ทำใจของเราให้ผ่องใส ให้เยือกเย็น : การกระทบกระทั่งกัน จะเป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงต่อการศึกษาวิชชา จะเป็นอุปสรรคสำคัญไปตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ จะทำอะไรตามใจตัวเอง อยากจะพูดอย่างนี้อย่างนั้น ชาติที่แล้วเราสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ชาตินี้ทำให้ดีเหมือนชาติที่แล้ว เหมือนกลีบบัวถนอมเกสรบัว ดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้ขุ่นมัว
ทำใจให้เบิกบาน ให้แช่มชื่นอยู่เสมอ ใจต้องเป็นกุศล ใจต้องเบิกบาน ใจต้องสบาย ๆ ใครที่เป็นคนหงุดหงิด ฉุนเฉียว เจ้าอารมณ์ ใจร้อน แง่งอน อะไรต่าง ๆ นะจ๊ะ ทิ้ง ๆ ไปเถอะ อย่าไปอนุรักษ์มันไว้ ทิ้งไปให้หมดเลย แล้วทำใจของเราให้ผ่องใส ให้เยือกเย็น
มองเพื่อนมนุษย์ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมเกิดแก่เจ็บตาย มีความเสมอเหมือนกันหมดทุกคน เราต้องมีความปรารถนาดีกับเพื่อนเราทุกคนที่อยู่ใกล้ แล้วสิ่งที่เราได้รับคือ ใจเราสบาย ใจเราจะไม่หงุดหงิดง่าย ไม่ฉุนเฉียวง่าย ไม่เจ้าอารมณ์ง่าย ใจมันจะสบาย จะนั่งนอนยืนเดิน มีความรู้สึกเหมือนมีมิตรสหายอยู่รอบตัวเรา
ทำบ่อย ๆ แล้วจะเกิดขึ้นเอง ความสบายจะมีผลอย่างนี้ เวลาเราตรึกที่ศูนย์กลางกายจะง่าย เพราะใจมันสบายเสียแล้ว เนื่องจากเราไม่ติดเรื่องกระจุ๊กกระจิ๊ก เรื่องปลีกย่อย เราจะไปติดเรื่องหลักใหญ่ หลักใหญ่คือ เราจะทำพระธรรมกายให้เกิดขึ้น หลักย่อย ๆ ที่จะทำให้ใจเราขุ่นมัวมันหมดไป
คุณครูไม่ใหญ่