วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ การเตรียมตัวเมื่อยามเจ็บป่วย เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)



เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันเสาร์์ที่ ๒๐ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗

                ทุกคนมีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ป่วยน้อยบ้าง ปานกลางบ้าง มากบ้าง เร็วบ้าง ช้าบ้าง อย่าไปคิดว่า ทำไมเราป่วยอยู่คนเดียวคนอื่นไม่ป่วย ทำไมเราต้องป่วย อย่าไปคิดอย่างนั้น ให้คิดว่าความเจ็บป่วยเป็นของคู่กายติดตัวเรามาเป็นธรรมดา

                ทีนี้ เมื่อเรารู้ตัวว่าเราป่วย เราก็จะต้อง เตรียมตัวให้ดี ตั้งแต่ความเจ็บไข้ได้ป่วยยังไม่ชัดเจน หรือเล็กๆ น้อยๆ พอที่เราจะขจัดไปได้ก็ตาม เราก็ต้องเตรียมตัวไปเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อเราจะเข้าโรงพยาบาล หรือไปให้หมอตรวจ หรือจำเป็นจะต้องผ่าตัดด้วยแล้ว เราควรจะเตรียม ตัวให้ดีไว้ก่อน


เตรียมตัวสบายๆ ๗ วัน
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด


                ๑. ให้ทาน โดยถวายภัตตาหารพระ ตอนเช้าให้ใส่บาตร หรือไปถวายภัตตาหารพระที่วัดใกล้บ้าน บ้านเราใกล้วัดไหนก็ไปวัดนั้น ถวายภัตตาหารทุกวันอย่าให้ขาดเลย แล้วก็อธิษฐานจิต ทำใจให้เบิกบาน ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ปล่อยสัตว์ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ อาจจะปล่อยปลาบ้าง ปูบ้าง หอยบ้าง หรือปล่อยสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย เป็นต้น ปล่อยได้เราก็ปล่อยกันไป ทำทุกๆ วัน แล้วแต่สะดวก แต่อย่าให้ถึงกับเป็นภาระเครื่องกังวล แต่ควรจะปล่อยทุกๆ วัน แล้วก็ ให้อภัยทาน ไม่โกรธ ไม่ผูกโกรธ ไม่คิดแค้นใคร

                ๒. รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด ไม่ดื่มสุราเมรัย ยาเสพติดสิ่งไม่ดีต่างๆ การรักษาศีลเป็นการลงทุนที่ประหยัดสุดไม่ต้องเสียเงินเลย เราจะสมาทานเองก็ได้ หรือไปกราบขอศีลจากพระที่วัดก็ได้

                ๓. ทำสมาธิ คือ ทำใจให้ใสๆ หยุดนิ่งเฉยๆ ว่างๆ ตรึกระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยในตัว ให้ตัวของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบุญที่เราได้ให้ทาน ได้รักษาศีล ได้เจริญภาวนาระลึกนึกถึงคุณพระรัตนตรัย ให้บุญมาหล่อเลี้ยงกายเลี้ยงใจเรา รวมถึงหล่อเลี้ยงร่างกายเราทั้งอวัยวะน้อยใหญ่ตั้งแต่ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก อาการ ๓๒ ปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ เป็นต้น ทั้งหมดเลย กลั่นให้ใสจนกระทั่งกายใจเราใสเป็นแก้ว ใสเป็นเพชร


ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดี

                สมาชิกในครอบครัว ต้องช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ถ้าพ่อป่วย แม่ก็ต้องช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยชวนลูกทุกๆ คนในบ้าน ให้สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น สบายใจ อย่าให้เป็นเครื่องกังวลแก่คนไข้ที่กำลังจะเข้าโรงพยาบาลภายในไม่กี่วันนี้ ควรพูดปิยวาจาคอยปลอบประโลมใจด้วยเรื่องบุญกุศล เรื่องความดี ค่อยๆ พูดจาดีๆ แนะนำกันไป แต่งเนื้อแต่งตัวให้สะอาดสะอ้าน จัดบ้านช่องให้สะอาด ชวนสมาชิกทุกคนภายในบ้านมาสวดมนต์ ไหว้พระ เจริญภาวนา ช่วยกันอธิษฐานขอพลังบุญบารมีความดีทั้งหมด ไปช่วยผู้ป่วยซึ่งเป็นสมาชิกในบ้าน ขอให้ช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัย สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายจากหนักเป็นเบา เบาก็หาย แล้วก็ยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างบรรยากาศให้สบายๆ อย่าให้เกิดความวิตกกังวล นี่คือการเตรียมเนื้อ เตรียมตัวที่ดี ตอนนี้เราพร้อมแล้วที่จะขึ้นไปนอนบนเตียงคนป่วย


เมื่อต้องนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

                ผู้ป่วยเมื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้ว ก็อย่าไปคิดว่าเราป่วย เราคิดมามากพอแล้ว ให้คิดว่าเรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ให้ปล่อยวางภารกิจการงาน เครื่องกังวลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวหรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ อย่าไปกังวล ให้คิดว่า เราจะได้มีโอกาสพักทำภาวนาบนเตียงคนป่วย ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในตัวของเรา บทสวดมนต์ เราคล่องบทไหนก็สวดไป ถ้าจำไม่ได้ก็ภาวนาสัมมา อะระหัง นึกถึงบุญในตัว พระในตัว ถ้านึกถึงพระในตัวไม่ได้ ก็นึกนอกตัว องค์ไหนก็ได้ที่เรานึกได้ แล้วก็ทำความรู้สึกให้กายใจเราใสเป็นแก้วใสเป็นเพชรจนกระทั่งกายใจเราใสเป็นแก้วใสเป็นเพชร อธิษฐานให้โรคภัยไข้เจ็บละลายหายไป

                ส่วนเรื่องการดูแลรักษาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอ เพราะท่านมีความรู้ความชำนาญ หน้าที่ของเราคือรักษาใจให้ใสๆ นึกถึงบุญที่เราทำผ่านมาในช่วงใกล้ๆ ๗ วันนี้ เราได้ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่ พระภิกษุสงฆ์ผู้ประพฤติธรรมที่วัดใกล้บ้าน หรือวัดไหนที่เรามีกุศลศรัทธาเราก็ไปวัดนั้น นึกถึงศีลที่รักษามาตลอด ๗ วัน ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลย หรือถ้าเป็นชายและเคยบวช เราก็นึกถึงบุญบวช จะบวชพระ บวชเณร เราก็นึกไป เพราะบุญบวชจะคุ้มครองเราไปสู่สุคติโลกสวรรค์ นึกถึงทาน นึกถึงศีล นึกให้อภัย เราไม่มีเวรไม่มีภัยแก่ใคร แล้วเราก็ทำใจให้ใสๆ หมอเขาจะวางยาสลบให้เราหลับลึกๆ ก็ให้หมอเขาทำไป


การเข้าโรงพยาบาลก็ต้องอาศัยแรงอธิษฐานจิต...
ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยบุญ

                การเข้าโรงพยาบาลก็ต้องอาศัยแรงอธิษฐานจิต เราจะเจอหมอดี ที่มีความรู้ ความสามารถดี วินิจฉัยโรคและรักษาได้ถูกต้อง เราต้องอธิษฐานให้ได้ยาดี หมอดี พยาบาลดี ที่มีจิตประกอบไปด้วยเมตตา ไม่ถือสาเราในเวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องอาศัยบุญทั้งนั้น

                ดังนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องสั่งสมบุญช่วงก่อนเข้าโรงพยาบาล ๗ วันนี้ให้ดี ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องเก่าที่เคยมีมาแล้วในอดีต


