เรื่องที่ ๔๑๖ เสียงสวดช่วยชีวิต
มองเห็นเพชฌฆาตกำลังพุ่งตรงมาที่รถของตน พนมมือขึ้นพร้อมกับตะโกนสุดเสียง
“หลวงพ่อพระมหาสิริราชธาตุช่วยลูกด้วย”
คุณป้าสมหมาย ไชยเนตร และครอบครัว จะสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุทุกครั้งเมื่อมีการเดินทาง |
ทุกครั้งเมื่อมีการเดินทาง ทุกคนในรถจะประกอบเหตุเพื่อยังความไม่ประมาทให้เกิดขึ้นด้วยการรักษาสติของตนเองโดยมีพระมหาสิริราชธาตุเป็นสื่อแทนพระรัตนตรัยภายใน ให้ใจของทุกคนเชื่อมโยงไปถึงท่าน เปล่งวาจา สวดสรรเสริญด้วยท่วงทำนอง อันไพเราะไปตลอดการเดินทาง และเป็นกุศโลบายให้ใจหยุดนิ่งภายในอย่างง่ายๆ
คุณป้าสมหมาย ไชยเนตร ได้เล่าถึงวินาทีวิกฤตที่มรณะภัยมายืนรออยู่เบื้องหน้า ซึ่งป้าเองจำได้อย่างแม่นยำว่า ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณป้า พร้อมลูกสาวและลุงทองคำ มีธุระต้องเดินทางจากอำเภอพิบูลมังสาหาร ไปอำเภอวารินชำราบ เพื่อขนสินค้าไปเปิดร้านใหม่ให้ลูกสาว เมื่อช่วยกันจัดของเข้าร้านเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายก็เดินทางกลับอำเภอพิบูลมังสาหาร โดยรถเฟียตส่วนตัว ซึ่งเป็นรถคู่ใจของคุณลุงทองคำ เมื่อดูจากรูปทรงและสภาพของรถเฟียตคันนี้ค่อนข้างย้อนยุคพอสมควร ระหว่างอายุของรถและอายุของเจ้าของคิดว่าใกล้เคียงกัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปี
คุณลุงทองคำ ทำหน้าที่สารถีแก้วพาภรรยาและบุตรสาวกลับบ้านด้วยความระมัดระวัง รถยนต์ได้วิ่งฝ่าพยับแดดยามบ่ายซึ่งยังคงความร้อนระอุอยู่ทั่วบริเวณถนนที่ยาวสุดลูกหูลูกตา รถทุกคันวิ่งกันด้วยความเร็วสูง ๙๐-๑๒๐ กม./ชม.ขึ้นไป ถนนมีอยู่ ๔ เลน มีเส้นแบ่งเลน เพื่อให้รถยนต์วิ่งซ้าย-ขวา ข้างละ ๒ เลนเป็นระยะๆ เสียงบทสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุในทำนองอันไพเราะ ยังคงดังอยู่ตลอดเวลาของการเดินทางนี้ พอรถเริ่มเคลื่อนตัวออกจากอำเภอวารินชำราบ ทั้งสามคนต่างพร้อมใจกันทำกุศโลบาย ให้ใจหยุดนิ่งภายในด้วยการสวดมนต์ ใจจรดศูนย์ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย โดยมีรูปภาพพระมหาสิริราชธาตุ ที่ป้าสมหมายนำมาติดไว้ที่หน้ารถ แทนพระของขวัญองค์จริงที่จะได้รับในเร็วๆ นี้ ทุกคนต่างได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว เพื่อประดิษฐ์ที่เจดีย์กัน บุญใหญ่ขนาดนี้ย่อมส่งผลโดยไม่มีประมาณแก่เจ้าของบุญ คอยหล่อเลี้ยงให้ใจชุ่มชื่นเบิกบานอยู่เสมอ เมื่อตรึกระลึกถึง
ไม่ว่าจะขับไปไหน ก็จะสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยทุกครั้ง
|
สิชณันตุโสตถี.... ดังกังวานไปทั่วรถ รถแล่นมาใกล้เขตอำเภอพิบูลมังสาหารแล้ว ท่ามกลางความเปลี่ยวของป่า ยังห่างไกลจากบ้านเรือนของผู้คน บนท้องถนน มีรถเฟียตวิ่งอยู่ในเลนซ้ายของฝั่งถนน ด้วยความเร็ว ๙๐ กม./ชม. เพื่อให้รถคันอื่นที่ขับเร็วกว่าวิ่งในช่องขวาที่ชิดกับเส้นทึบแบ่งเลน เป็นเกาะกลางถนน พอสิ้นเสียงสวดเพื่อขึ้นจังหวะของบทถัดไป คุณป้าสมหมายได้ยินเสียงดัง “กึ๊ก” ของเครื่องยนต์ใต้ท้องรถ พร้อมกับจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์เปลี่ยนไป จึงรีบบอกคุณลุงทองคำว่า รถของเรากำลังมีปัญหา คุณลุงทองคำรู้ได้ทันทีด้วย ความชำนาญในการดูเครื่องยนต์ว่าเพลารถขาด รถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงในทางเรียบ เสียการทรงตัวทันที พุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปหมุนเหวี่ยงอยู่ที่ถนนของฝั่งตรงกันข้ามคือด้านขวามือ รถที่วิ่งสวนมาหักหลบกันจ้าละหวั่น เสียงเบรครถกะทันหันและหักหลบให้พ้นรัศมีของรถที่ยังควบคุมไม่ได้ ดังเอี๊ยด..อ๊าดไปทั่วบริเวณนั้น คุณลุงได้แต่นั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นึกได้แต่บุญที่สร้างพระสร้างเจดีย์เอาไว้ ส่วนคุณป้าก็ตกตะลึง ในใจท่อง สัมมาอะระหังๆ ประจวบกับมีรถปิคอัพอีกคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง และรถเฟียตของคุณลุงได้เหวี่ยงตัวไปขวางทางของรถปิคอัพที่พยายามหักหลบพอดี สุดวิสัยแล้วเพราะเลยจากช่องถนนนี้ไปก็คือไหล่ทาง เป็นพื้นที่ต่างระดับที่อันตราย มีแต่ป่าพงรกและต้นไม้ซึ่งหักหลบไม่ได้รถปิคอัพจึงตัดสินใจชนอย่างเดียว
ขับรถไปใจก็มีสติอยู่กับพระมหาสิริราชธาตุ
|
ทุกคนในรถเฟียตต่างนึกถึงบุญ คุณป้าสมหมายมองเห็นเพชฌฆาตกำลังพุ่งตรงมาที่รถของตน พนมมือขึ้นพร้อมกับตะโกนสุดเสียง “หลวงพ่อพระมหาสิริราชธาตุช่วยลูกด้วย” พอสิ้นเสียง ทุกคนในรถต้องตกตะลึง เพราะรูปภาพพระมหาสิริราชธาตุที่ติดหน้ารถได้เปล่งแสงเรืองสว่างออกมาจนแสงนี้คลุมไปทั่วรถ
รถปิคอัพพุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงเบรคดังเอี๊ยด..ยาว ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างระทึกใจไปกับภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เดชะบุญ ขณะที่รถปิคอัพพุ่งเข้ามาเกือบถึงปรากฏว่า รถเฟียตที่เหวี่ยงตัวในจังหวะนั้น ช่วงหน้ารถกลับยกตะแคงไปข้างหลังมีช่องให้รถปิคอัพพุ่งรอดไปได้อย่างหวุดหวิดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด แล้วรถของคุณลุงก็เปลี่ยนทิศทางเหวี่ยงหัวกลับไปจอดสนิทคร่อมอยู่ที่เส้นแบ่งเขตเกาะกลางถนน
