือ ช่วงที่เป็นมากๆ ต้องเข้าโรงพยาบาลตลอด น้องแนะนำว่าให้อธิษฐานจิตบ่อยๆ ให้ได้มาสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งเธอก็ทำตามที่น้องแนะนำ
ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นต้นมา เธอได้มาวัดทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน เพราะการเดินทางสะดวกขึ้น อาการโรคภูมิแพ้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลอีก ซึ่งเธอได้สร้างพระธรรมกายประจำตัว และเป็นผู้นำบุญสร้างองค์พระประมาณ ๕๐ องค์
|
ด.ญ.มัณฑนา ชูแก้ว
หลานสาวของคุณผ่องพรรณ |
ต่อมาได้ทราบว่ามีการสร้างพระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ รู้สึกอยากสร้างมาก ได้รวบรวมเงินสร้างองค์พระแกนกลาง และได้รับพระมหาสิริราชธาตุเป็นพระของขวัญ ได้อธิษฐานจิตว่าขอให้องค์พระเป็นคู่บุญคู่บารมีตลอดชีวิต
เธอได้พบเหตุการณ์อัศจรรย์ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ วันนั้นเธอขับรถจักรยานยนต์ไปซื้ออาหารที่ตลาดนัดหนองหอยกับหลาน ชื่อ ด.ญ.มัณฑนา ชูแก้ว เพื่อจะนำอาหารไปถวายพระภิกษุ ที่ธุดงคสถานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทอดผ้าป่าวันรุ่งขึ้น ขณะขับรถไปบนถนนเพชรเกษมช่วงแยกต่างระดับ ปราณบุรี-กรุงเทพฯ มีรถบรรทุก ๖ ล้อขับมาอย่างเร็วเฉี่ยวรถที่เธอขับ ซึ่งเธอได้เล่าเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า "ก่อนที่รถจะเฉี่ยวดิฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาปัดให้กระเด็นออกจากรถบรรทุก ๖ ล้อคันนั้น" รถเธอตกลงข้างทาง กระแทกกับกองอ้อยที่เกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านั้นประมาณ ๗ วัน ล้อรถคดงอ ยางระเบิดใช้ไม่ได้ทั้งล้อหน้าล้อหลัง ส่วนหลานเจ็บจากแรงกระแทกเล็กน้อย ไม่ต้องไปหาหมอ มีทหารรุ่นน้องชื่อ จ.ส.อ.คณิต มานิตากูล และเพื่อนมาช่วย เขาบอกว่าพี่มีบุญนะ ผมนึกว่าพี่แย่แน่แล้ว เพราะเขาได้เห็นเหตุการณ์พอดี เขาบอกว่ารอดได้อย่างปาฏิหาริย์ และถามว่าพี่มีพระอะไรดี ซึ่งเธอก็บอกน้องคนนั้นว่าแขวนพระของวัดพระธรรมกาย (พระมหาสิริราชธาตุ) เขาว่าพระคุ้มครองพี่แท้ๆ และพาเธอไปส่งบ้าน
เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็เข้าไปกอดคุณแม่แล้วร้องไห้และบอกคุณแม่ว่าหนูเกือบไม่ได้เห็นหน้าแม่แล้ว คุณแม่ก็กอดเธอแน่น แล้วถามว่าเป็นอะไร เธอจึงเล่าเรื่องให้คุณแม่ฟัง คุณแม่บอกว่าบุญรักษานะที่ลูกไม่เป็นอะไร เพราะตรงที่รถเฉี่ยวนั้นก่อนหน้านั้นก็มีอุบัติเหตุหลายราย ล่าสุดถึงกับไฟไหม้ คุณแม่ว่าผีตายโหงแรง แต่ก็ยังแพ้บุญที่ลูกทำมา
และในตอนท้ายเธอได้กล่าวว่า "ขอให้ทุกท่านตรึกระลึกถึงบุญตลอดเวลา เพราะบุญเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ในยามคับขัน"