เรื่องนี้มีมานาน...
คือตำนานที่เล่าขานไม่รู้จบ


                สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปพร้อมกับพระอานนท์ ไปเจอพ่อค้าบรรทุกสินค้ามา ๕๐๐ เล่มเกวียน พ่อค้าหรือนักธุรกิจท่านนี้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธุรกิจการงานมาก ทำมาค้าขายร่ำรวย เขาได้สั่งสมทรัพย์ภายนอกไว้มาก แต่ไม่ได้สั่งสมบุญเลย โดยลืมไปว่า สักวันหนึ่งจะต้องตาย แต่โชคดียังมีบุญเก่าบันดาลให้ได้มาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

                พระพุทธองค์เสด็จมาพร้อมกับพระ-อานนท์ ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นในข่ายพระญาณว่า เขามีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า นักธุรกิจที่อยู่ข้างหน้า พร้อมด้วยเกวียน ๕๐๐ เล่ม ที่บรรทุกสินค้ามา เขาเก่งในเรื่องการทำมาหากิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าอีก ๗ วัน เขาจะตาย พระอานนท์ทูลถามว่า แล้วข้าพระองค์ไปบอกเขาได้ไหม ได้ อานนท์ พระอานนท์ก็อาศัยวิญญาณของกัลยาณมิตรไปบอกเลยว่า นี่ท่านเศรษฐี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นว่าท่านจะมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้อีก ๗ วัน ให้ท่านเตรียมตัวสั่งสมบุญตลอด ๗ วันนี้ ท่านจะได้เอาบุญนี้ติดตัวไปสู่สุคติโลกสวรรค์ เพราะทุกคนไม่ช้าก็ต้องตายทั้งนั้น แล้วก็มีหลักวิชชาว่า ถ้าใจใสก็ไปดี ไปสวรรค์ ถ้าใจหมองก็ไปอบาย เพราะฉะนั้นให้รีบสั่งสมบุญให้ใจใสๆ และใจจะใสได้ก็ต้องมีบุญหล่อเลี้ยง

                โชคดีที่นักธุรกิจท่านนั้นเชื่อ ได้มาสั่งสมบุญ ได้ถวายทานโดยนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยหมู่สงฆ์ ได้รักษาศีลและเจริญภาวนา ตลอดทั้ง ๗ วัน และตลอด ๗ วันนั้นได้ตามระลึกนึกถึงบุญ พอวันที่ ๗ ก็ละโลกไป ในขณะที่ใจใสนึกถึงบุญที่ได้ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยมีพระสัมมา- สัมพุทธเจ้าเป็นประมุข ได้รักษาศีล ๕ ได้เจริญภาวนา ตลอด ๗ วัน ด้วยผลบุญนี้จึงไปสู่สุคติโลกสวรรค์

                เพราะฉะนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ ด้วยการสั่งสมบุญกุศล ทั้งทาน ศีล ภาวนา ถ้าหากว่าเรามีบุญที่เราได้สั่งสมเอาไว้อย่างดีแล้ว บุญนี่แหละจะเป็นหลักประกันของชีวิต ให้เรามีความสุขบันเทิงในโลกทั้งสอง คือทั้งในโลกนี้และในโลกสวรรค์ บุญเท่านั้นจะประกันชีวิตของเราได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่เจ็บไข้ได้ป่วยจะต้องไปเข้าโรงพยาบาลก็ให้เตรียมตัวเตรียมใจให้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้เราไปเตรียมตัวตาย แต่นี่ยกตัวอย่างว่านักธุรกิจท่านนั้นเป็นอย่างนี้ แต่เราก็เตรียมให้มันถูกหลักวิชชา แล้วบุญนี้ก็จะค่อยๆ ไปช่วยต่ออายุขัยเรา เราจะได้หมอดี ที่มีความรู้ความสามารถในการวินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง ได้ยาดี ได้พยาบาลที่จิตประกอบไปด้วยเมตตา เราจะได้หายเร็ว หนักก็เป็นเบา เบาก็หาย แต่ถ้าตายก็ไปดี ไม่มีอะไรเสียเลย เตรียมตัวไว้เถิดประเสริฐนัก

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ ๑๘ ประจำเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล