อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๓๗๐อัศจรรย์คนทำข่าว

เรื่องที่ ๓๗๐อัศจรรย์คนทำข่าว
เขาตระหนักถึงหน้าที่ของคนไทยคนหนึ่งที่ควรช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา และนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงทุกประการ



 

 
 
ถนนตรงจุดเกิดเหตุ  
 

คุณทวีป จงกลรอด บก.ผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เป็นผู้หนึ่งที่มีหัวใจในการปกป้องพระพุทธศาสนา เคยได้มาทำข่าวงานบุญอุบาสกแก้ว เมื่อวันที่ ๒๙-๓๑ มกราคม ปี พ.ศ.๒๕๔๒ ณ วัดพระธรรมกาย เพื่อนำเสนอข่าวในงานบุญวันนั้น และยังคงเข้ามาทำข่าวในงานบุญใหญ่เสมอ คุณทวีปได้รับพระมหาสิริราชธาตุ (รุ่นพิชิตมาร) โดยมีเพื่อนนำมาให้ที่สำนักพิมพ์ ตั้งแต่นั้นก็อาราธนาท่านไว้กับตัวตลอดเวลา การเข้ามาทำข่าวให้กับวัดพระธรรมกายนั้น คุณทวีปมิได้หวังสิ่งใดตอบแทนเลย เขาตระหนักถึงหน้าที่ของคนไทยคนหนึ่งที่ควรช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา และนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงทุกประการ คุณทวีปกล่าวว่า "เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ควรร่วมใจกันปกป้องพระพุทธศาสนา มิให้เสื่อมสูญไป" คุณทวีปเองนั้นไม่ค่อยมีโอกาสปฏิบัติธรรมเพราะไม่ค่อยมีเวลา แต่ทุกครั้งที่ออกจากบ้านก็จะอธิษฐานถึงองค์พระมหาสิริราชธาตุ (รุ่นพิชิตมาร) ที่แขวนอยู่ "ขอให้การเดินทางปลอดภัย อย่าให้มีอันตรายใดๆเกิดขึ้น" จากอานิสงส์์ที่คุณทวีปได้กระทำอย่างสม่ำเสมอในการปกป้องป้องพระพุทธศาสนา ทำให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุได้อย่างไม่น่าเชื่อ และการประกอบเหตุที่ดี โดยการช่วยเหลือพระพุทธศาสนาในยามวิกฤตเช่นนี้ ถือว่าเป็นบุคคลที่กล้าหาญและกล้านำเสนอความดีงามที่ชาวพุทธประพฤติปฏิบัติกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย และเป็นการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ทุกประการ

