วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ

อานิสงส์แห่งบุญ
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.๙
ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์

อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ
“บุญอันเลิศย่อมเจริญแก่ผู้เลื่อมใสในบุคคลผู้เลิศ
อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ ความสุขและกำลังอันเลิศก็ย่อมเจริญ
ผู้มีปัญญาให้วัตถุอันเลิศ ตั้งมั่นแล้วในธรรมอันเลิศ
เมื่อเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็จะถึงความเป็นเลิศ บันเทิงใจในที่ทุกสถาน
นี้เป็นขุมทรัพย์ที่อำนวยสมบัติทุกอย่างแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย”

(กุมมาสปิณฑชาดก)

อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ

    ความเลื่อมใสศรัทธาที่ตั้งมั่นดีแล้วในบุคคลผู้เลิศเปรียบเสมือนบันไดก้าวแรกและเป็นก้าวสำคัญที่จะนำเราก้าวไปสู่ความเต็มเปี่ยมของชีวิต ขณะยังอยู่ในโลกมนุษย์ก็จะพรั่งพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติหากละโลกไปแล้วก็จะได้สวรรค์สมบัติ เมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยมก็จะได้นิพพานสมบัติ หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกต่อไป

   เมื่อเรามีจิตเลื่อมใสศรัทธาในบุคคลใดแล้ว เราย่อมอยากหาโอกาสแสดงความศรัทธาต่อบุคคลนั้นทั้งทางกาย วาจา และใจ เหมือนที่พวกเรามีความเลื่อมใสในพระบรมศาสดาดังนั้นเราจึงควรหาโอกาสแสดงความเลื่อมใสต่อพระองค์ด้วยการสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นเป็นประจำทุกวัน การพนมมือไหว้หรือก้มลงกราบด้วยความนอบน้อมนั้น ถือเป็นการแสดงออกทางกายกรรม การเปล่งวาจาอันเป็นสิริมงคล สรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณพระสังฆคุณ ถือเป็นวจีกรรม ส่วนทางมโนกรรมคือ การส่งใจไปถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า นึกถึงพุทธคุณอันประเสริฐที่นำความสว่างไสวมาสู่ดวงจิตของมวลมนุษยชาติ ทำให้เราตื่นจากความหลับใหล พ้นจากความมืดคือกิเลส ทำให้ได้พบแสงสว่างแห่งธรรม หรือจะตรึกระลึกตามบทสวดสรรเสริญก็ได้ ให้ในใจมีพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ บุญนี้ก็จะส่งผลให้เราเข้าถึงฐานะอันประเสริฐ เพราะผู้ที่เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศวิบากหรือผลอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลนั้นด้วย

   เราเลื่อมใสในธรรมอันเลิศ ซึ่งเป็นวิราคธรรม เป็นธรรมอันย่ำยีความมัวเมา กำจัดความกระหาย ถอนเสียได้ซึ่งอาลัย เข้าไปตัดวัฏฏะ เป็นที่สิ้นตัณหา เป็นที่คลายกำหนัด และเป็นที่ดับกิเลสอาสวะทุกอย่าง เมื่อเลื่อมใสในธรรมอันเลิศเช่นนี้ ผลอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้เลื่อมใสนั้น

     เราเลื่อมใสในพระสงฆ์สาวก คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ จำพวก บุคคล ๘ ตั้งแต่ผู้ที่เข้าถึงกายธรรมพระโสดาบัน กายธรรมพระสกิทาคามีกายธรรมพระอนาคามี จนถึงกายธรรมพระอรหัตทั้งหยาบและละเอียด ซึ่งเป็นผู้ควรแก่การคำนับ ควรแก่การต้อนรับ เป็นผู้ควรแก่ของทำบุญ ควรแก่การทำอัญชลี เป็นนาบุญอันเลิศของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ความเลื่อมใสในพระสงฆ์นี้ ชื่อว่าเป็นความเลื่อมใสในสิ่งที่เลิศผลอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้เลื่อมใสนั้นเมื่อมีใจเลื่อมใส สักการะเคารพ ทั้งกาย วาจาและใจ พร้อมทั้งบูชาด้วยสิ่งที่เลิศ บุญอันเลิศคือ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ ความสุข และพละกำลัง ย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น ดังเช่นนางมัลลิกาผู้ได้บูชาสิ่งที่เลิศ คือ เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะบูชาพุทธสรีระซึ่งเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตาม แต่ผลบุญนั้นเป็นอจินไตย ส่งผลให้นางได้ทิพยสมบัติมากมายอย่างคาดไม่ถึง


อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ

    ในวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พวกเทวดาและมนุษย์ต่างพากันทำการบูชาพระสรีระของพระพุทธองค์ในสมัยนั้น นางมัลลิกาภรรยาของพันธุลเสนาบดีหลังจากที่สามีและบุตรชายถูกประหารชีวิตเพราะพระเจ้าปเสนทิโกศลเข้าพระทัยผิด นางจึงทูลลากลับมาอยู่ที่บ้านเกิด

 เมื่อเหล่ามัลลกษัตริย์และมหาชนอัญเชิญพระสรีระของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านมาที่หน้าบ้าน นางมีจิตเลื่อมใส ปรารถนาที่จะบูชาพระสรีระของพระพุทธองค์ จึงเอาน้ำหอมล้างเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ของตน ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่สวยงามและมีค่ามาก แล้วใช้ผ้าเนื้อดีขัดให้สะอาด พร้อมทั้งนำดอกไม้ของหอมชนิดต่าง ๆ น้อมเข้าไปบูชาพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า มหาชนเห็นการบูชาอันยิ่งใหญ่ของนางเช่นนั้น ต่างอนุโมทนาสาธุการ แม้เหล่าทวยเทพต่างพากันสรรเสริญในทานอันเลิศของนาง

    พระสรีระของพระองค์ซึ่งมีพระฉวีวรรณดุจทองคำ เมื่อประดับด้วยมหาลดาปสาธน์ที่ทำด้วยรัตนะ ๗ ประการ ก็ยิ่งรุ่งเรืองสว่างไสว นางมัลลิกาเห็นแล้วก็มีจิตเลื่อมใสเพิ่มพูนเป็นทับทวี จึงตั้งความปรารถนาว่า “หากข้าพเจ้ายังท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร ก็ขอให้เครื่องประดับจงบังเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าอย่างง่ายดาย ขอให้เครื่องประดับจงอย่าแยกจากข้าพเจ้า ขอให้สรีระจงเป็นเช่นเดียวกับเครื่องประดับที่สวมใส่อยู่เป็นนิจเถิด”


อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ

    ต่อมา เมื่อนางละโลกนี้ไปแล้ว ก็ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้วยอานุภาพแห่งการบูชาพระพุทธเจ้าในครั้งนั้นทำให้นางมีทิพยสมบัติใหญ่โตมโหฬารเป็นพิเศษ เป็นสมบัติที่ไม่เหมือนใคร วิมานประดับด้วยรัตนะรุ่งเรืองด้วยแก้ว ๗ ประการ มีรัศมีสีทองสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ

    สมัยนั้น พระนารทเถระเหาะขึ้นไปบนเทวโลก เห็นวิมานของเทพธิดาท่านนี้สว่างไสวเรืองรองเป็นพิเศษ จึงถามเทพธิดาว่า “ดูก่อนเทพธิดา ท่านนุ่งห่มผ้าประดับประดาด้วยเครื่องประดับสีทองเหลืองอร่ามงดงามรุ่งเรืองด้วยเส้นใยข่ายทองคำบริสุทธิ์ วิจิตรด้วยรัตนะนานาชนิด แม้ท่านไม่ประดับด้วยเครื่องประดับอันงดงามเหล่านี้ ท่านก็ยังงดงามด้วยรูปสมบัติโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เมื่อสวมเครื่องประดับเหล่านี้ซึ่งล้วนทำด้วยรัตนะทองคำ แก้วไพฑูรย์ จินดามณี ก็ยิ่งทำให้งดงามสว่างไสวเหลือเกิน

   “ดูก่อนเทพธิดาผู้ประดับประดาด้วยเครื่องประดับอันวิจิตร มือ แขน เท้าของท่านพรั่งพร้อมด้วยอาภรณ์ทองคำ ที่คอประดับด้วยพวงมาลัยทอง และศีรษะสวมมาลัยประดับมุกมีข่ายทองคำปกคลุมร่างกายไว้เป็นระเบียบงดงามด้วยสายแก้วสีต่าง ๆ สายแก้วเหล่านั้นแต่ละเส้นล้วนทำด้วยทองคำ แก้วทับทิม แก้วมุกดา แก้วไพฑูรย์ บางสายก็สำเร็จด้วยแก้วสีแดงสว่างสดใส บ้างก็ทำด้วยแก้วใสเหมือนตานกพิราบ เครื่องประดับทุกอย่างที่กายของท่านนี้ ยามต้องลมพัดมีเสียงไพเราะเหมือนเสียงนกยูงทองขับขาน ไพเราะเสนาะโสตยิ่งนัก

    “รถของท่านงดงามวิจิตร มีเพลา ล้อและงอนไถ ประดับด้วยทองคำล้วนแต่สีเหลืองอร่าม เปล่งปลั่งสุกใสงดงามตา หลากไปด้วยแก้วมณีรัตนะนานาชนิด ไม่ว่าท่านจะไปไหนที่นั้นก็สว่างไสวรุ่งโรจน์ตระการตา ดูก่อนเทพธิดา นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร”


อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ

   เทพธิดาตอบว่า “ที่ดิฉันมีเครื่องประดับที่สวยงามอลังการเช่นนี้ ทั้งร่างกายก็ปกคลุมด้วยข่ายทองคำ วิจิตรไปด้วยแก้วมณีและแก้วมุกดาที่เกี่ยวพันกันเป็นลำดับ ส่องแสงสว่างไสวเรืองรอง เพราะมีจิตผ่องใส ได้บูชาพระสรีระของพระบรมศาสดาผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐซึ่งเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว อานิสงส์ใหญ่นี้ส่งผลให้ดิฉันได้มาบังเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ ได้เข้าถึงฐานะอันเลิศเช่นนี้”

    เราจะเห็นว่า การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาเป็นบุญใหญ่ที่จะส่งผลให้เราเข้าถึงฐานะอันเลิศหากมีโอกาสสั่งสมบุญแล้ว ก็ให้ทุ่มเทกันให้เต็มที่ อย่าได้ตระหนี่หวงแหนทรัพย์ ให้คิดว่าเราได้สละสิ่งเล็กน้อยเพื่อจะได้สั่งสมบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาก็เพื่อมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม เราจึงควรสร้างบารมีให้เต็มที่ และมีศรัทธามั่นคง หนักแน่นในอุดมการณ์และมโนปณิธานตลอดไป

    โดยเฉพาะในสภาวการณ์ของโลกที่มีแต่ภยันตรายรอบด้านเช่นนี้ ต้องหมั่นเก็บเกี่ยวบุญทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาก่อนจะหมดชีวิตและท่ามกลางความไม่ปลอดภัยนี้ต้องยึดพระรัตนตรัยไว้เป็นสรณะอันสูงสุด อย่าปล่อยให้โอกาสที่ดีผ่านไป หมั่นเตือนตัวเองทุกวันอย่าประมาท ให้ใจของเราอยู่ในแหล่งแห่งบุญกุศล แหล่งแห่งความบริสุทธิ์ตลอดเวลาด้วยการบูชาพระพุทธเจ้านับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วนผ่านมหาธรรมกายเจดีย์ให้ได้ทุกวันนอบน้อมส่งใจไปถึงพระรัตนตรัยอันประเสริฐเพื่อให้บุญรักษา พระนิพพานคุ้มครอง เมื่อทำได้เช่นนี้ใจของเราย่อมผ่องใส มีที่พึ่ง มีแต่ความปลอดภัยทั้งจากภัยในชาตินี้และภัยในอบายภูมิ และจะทำให้ชีวิตการสร้างบารมีของเรารุ่งโรจน์โชตนาการไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรมกันทุกคน


 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ ๑๖๕ เดือนกรกฏาคม ๒๕๕๙

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล