เรื่องที่ ๔๐๘ วินาทีระทึก
มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีมือขนาดใหญ่สองมือมาประคองร่างเอาไว้
บ้านกัลยาณมิตรแม่ริม |
ใครจะคาดคิดว่า เวลาเพียงเสี้ยววินาที ระหว่างความเป็นกับความตายของชีวิตนั้น สิ่งที่ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้เสมอ เป็นปรากฏการณ์ในชีวิตที่ผู้ประสบพบเจอ ยากที่จะหาคำอธิบายใดมาพรรณนาได้เทียมเท่า นอกเสียจากจะประสบกับตนเอง
ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณภัทรฤดี ผดุงพัฒน์ และ Mr.Steffen Klaesta สามีชาวต่างชาติ ผู้ประสบพบเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญในครั้งนี้ Mr.Steffen Klaesta มีอาชีพเป็นนักบินของสายการบินแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีแม่บ้านที่ดีเช่นคุณภัทรฤดี เป็นกัลยาณมิตรคอยชักชวนให้ประกอบงานบุญกุศลอยู่เสมอ ทั้งครอบครัวได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๘ มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างดียิ่ง และรู้ซึ้งถึงคุณค่าของธรรมะว่า เป็นหนทางเอกสายเดียวที่สามารถพาทุกคนพบกับความสว่างของชีวิตได้ จึงพร้อมใจกันเปิดบ้านกัลยาณมิตรตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๒ ด้วยความหวังที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่โลก ตั้งแต่เริ่มสร้างบุญกุศล ชีวิตครอบครัวก็มีแต่ความสุข และความเจริญในหน้าที่การงานเสมอมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคมที่ผ่านมา คุณภัทรฤดีและสามี พร้อมด้วยนางสาวนิลวรรณผู้ดูแลบ้าน ได้เดินทางกลับจากการไปร่วมปฏิบัติธรรมที่ชมรมศึกษาธรรม โดยรถเก๋งส่วนตัวโดยใช้เส้นทางถนนโชตนา มุ่งตรงไปยังอำเภอแม่ริม ด้วยอัตราความเร็ว ๘๐-๙๐ กม./ชม. ลักษณะถนนวันเวย์มี ๒ เลน ขณะที่รถของคุณภัทรฤดีแล่นมาถึงบริเวณหน้าสนามกอล์ฟ สามีของเธอได้ขับรถเข้าเลนขวาชิดเกาะกลางถนน เพื่อเตรียมยูเทิร์นกลับรถ ในขณะที่รถกำลังใกล้จะถึงทางยูเทิร์น ผ่านหน้าสนามกอล์ฟลานนา มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับโดยผู้หญิงสาวอายุประมาณ ๒๐ เมื่อมอเตอร์ไซค์ขับออกมาจากสนามกอล์ฟ ซึ่งอยู่ซ้ายมือคนขับก็พยายามพามอเตอร์ไซด์ของตนเอง ปาดจากเลนซ้ายเข้ามาในเลนขวาเพื่อที่จะกลับรถเช่นกัน สามีของคุณภัทรฤดีเห็นมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวพุ่งมาแต่ไกล ลักษณะของคนขับเหมือนไม่ชำนาญในการขับรถ ไม่มีการตัดสินใจที่ดี เธอขับเคลื่อนมาเหมือนไม่เห็นรถคันอื่นๆ ยังไงชนแน่
ในช่องเลนขวานอกจากรถของคุณภัทรฤดีแล้วยังมีรถที่วิ่งตามหลังมาอีกหลายคัน สามีของคุณภัทรฤดีจึงตัดสินใจเบรคระยะยาวเสียงล้อรถทั้ง ๔ ล้อ ถูกเบรคให้หยุดหมุนโดยกระทันหัน เสียง เอี้ยด...ยาวดังสนั่นไปทั่วบริเวณนั้น แต่อนิจจา...กลับไม่พ้นมอเตอร์ไซค์เจ้ากรรม เอี้ยด...โครม...