เรื่องที่ ๔๔๐ วัยรุ่น... วัยลอง
เธอมีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตจากเมื่อก่อน เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขยะของสังคม
เจี๊ยบ หรือรัชนี อเนกเวียง
เปลี่ยนแปลงตัวเองจากวัยรุ่นเสเพลเป็นวัยรุ่นคุณธรรม |
ย่างเข้าวันที่สองแล้วที่เจี๊ยบพยายามเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง พยายามออกมาพูดคุยกับทุกคนในบ้านน้อยที่สุด และจะสวมกางเกงวอร์มขายาวและเสื้อแขนยาวตลอดเวลาเพื่อปกปิดรอยฟกช้ำบริเวณแขนและขา เพราะเธอได้แอบหนีโรงเรียนไปดูหนังกับพรรคพวกในก๊วนเดียวกัน บังเอิญเดินไปเจอกับคู่อริเก่าเข้า จึงเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น ระหว่างนักเรียนต่างสถาบัน เจี๊ยบเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ฝ่ายของเธอซึ่งมีจำนวนน้อยกว่า จึงเจ็บตัวเยอะกว่ากลุ่มคู่อริ
กว่าจะฝ่าวงล้อมหนีเอาตัวรอดกันมาได้ก็โดนอัดมาหลายหมัด จนตัวระบม อย่างไรแค้นนี้ต้องชำระ แต่ตอนนี้ขอหลบรักษาตัวซะก่อน
เจี๊ยบ หรือ รัชนี อเนกเวียง กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เจี๊ยบอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ทำให้อาจารย์ปวดเศียรเวียนเกล้ากับความแก่นแก้ว หนีเรียน กล้าคิด กล้าลองในสิ่งผิดๆ ถึงแม้ครูและผู้ปกครองต่างก็คอยควบคุมความประพฤติของเด็กๆ กลุ่มนี้่ แต่พวกเขาก็ยังคิดค้นหาวิธีออกไปมั่วสุมเกเรจนได้
เช้าวันเสาร์ คุณยายเดินทางมาจากบ้านที่จังหวัดนครนายก เจี๊ยบดีใจมากที่คุณยายมาเยี่ยม เพราะคุณยายใจดีและรักหลานๆ ทุกคน “สวัสดีค่ะคุณยาย” คุณยายลูบศีรษะรับไหว้หลานสาวคนโตด้วยความเอ็นดู หลานสาวดูหน้าตาซูบซีด ตาโหล ยายเห็นก็สงสาร พร้อมกับส่งมะม่วงสุกที่เก็บมาจากสวนให้ ทั้งหอมทั้งหวาน เจี๊ยบรับมาด้วยความดีใจ คุณยายช่างรู้ใจเสียจริง มะม่วงของคุณยายเนี่ยทั้งหอมทั้งหวาน
“เจี๊ยบ ยายจะมาอยู่กับหลานสัก ๓ อาทิตย์ พรุ่งนี้วันอาทิตย์หนูจะไปวัดพระธรรมกายกับยายไหม” รอยยิ้มของเจี๊ยบหายไป เอาอีกแล้ว นี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่คุณยายช่างขยันชวนเราไปวัดนี้เสียจริง “ยายว่าหนูน่่าจะลองไปวัดกับยายดูบ้างนะ เผื่อหนูจะได้พบอะไรดีๆ ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตของหนูได้” เจี๊ยบไม่กล้าปฏิเสธได้แต่นั่งนิ่งๆ ในใจนึกค้านอยู่ “จะได้อะไร ไม่เห็นน่าไป หนูเห็นว่ามีแต่ข่าวลงหน้าหนึ่งทุกวันเลย” คุณยายล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือ ซึ่งทำด้วยหวายใบใหญ่ พร้อมกับส่งหนังสือให้เจี๊ยบ “ยายให้หนู หนังสือนี้ดีมาก เหมาะสำหรับทุกคน เมื่ออ่านแล้ว หนูจะได้พบกับอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่เขาบันทึกเอาไว้ หนูมีเวลาว่างก็อ่านนะจ๊ะ”