รถปิคอัพคันดังกล่าว และรถคันอื่นเมื่อหลบไปในจุดที่ปลอดภัยแล้วต่างลงจากรถมาดู เมื่อรถเฟียตหยุดตัวเองได้แล้ว ด้วยความงงที่เห็นทุกคนในรถเฟียตพาตัวเองออกจากซากรถโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย
เมื่ออันตรายกำลังจะมาถึง รูปภาพองค์พระที่ติดอยู่หน้ารถก็เปล่งแสงออกมา
|
คุณป้าสมหมายบอกว่า ในภาวะคับขันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็น ท่านสามารถช่วยเราได้จริงๆ ตอนที่แสงพุ่งออกมาจากรูปพระมหาสิริราชธาตุ เหมือนกับว่าเป็นคนละมิติเลย บุญบารมีคุณความดีที่เราสั่งสมมา สามารถช่วยเราได้โดยมีพระมหาสิริราชธาตุเป็นสื่อกลาง
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นทุกๆ คน ต่างเชื่อมั่นในบุญกุศลยิ่งขึ้น เมื่อได้รับองค์พระมหาสิริราชธาตุองค์จริงมาแล้วก็อาราธนาติดตัวไว้บูชากันทุกคน และสวดสรรเสริญอย่างสม่ำเสมอ ตั้งใจทำความดีทุกรูปแบบ และเมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณพ่อของคุณป้าสมหมาย อายุได้ ๘๒ ปีแล้ว เกิดปวดท้องขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทรมานมาก ปวดจนทนไม่ไหวทานข้าวก็ไม่ได้ ลูกๆ จึงนำส่งโรงพยาบาล พอถึงโรงพยาบาลคุณหมอรับตัวเป็นคนไข้ในทันที ตรวจอาการดูพบว่าถุงน้ำดีอักเสบ นอนพักรักษาตัวอยู่ถึง ๑๕ วัน จะผ่าตัดหรือทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะคนไข้อายุมากแล้ว นอนดูอาการให้ยาบำรุง และให้น้ำเกลือเพราะคนไข้มีอาการอ่อนเพลีย ทานข้าวไม่ได้ อยู่ได้ ๒ สัปดาห์ คุณป้าก็พาคุณพ่อกลับไปดูแลต่อที่บ้าน อาการที่ดูว่าไม่เป็นอะไรมากตอนอยู่โรงพยาบาล กลับทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ คุณพ่อกลับผ่ายผอมลงไป เพราะยังปวดท้องอยู่ อาการเจ็บป่วยอย่างอื่นก็ตามมา เริ่มไอและปวดสันหลังเพราะนอนมาก คุณป้าก็คอยดูแลอย่างดี
ครอบครัวมีความสุขด้วยการระลึกนึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
|
คุณป้าตัดสินใจพึ่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณอีกครั้ง ตั้งใจอธิษฐานจิตด้วยความกตัญญูต่อบิดา อยากให้หายป่วยแข็งแรงดังเดิม อาราธนาองค์พระมหาสิริราชธาตุที่คล้องคออยู่มาพนมมือ “ลูกขอตั้งสัจจะวาจา ขอบุญกุศลคุณความดีที่สั่งสมมา ผ่านความศักดิ์สิทธิ์พระมหาสิริราชธาตุช่วยรักษาคุณพ่อให้หายป่วยจากโรคร้ายในครั้งนี้ด้วย ลูกขอตั้งใจสวดสรรเสริญท่าน วันละ ๙ จบ ทำน้ำพุทธมนต์รักษา ตอนนี้คุณพ่ออายุ ๘๒ ปี ลูกตั้งใจจะสวดสรรเสริญให้ได้ครบ ๘๒ จบ เท่าอายุคนป่วย ขอให้หายเป็นอัศจรรย์ด้วยเจ้าค่ะ” คุณป้าตั้งใจรักษากาย วาจา ใจ ให้ใสสะอาด สวดมนต์นั่งสมาธิสวดสรรเสริญวันละ ๙ จบ ทำน้ำพุทธมนต์ ขอบารมีพระมหาสิริราชธาตุ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ให้ท่านช่วยรักษาจนถึงวันที่ ๗ ซึ่งสวดได้ ๖๓ จบ ของการรักษาแบบพุทธคุณ รุ่งเช้า คุณป้าก็ออกไปตลาดซื้อกับข้าวตามปกติ ส่วนคุณพ่อยังไม่ตื่น
คุณพ่อของคุณป้าสมหมายหายจาก
โรคถุงน้ำดีอักเสบด้วยอานุภาพ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ |
เมื่อคุณป้าซื้อกับข้าวกลับมาถึงบ้าน ก็นึกแปลกใจว่า คุณพ่อลุกขึ้นนั่งเอง วันนี้ดูท่านสดชื่นกว่าทุกวัน รอคอยการกลับมาจากตลาดของลูกสาว พอเห็นก็รีบกวักมือเรียกให้เข้าไปหาแล้วรีบถาม “พระท่านกลับไปหรือยัง” คุณป้าสมหมายงงกับคำถามรีบย้อนถาม “องค์ไหนล่ะพ่อ” คุณพ่อรีบยืนยันว่า “เมื่อสักครู่มีหลวงปู่รูปหนึ่ง ดูท่านรูปร่างสูงใหญ่เหมือนคนโบราณ ผิวพรรณผ่องใส ดูมีอำนาจ แต่แววตาท่านฉายแววเมตตาอยู่เห็นได้ชัด มานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงพ่อ แล้วท่านก็เมตตาถามพ่อว่า “ทำไมถึงผอมนัก ผอมมากเดินไม่ไหว เอ่อ เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะนะ” พอท่านพูดจบ พอดีมีเสียงฝีเท้าของลูกเดินขึ้นบันไดมา ท่านก็ลุกเดินออกไป ท่านกลับหรือยังล่ะ”
คุณป้าฟังคุณพ่อบอกด้วยความตื่นเต้น เพราะตั้งแต่ขึ้นบันไดบ้านมายังไม่พบใครเลย หลวงปู่ที่คุณพ่อพูดถึง นึกทบทวนดู หลวงปู่องค์ที่มีเมตตาสูงอย่างเห็นได้ชัดเดินออกจากห้องแล้วหายไปเลย ท่านหายไปได้อย่างไร หรือว่าหลวงปู่องค์นั้นจะเป็นสังฆานุภาพของครูบาอาจารย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่เราอธิษฐานขอบารมีท่านให้ช่วยเหลือ คุณป้ามีกำลังใจขึ้นมาทับทวีคูณ คืนนั้นตั้งใจสวดมนต์ทั้งคืนเลยจนครบ ๘๒ จบ เท่าอายุคุณพ่อ
รุ่งเช้าของวันใหม่ คุณพ่อดูสดชื่นกว่าเมื่อก่อน เจอหน้าลูกสาวก็บ่นหิว ขอทานอาหารเช้าทันที ตั้งแต่นั้นมา คุณพ่อก็เริ่มทานข้าวได้เพิ่มขึ้น และทานได้ตามปกติจนเริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมา และอาการปวดหลังก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเลย ปัจจุบันสามารถไปทำสวนปลูกผัก ผลไม้ได้ตามปกติ
คุณป้าสมหมายกล่าวยืนยันอานุภาพของคุณพระศรีรัตนตรัยอย่างไม่มีประมาณ โดยผ่านองค์พระมหาสิริราชธาตุว่า ที่เล่ายืนยันมานี้อยากให้ทุกท่านรู้ว่าคุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์นั้นมีจริง เราโชคดีที่เป็นชาวพุทธมีของดีอยู่ใกล้ตัว มีของดีที่ปู่ ย่า ตา ยาย สืบทอดมาถึงยุคของพวกเรา อยากให้ทุกท่านเดินตามทางที่บรรพบุรุษได้เดินมากันแล้วจะได้พบแต่ความสวัสดีมีชัย