รถเก๋งไหลไปปะทะมอเตอร์ไซค์อย่างแรง ทุกคนในรถตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้า ร่างของหญิงสาวกระเด็นหลุดจากมอเตอร์ไซค์ ลวยละลิ่วอยู่บนอากาศ หลังจากที่ร่างหญิงสาวลอยสูงขึ้นไปจนสุดแรงเหวี่ยงแล้ว ร่างนั้นก็ค่อยๆ ร่วงลงมากระแทกกับกระจกรถเก๋งด้านซ้ายมือ เสียงร่างกระแทกกับกระจกอีกเปรี้ยงใหญ่ กระจกแตกกระจายแล้วร่างนั้นก็ค่อยๆ ไถลลงไปจากรถ เมื่อเจ้าของร่างถึงพื้นถนนทุกคนก็ต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน เพราะแทนที่เธอจะสลบคาที่ไปเลย ปรากฏว่าเธอยังสามารถลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหารถมอเตอร์ไซค์ของเธอได้อีก จากนั้นจึงค่อยๆ เข่าอ่อนทรุดฮวบ หมดสติลงไป
คุณภัทรฤดีและสามีได้รีบพาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หลังจากทำการตรวจเช็คสภาพร่างกายและปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วปรากฏว่า ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีรอยแผลจากเศษกระจกหน้ารถบาดที่บริเวณใบหน้า และแผลบริเวณปลายเท้าเล็กน้อย ทางด้านสมองไม่มีการกระทบกระเทือนแต่อย่างใด นายตำรวจผู้หนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ ได้กล่าวออกมาด้วยความแปลกใจว่า “...เป็นไปได้อย่างไร...” ต่างรุมล้อมถามว่า “..มีพระดีอะไรรึปล่าว?..” แม้แต่ตัวคุณภัทรฤดีและสามีเองก็มีความแปลกใจมิใช่น้อย เมื่อเข้าไปสอบถามผู้บาดเจ็บก็ยิ่งทำให้รู้สึกแปลกใจมากขึ้น เพราะเธอได้เล่าว่า ขณะที่ตัวเองถูกกระแทกกับรถเข้าอย่างจัง จนตัวลอยขึ้นไปนั้นก่อนที่ร่างจะกระแทกกับหน้ารถอีกครั้ง มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีมือขนาดใหญ่สองมือมาประคองร่างเอาไว้ ไม่ให้ตกลงมาอย่างแรงเหมือนครั้งแรก บอกไม่ถูกว่าคืออะไรแต่รู้สึกว่าเป็นมือคนจริงๆ
สภาพรถตอนที่อยู่ในที่เกิดเหตุการณ์จริง
|
ส่วนคุณภัทรฤดีและสามี เมื่อได้ฟังอย่างนั้น จึงทำให้นึกถึงเหตุการณ์ อัศจรรย์ขณะเกิดเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมกัน นั่นคือรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญขนาดเล็ก ที่ตนเองได้มาเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองโลกที่ผ่านมานั้น ปกติองค์ท่านจะถูกยึดให้ติดกับชั้นวางด้านหลังรถอย่างเหนียวแน่น แต่ขณะเกิดเหตุไม่ทราบว่าเป็นไปได้อย่างไร ที่จู่ๆ องค์พระที่เคยแกะออกยากแสนยากได้เคลื่อนย้ายมาอยู่บริเวณกระปุกเกียร์ด้านข้างคนขับ ซ้ำยังหันหน้ากลับไปทางด้านหลังรถเหมือนจะคอยป้องกันภยันตรายจากด้านหลัง ซึ่งขณะเบรคกระทันหัน รถที่ขับตามมาเป็นรถ jeep cherokee ได้หักหลบอย่างเร็วพ้นรถของคุณภัทรฤดีไปเพียง ๒-๓ เซ็นติเมตรเท่านั้น ซึ่งถ้าหักหลบไม่พ้น นั่นย่อมหมายถึงอุบัติเหตุอย่างฉกรรจ์ที่จะตามมาอย่างแน่นอน
คุณภัทรฤดีอธิบายเพิ่มว่า เครื่องแก้วเจียระไนที่วางอยู่ด้านหลังรถเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นวัสดุที่เบาและเปราะแตกหักง่าย กลับไม่ได้รับการกระทบกระเทือน หรือขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย แต่องค์พระที่ยึดติดด้วยกาวไว้แน่นกลับเคลื่อนย้ายได้! “ถ้าไม่เรียกเหตุการณ์เช่นนี้ว่าอัศจรรย์แล้วจะเรียกว่าอะไร กับปรากฏการณ์ที่เหนือธรรมชาติเช่นนี้”
มีเรื่องที่ชวนให้คิดอีกเรื่องหนึ่งคือ ก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุเพียงหนึ่งวัน คุณภัทรฤดีมีความรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก อันเป็นสาเหตุให้นอนไม่ค่อยหลับนัก พอตกกลางคืนก็ฝันไปว่าเห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านมาหา ในลักษณะท่านั่งขัดสมาธิ เหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง เป็นภาพความฝันที่มีความชัดเจนมาก ราวกับว่าเป็นความจริงที่มองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ มิใช่กายฝัน หรือจะเป็นลางบอกเหตุให้รู้ล่วงหน้า ถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันนี้ก็ไม่อาจจะคาดเดาได้
จากการประมวลภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการได้พบเห็นพร้อมๆ กันทั้งตัวคุณภัทรฤดีและสามี ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดจากอานุภาพของพระรัตนตรัยที่คอยปกปักรักษาอย่างแน่นอน และด้วยอำนาจบุญกุศลที่ทุกคนในครอบครัวได้ตั้งใจบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาเสมอมา ทำให้ทุกคนในครอบครัวแคล้วคลาดจากเสี้ยววินาทีมรณะได้อย่างปลอดภัย
จึงนับว่าเป็นความโชคดีของคุณภัทรฤดีและครอบครัว ที่ได้รอดพ้นจากภาวะวิกฤติของชีวิตไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความเป็นไปในวิถีชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก ดังพุทธภาษิตที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ชีวิตมนุษย์นั้นเป็นของน้อย เปรียบเสมือนกับหยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้า ที่เพียงแค่โดนแสงแดดในยามเช้าก็พลันเหือดแห้งไป บุคคลผู้มีปัญญาจึงควรสั่งสมเสบียงคือบุญ ติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ เปรียบได้ดั่งบุคคลผู้เดินทางไกล ย่อมขวนขวายหาเสบียงสำหรับการเดินทางฉะนั้น อีกทั้งการตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ย่อมยังประโยชน์สุขให้กับตนเองทั้งแก่โลกนี้และโลกหน้า คุณภัทรฤดีและครอบครัวจึงจัดว่าเป็นผู้ที่ตั้งตนชอบ หมั่นประกอบการบุญกุศลอยู่เสมอ ทำให้แม้ในช่วงคับขันของชีวิตก็สามารถผ่านพ้นอันตรายมาได้ด้วยอำนาจบุญที่ได้สั่งสมมา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดแต่เหตุ อันได้แก่การกระทำหรือกรรมของแต่ละคนที่เคยทำเอาไว้ ไม่ว่าดีหรือร้าย ผลของกรรมนั้นย่อมติดตามตัวเราไปพร้อมรอวันที่จะส่งผลอยู่เสมอ ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณภัทรฤดีนี้ หากจะกล่าวว่าเป็นเพราะผลของกรรมก็คงจะไม่ผิดนัก เราทุกคนจึงควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หมั่นสร้างความดีอยู่เป็นนิจ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าบนเส้นทางพระรัตนตรัย อันเป็นที่พึ่งอันเกษม ซึ่งเป็นที่พึ่งให้แก่เราได้แม้ในยามคับขัน