เจี๊ยบรับมาพร้อมกับขออนุญาตเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ค่อยๆ ลุกแล้วพยายามเดินให้เหมือนคนปกติ เดี๋ยวคุณยายจับได้ว่าปวดขา เพราะผลพวงจากการตะลุมบอนกันในสองวันก่อน ยังไม่หายดี แต่คำพูดของคุณยายก็เชิญชวนให้เจี๊ยบหยิบหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุขึ้นมาอ่าน เขาพิมพ์บอกว่าเล่มที่ ๓๑ เปิดสารบัญดูสะดุดตากับเรื่องที่ ๓๓๑ “มีดกระเด็น” ฮึ่ม! น่าสนใจ ขลังถึงขนาดมีดฟันไม่เข้าเชียวหรือ? เมื่อเจี๊ยบอ่านจบรู้สึกประทับใจยิ่งนัก ที่ผู้เล่ายังเป็นวัยรุ่นอยู่ บอกว่าถูกอันธพาลรุมชกต่อย ขณะขายของอยู่ แล้วอันธพาลคนนั้นได้ใช้มีดฟันที่แขนอย่างแรง แต่มีดไม่เข้าเนื้อ แถมยังกระเด็นหลุดไป จนอันธพาลกลัว แล้วขับรถหนีไป สาเหตุที่ฟันไม่เข้านั้นเพราะชายคนนี้เป็นคนดี รักการทำความดี ทำมาหากินอาชีพสุจริต และมีพระมหาสิริราชธาตุคล้องคอบูชาอยู่ จึงทำให้เขาแคล้วคลาดจากการถูกฟันในครั้งนี้
ครอบครัวที่คอยให้กำลังใจเจี๊ยบ เปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นคนดี
|
เมื่ออ่านจบลง เจี๊ยบประทับใจในคุณวิเศษของพระมหาสิริราชธาตุมาก ทั้งที่ไม่รู้ว่าคืออะไร ได้มาอย่างไร นึกตามประสาเด็กๆ ว่า “ถ้าเรามีไว้สักองค์คงดี เวลาไปมีเรื่องทะเลาะต่อยตีกับคู่อริ เราจะได้มีของดีไว้ป้องกันตัว” เจี๊ยบจึงตัดสินใจตามคุณยายไปวัด เมื่อถึงวัดแล้ว เนื่องจากวัดมีพื้นที่กว้างมาก จึงยังไม่มีเวลาไปหาของขลังที่ว่า เขามีไว้ตรงไหน เดินตามคุณยายเข้าไปในศาลาใหญ่โล่งกว้าง ซึ่งมีแต่ผู้คนเยอะแยะทุกเพศทุกวัย วัยรุ่่นแบบเจี๊ยบก็มีเยอะ แต่พวกเขาช่างยิ้มง่ายเสียจริง แถมยังคอยช่วยเหลือต้อนรับผู้ใหญ่่อีกด้วย ดูเขายิ้มร่าเบิกบานจากการได้แสดงออกถึงสิ่งเหล่านี้เสียจริง
“ได้เวลาหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันแล้วนะจ๊ะ” เสียงหลวงพ่อ เจ้าอาวาสบอกให้ทุกคนทำสมาธิ ทุกคนก็ทำตามอย่างว่าง่ายบรรยากาศเงียบสงบ
“เราชักชอบบรรยากาศวัดนี้แล้วซิ ดีเหมือนกันทำสมาธิแล้วใจเย็น มีความสุขต่างจากตอนเราไปเที่ยว ดื่มเล่นกับเพื่อนๆ เทียบกันไม่ได้เลย บรรยากาศของที่นี่ก็ดี ดูเย็นไปหมด รู้สึกปลอดกังวล ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ก้าวร้าวดุดัน ก็มีพวกมีเพื่อนได้
เจี๊ยบได้เก็บความทรงจำที่ดีนี้เอาไว้ และไปวัดบ่อยขึ้น เมื่อน้าสาวชวนยิ่งไปบ่อย นั่งสมาธิบ่อยๆ ก็พบตัวเองในท่ามกลางความเงียบมากขึ้น ใจเริ่มใสสามารถแยกแยะการกระทำต่างๆ ที่ผ่านมาว่าสิ่งไหนคือความชั่ว สิ่งไหนคือความดี ควรจะเก็บเอาไว้และหมั่นเพาะให้มันเกิดขึ้นมาในใจ
วัยที่กล้าคิดกล้าลอง จึงมีพลังพอที่จะกล้าทำความดี ประกอบกับได้กำลังใจ คำปรึกษาแนะนำจากพระภิกษุ เจี๊ยบจึงมีความอาจหาญในการเปลี่ยนความประพฤติของตัวเอง ความเสเพลทั้งหมด เลิกเด็ดขาด จากที่เคยทักอาจารย์เหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ก็เปลี่ยนเป็นพนมมือกล่าวคำสวัสดีอาจารย์อย่างนอบน้อม ความเห็นแก่ตัวที่เข้าใจว่า เป็นหลักในการดำรงชีวิต เปลี่ยนเป็นความเอื้อเฟื้อ มีน้ำใจแทน ช่วยงานบ้านซึ่งแต่ก่อนไม่เคยจับเลย ใหม่ๆ ก็ถูกมองว่า เจี๊ยบจะทำไปได้สักแค่ไหน?