 
  รถของคุณทวีปที่ประสบอุบัติเหตุ  
 

คุณทวีปเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่ายังจำได้ติดตามาจนถึงทุกวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีลมหายใจอยู่ นี่คือรางวัลชีวิตที่คุ้มค่ามากที่ทำให้เขามีชีีวิตรอดและทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบได้ต่อไป คืนที่เกิดเหตุการณ์นั้นคุณทวีปกับเพื่อนๆ ทำงานจนดึก เลยไปถึง ตี ๑ ของวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๒ คุณทวีปพร้อมเพื่อนๆ รวมกัน ๔ คน รู้สึกหิวจึงออกไปทานอาหารด้วยกัน และแยกย้ายกันกลับ เพื่อน ๒ คนขับรถอีกคัน ส่วนคุณทวีปขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้านั่งคู่ไปกับคุณชัยพร จันทรโรจน์ ขับรถไปถึงจุดเกิดเหตุบริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตรงโค้งวัดโคนอน ขณะนั้นเวลาประมาณตี ๔ ช่วงที่ขับรถนั้นประมาณ ๗๐-๘๐ กม./ชม. อยู่ๆ ก็มีรถสิบล้อแหกโค้งพุ่งเข้ามาจะชนรถคุณทวีป ขณะนั้นคุณทวีปไม่คิดอะไรทั้งสิ้น สัญชาตญาณสั่งให้หักหลบทันที โดยไม่ได้เหยียบเบรค รถวิ่งเสยชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง เสียงดังสนั่น ช่วงเวลาพริบตาเดียวนั้น คุณทวีปรู้สึกตัวตลอด แรงกระแทกระหว่างหน้าอกกับพวงมาลัยอัดก็อปปี้จนพวงมาลัยยุบเป็นเลขแปด ส่วนศีรษะนั้นกระแทกกระจกรถอย่างแรง กระจกแตกแต่คุณทวีปไม่มีบาดแผลใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อนที่นั่งคู่มาด้วยตอนนั้น สลบไม่รู้สึกตัว ช่วงระยะที่คุณทวีปนั่งรอตำรวจ ประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพร้อมๆ กับรถปอเต็กตึ้ง เจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ้งถามว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า" คุณทวีปตอบว่า "ไม่เป็นไรมากแต่รู้สึกแน่นหน้าอกอย่างเดียว" เจ้าหน้าที่ก็ดึงเพื่อนอีกคนออกมาจากรถ คุณทวีปยืนดูอยู่ หลังจากนั้นรถปอเต็กตึ้งก็นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลอนันต์พัฒนา ย่านบางกรวย ระหว่างทางเพื่อนเริ่มรู้สึกตัวร้อง "โอยๆ" พอถึงโรงพยาบาลคุณทวีปรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นอะไรมาก จึงตามไปดูเพื่อนซึ่งคุณหมอได้พาไปเอ็กซเรย์ ปรากฏว่ากระดูกซี่โครงด้านซ้ายมีรอยร้าว เพื่อนคุณทวีปก็ได้รับพระมหาสิริราชธาตุ แต่ไม่ได้นำติดตัวมาด้วย คุณหมอให้คุณชัยพรนอนพักที่โรงพยาบาล ๑ วัน แล้วจึงให้กลับบ้านได้ ส่วนคุณทวีปกลับบ้านในคืนนั้นเลยหลังจากรู้ว่าเพื่อนปลอดภัยแล้ว สำหรับสภาพของรถนั้น ถ้าเป็นเหตุการณ์ทั่วไป ทุกคนคงนึกถึงภาพของผู้บาดเจ็บได้ว่า อาการจะหนักสาหัสขนาดไหน ดีไม่ดีอาจถึงชีวิต แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นที่น่าแปลก ว่าคุณทวีปไม่เป็นอะไรเลย และหายเป็นปกติเพียงไม่กี่วัน

 
 
โรงพยาบาลอนันต์พัฒนา ที่ไปตรวจรักษา  
 

คุณทวีปบอกว่า "ผมมั่นใจจริงๆว่า องค์พระมหาสิริราชธาตุท่านช่วยไว้จริงๆ" ส่วนเพื่อนๆ ที่ทราบข่าวก็พากันตื่นเต้น และพากันไปถ่ายรูปรถ เพื่อเก็บไว้เตือนสติ ซึ่งตอนนั้นรถจอดอยู่ที่สถานีตำรวจ แต่ก็น่าแปลกที่รูปภาพที่ถ่ายออกมาหลายภาพปรากฏว่ามีลำแสงรายล้อมตัวเพื่อนคุณทวีป และรถคันดังกล่าว ดังที่เห็นได้จากรูปภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่ทางพุทธธรรมแล้วบุญกุศลย่อมคุ้มครองคนดีเสมอ

ครั้งเมื่อวัดพระธรรมกายจัดงานบวชอุบาสกแก้วขึ้นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นเวลาที่อยู่ระหว่างถูกสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สิ่งตีพิมพ์ รวมทั้งกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา บิดเบือนความจริง จ้วงจาบโจมตีการทำงานของวัดพระธรรมกายทุกรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา


คุณทวีปเข้าใจสาเหตุตื้นลึกหนาบางดังกล่าวแล้วเป็นอย่างดี ด้วยน้ำใจรักความเป็นธรรมและปรารถนาช่วยปกป้องพระพุทธศาสนา จึงอาสาเข้าเขียนข่าวจริง ว่าเบื้องหลังนั้นมีต้นสายปลายเหตุเป็นมาเป็นไป สร้อยสนกลในอะไรแฝงอยู่ เปิดโปงเบื้องหลังผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา


งานที่กระทำเพื่อความถูกต้องยุติธรรมโดยบริสุทธิ์ใจนี้ ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนเป็นอามิสสินจ้างแต่ประการใดทั้งสิ้น ทำให้เพื่อประโยชน์ของสังคมพระพุทธศาสนา และความอยู่รอดของบ้านเมืองอย่างแท้จริงแม้การเผยแพร่ข่าวสารของตนเองจะทำได้ไม่มาก แต่ก็ถือว่าอย่างน้อยผู้ที่มีโอกาสอ่านพบและพอมีปัญญาพิจารณาไตร่ตรองตามเหตุผล ไม่หลงเชื่อไปตามสื่อบิดเบือนต่างๆ ยังพอมีโอกาสพ้นจากบาปกรรม และไม่กลายเป็นเครื่องมือทำลายศาสนาบรรพบุรุษของตนเอง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ได้แต่นั่งดูความหายนะที่กำลังเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง

 
 
สังเกตลำแสงที่ล้อมรถของคุณทวีป
 
 

การกระทำของบุคคลท่านนี้ เป็นการกระทำของผู้มีหัวใจนักข่าวประเสริฐสุด ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือความถูกต้อง และเป็นการกระทำในระหว่างเวลาคับขันที่สุด ในความอยู่รอดของพระพุทธศาสนาเป็นมหากุศลที่ไม่สามารถคำนวณอานิสงส์ได้


คุณทวีปได้สวมหัวใจสิงห์ หัวใจนักสู้ออกทำการเสี่ยงชีวิตปกป้องความเป็นธรรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างไม่ท้อถอยท้อแท้ บุญกุศลยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถใช้เงินทองซื้อหาได้ จึงบังเกิดขึ้นมหาศาลทับทวี แม้จะมีอกุศลวิบากกรรมเก่าตามมาทันต้องพบกับอุบัติเหตุร้ายแรง บุญใหญ่ดังกล่าวก็สามารถเป็นอุปปิฬกกรรม กรรมเบียดเบียนบีบคั้นให้หนักกลายเป็นเบา ขอให้เข้มแข็งเปี่ยมด้วยน้ำใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยวตลอดไป เราขอเป็นกำลังใจทุกคน


ตามเรื่องที่เล่ามา มีพยานเป็นภาพถ่ายยืนยันได้ว่า ในคราวเกิดอุบัติเหตุนั้น ถ่ายภาพไว้เมื่ออัดภาพออกมา มีลำแสงสว่างล้อมทั้งตัวเพื่อนคุณทวีปและรถ ทั้งที่รถถูกชนจนยับเยิน


เลนซ์ของกล้องถ่ายภาพมีความถี่มากกว่าเลนส์ตามนุษย์ จึงสามารถจับภาพพลังบุญที่เกิดห้อมล้อมออกมาให้เห็นเป็นภาพ ทั้งที่คนที่กำลังอยู่ในเหตุการณ์มองด้วยตาตนเอง ไม่เห็นอะไร


อย่างไรก็ดีขอทุกคนพึงระลึกว่า เราเกิดกันมานับภพชาติไม่ถ้วน ย่อมต้องเคยทำมาทั้งอกุศลและกุศล กรรมทั้งสองอย่างดังกล่าวที่ให้ผลไปแล้วก็มาก ที่ยังไม่ให้ผล แต่กำลังติดตามส่งผลก็มีอีกมาก แม้ขณะที่เรากำลังสร้างมหากุศลใหญ่อยู่ ก็อย่าพึงนึกว่า อกุศลวิบากกรรมเก่าจะเลิกทวงหนี้ บาปก็ส่วนบาป บุญก็ส่วนบุญหักกลบลบหนี้กันไม่ได้ แต่ตัดทอนกำลังส่งผลของอีกฝ่ายให้อ่อนกำลังลงได้ ไม่ใช่ตัดให้สูญ เพียงแต่เอาไว้ตามต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อหมดกำลังบุญตามรักษา


การสร้างบุญหรือบาปในปัจจุบัน เป็นกรรมวิสัย เป็นอจินไตย เรื่องไม่ควรคิดว่า สิ่งที่ทำนั้นจะได้รับผลเมื่อใด เพราะดังที่กล่าวแล้ว เรามีบุญเก่า บาปเก่าค้างชำระอยู่มากมาย ไม่ทราบสิ่งที่เพิ่งทำ จะไปต่อคิวให้ผลตอนใด


ด้วยเหตุนี้มีสิ่งใดเกิดขึ้น ต้องใช้ปัญญาทำความเข้าใจให้ถูกต้องเสมอ ทางที่ดีที่สุดหมั่นสร้างบุญกุศลสะสมไว้เรื่อยไป ความชั่วน้อยนิด ละเว้นให้เด็ดขาด ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นับภพชาติไม่ถ้วน เมื่อกรรมเก่าจะทำหน้าที่ส่งผล จะได้มีแต่กรรมฝ่ายดีสถานเดียว การสร้างบารมีย่อมสะดวกสบายมากขึ้น

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -
 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล