นิทานอีสป เรื่อง ต้นไม้กับขวาน
ชายคนหนึ่งต้องการจะเข้าไปตัดไม้ในป่าเพื่อนำมาสร้างบ้านหลังใหม่ แต่เขายังไม่อาจทำได้ เพราะขวานที่เขามีอยู่นั้นไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากด้ามขวานหัก
เขาจึงตัดสินใจเดินทางขึ้นไปบนยอดเขา ที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย และมาหยุดที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับพูดขึ้นว่า "ท่านต้นไม้ ข้าขอกิ่งไม้สักกิ่งหนึ่งจากลำต้นของท่านได้ไหม" ต้นไม้ใหญ่จึงหันกลับมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ต้นไม้ต้นหนึ่งจึงพูดขึ้นว่า "เจ้าให้กิ่งไม้เล็กๆ เขาไปเถอะ เขาจะได้ไม่มารบกวนพวกเราอีก"
ต้นไม้ใหญ่เห็นด้วยจึงมอบกิ่งไม้เล็กให้ชายผู้นั้นไป 1 กิ่ง วันต่อมาชายคนนั้นได้นำเอากิ่งไม้ไปทำเป็นด้ามขวาน และเดินทางกลับเข้ามาในป่าใหม่อีกครั้งพร้อมกับโค่นต้นไม้ลงจนเกือบหมดป่า เมื่อต้นไม้ใหญ่เห็นเช่นนั้นจึงพูดขึ้นว่า "ถ้าไม่นึกเลยว่าความเมตตาของเราจะเป็นสิ่งที่นำหายนะมาสู่พวกพ้องของเราเอง!"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ความเมตตาที่ขาดปัญญาอาจนำมาซึ่งผลร้าย
ความเมตตาเป็นสิ่งที่ดี แต่หากปราศจากปัญญาในการพิจารณาผลลัพธ์ของการกระทำ อาจทำให้เกิดโทษทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
หลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้อง
โยนิโสมนสิการ (การพิจารณาอย่างแยบคาย)
การคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนให้ความช่วยเหลือ หรือทำสิ่งใด ควรมองถึงผลลัพธ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ปัญญา (ความรอบรู้)
ความเมตตาควรมีปัญญากำกับ เพื่อให้การกระทำเกิดผลที่ดีโดยไม่ย้อนกลับมาทำร้ายตนเอง
อัปปมาทะ (ความไม่ประมาท)
ความไม่ประมาทเป็นการตระหนักถึงผลกระทบของการกระทำ หากต้นไม้ใหญ่ไม่ประมาทในความเมตตาของตนเอง ผลเสียหายคงไม่เกิด
สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
การมีความเห็นที่ถูกต้องตามหลักเหตุและผลจะช่วยให้การกระทำใดๆ ไม่ส่งผลเสียในอนาคต
ข้อคิดสำคัญ:
เมตตาที่ปราศจากปัญญาอาจนำพาไปสู่ความเดือดร้อนใหญ่หลวง ดังนั้นการช่วยเหลือผู้อื่นควรคำนึงถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโทษต่อตนเองและส่วนรวม