แต่ด้วยกำลังใจจากคุณยายคุณแม่และพี่ๆ น้องๆ ในบ้านซึ่งคอยให้กำลังใจเจี๊ยบอยู่ เจี๊ยบก็สามารถทำได้สำเร็จอย่างงดงาม การเรียนที่แต่ก่อนติด ๐ หลายวิชา เดี๋ยวนี้ทำได้เกรด ๒ ขึ้นไป เจี๊ยบอวดว่า “บางวิชาทำได้ถึงเกรด ๔ เพราะหนูสวดมนต์ทำสมาธิทุกวันค่ะ”
ปัจจุบันเจี๊ยบเลิกเป็นเด็กเสเพล และหันมาช่วยงานพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่
|
เดี๋ยวนี้เจี๊ยบคือพี่เจี๊ยบของน้องๆ อาสา ช่วยกิจกรรมบุญภายในวัดโดยเฉพาะใกล้วันบุญใหญ่ เจี๊ยบจะชวนเพื่อนๆ มาช่วยกันเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่เพื่อรองรับสาธุชน ที่เดินทางมาประกอบบุญใหญ่จากทั่วประเทศ
ในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ เจี๊ยบก็ต้องพบกับอานุภาพอย่างไม่มีวันลืม
วันนี้เจี๊ยบและเพื่อนช่วยรับบุญด้านไฟฟ้ากัน โดยแบ่งงานกันเป็นกลุ่มๆ ในกลุ่มของเจี๊ยบมีด้วยกัน ๕ คน สายไฟฟ้าอยู่สูงประมาณ ๗ เมตร ต้องใช้บันไดปีนขึ้นไปต่อขั้ว งานนี้ต้องปีนบันไดไม้ไผ่ขึ้นไปช่วยกันทำข้างบน ๒ คน แล้วเพื่อนๆ ที่เหลืออยู่ด้านล่าง ก็ช่วยกันจับบันไดไม่ให้ล้ม ทำสำเร็จไปแล้วหลายจุด จนกระทั่งย้ายไปทำจุดที่อยู่หน้าสระน้ำ ช่วงนี้ลมค่อนข้างแรง พัดมาเป็นละลอกๆ จนบางครั้งสายไฟสะบัดแรงๆ
เจี๊ยบกับเพื่อนขึ้นบันไดไปอย่างระมัดระวัง โดยเจี๊ยบขึ้นนำไปก่อน เพื่อนไต่ตามหลัง ขณะที่เจี๊ยบกำลังไต่ไปจนเกือบจะถึงยอดเหลืออีกแค่ ๔-๕ ขั้นเท่านั้น เหตุการณ์ที่เหนือวิสัยที่ทุกๆ คนจะควบคุมได้ก็เกิดขึ้น มีกระแสลมพัดมาอย่างแรงปะทะสายไฟทั้งสายแกว่งโยกไปมาเหมือนเปลเด็ก สามคนข้างล่างพยายามออกแรงต้าน พยุงบันไดเอาไว้ ลมพายุพัดแรงขึ้นมาเป็นละลอกๆ แรงขึ้นจนเด็กผู้หญิง ๓ คนหมดแรงต้านบันไดไว้เกือบไม่อยู่ เพื่อนของเจี๊ยบที่ปีนตามขึ้นไปยังปีนขึ้นไปไม่สูงนัก (ประมาณ ๓ เมตร) ตัดสินใจกระโดดกลับลงมา...!
๓ คนที่ช่วยกันจับบันไดอยู่เห็นเพื่อนลอยลงมาด้วยสัญชาตญาณ ทั้ง ๓ ก็ปล่อยบันได กระโดดไปรับร่างเพื่อนเอาไว้ทันที โดยลืมไปว่ายังมีเจี๊ยบติดอยู่บนบันไดอีกคน
ช่วงวินาทีนั้น บันไดค่อยๆ เอนล้มลงเบื้องล่าง รูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ของเจี๊ยบ ไหลลงหลังครูดกับบันไดเป็นลูกระนาด ขั้นบันไดรับแรงกระแทกไม่อยู่หักร่างของเจี๊ยบลอยละลิ่วเคว้งคว้างกลางอากาศ หาที่ยึดเหนี่ยวอะไรไม่ได้เลย เจี๊ยบบอกกับตัวเองได้อย่างเดียวว่า ไม่รอดแน่ ในช่วงนั้นใจก็นึกถึงทุกๆ สิ่งที่ผูกพันอยู่ในใจ “องค์พระ หลวงพ่อ คุณยาย คุณแม่ และเพื่อนๆ กล้าอาสาที่เราร่วมสร้างบุญกันมา ลาก่อนทุกๆ คน” เจี๊ยบนึกได้เท่านี้ แล้วเจี๊ยบก็มีความรู้สึกว่า เหมือนมีใครดันฟูกนิ่มๆ มารองรับร่างของเธอ แล้วเจี๊ยบก็หมดสติหลับไปเลย
บริเวณเสาที่เกิดเหตุ แต่เจี๊ยบรอดมาได้ด้วยอานุภาพแห่งบุญ
|
ณ สถานพยาบาลภายในวัด เพื่อนๆ และพระอาจารย์ต่างเฝ้ารอคอยให้เจี๊ยบตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เจี๊ยบหลับไปนานเป็นชั่วโมง ทำให้ทุกคนใจไม่ดี เพราะเพื่อนๆ ทุกคนเห็นว่าเจี๊ยบร่วงลงมาโดยเอาส่วนศีรษะกระแทกกับพื้นดิน ทุกคนต่างนึกถึงบุญและอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุขอให้ช่วยให้เจี๊ยบตื่นขึ้นมาโดยไว พอเจี๊ยบเริ่มรู้สึกตัว คุณหมอรีบพาไปตรวจเช็คร่างกาย ปรากฏมีรอยช้ำตรงกระดูกสันหลังเพียงเล็กน้อย เจี๊ยบดูสดใสเหมือนเดิม เหมือนกับนอนหลับพึ่งตื่น รู้สึกสบายขึ้น บ่ายวันนั้นจึงนอนพักที่สถานพยาบาลท่ามกลางกำลังใจจากเพื่อนๆ
รุ่งเช้าเจี๊ยบสามารถออกไปร่วมกิจกรรมต้อนรับสาธุชนที่หลั่งไหลกันมาจากทั่วสารทิศด้วยความเบิกบานในบุญได้เป็นอัศจรรย์
เจี๊ยบบอกว่า “หนูเชื่อในอานุภาพขององค์พระมหาสิริราชธาตุของหนูมากว่าท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เพราะหนูทำความดีสวดสรรเสริญท่านทุกเช้า-เย็นเลยค่ะ”
เจี๊ยบบอกว่า “ที่เจี๊ยบมีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตจากเมื่อก่อนเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขยะของสังคม จนขณะนี้เป็นเยาวชนที่ดีของสังคม ของพ่อแม่ แรงบันดาลใจตรงนี้ทำให้เจี๊ยบพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคน ให้มาเดินบนเส้นทางสายนี้ ซึ่งมีแต่ความสุขและความปลอดภัยอย่างแท้จริง” ทุกๆ วันเสาร์เจี๊ยบจึงขออนุญาตคุณแม่พาเพื่อนๆ มาสวดมนต์นั่งสมาธิแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีที่บ้านกัลยาณมิตรของเธอเอง
ผลจากการเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ มาค้นพบเพชรในตัวเองนี้ทำให้เพื่อนก๊วนเดียวกันเปลี่ยนเป็นเทพบุตร ขวัญใจของคุณครูและเพื่อนๆ ในโรงเรียน ทุกคนต่างให้สัญญากันว่า จะพร้อมใจกันขยายความรู้สึกดีที่สุดในชีวิตนี้ไปยังเพื่อนๆ ทุกคน “พวกเราจะเป็นคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนจากวัยรุ่นวัยลอง เป็นวัยรุ่นคุณธรรมค่ะ”