เรื่องของแม่ชีจันทร์ อาตมาเคยได้ยินก่อนหน้านี้ ในโรงงาน แม่ชีปุกพาแม่ชีจันทร์ไปพบหลวงพ่อ แม่จะพาเจ้าไปพบพ่อใหญ่ ให้พ่อใหญ่ต่อวิชชาให้ หลวงพ่อท่านรับแขกเสร็จ ท่านก็บอกว่าให้มานั่งปฏิบัติกับหลวงพ่อสัก 3 วัน เดี๋ยวจะมีวิชชา สายธาตุสายธรรมสายสมบัติในนิพพานจะเพิ่มพูนให้ลูก ต่อไปลูกจะต้องดัง ทำงานอันยิ่งใหญ่ไพศาลแทนหลวงพ่อ หลังจากนั้น ก็มาได้ยินครั้งสุดท้าย วันที่ท่านจะมรณภาพ ท่านเรียกมาสั่งมอบมรดกธรรมให้ผู้ที่จะสืบทอดวิชชาของท่านต่อไป
หลังจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ มรณภาพ อาตมาก็กลับมาอยู่ที่สุพรรณบุรี มาพัฒนาวัดท่าช้าง หลวงพ่อได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอวัดท่าช้าง วัดใหญ่โต ต่อมาโยมนิมนต์ให้มาอยู่ที่วัดบ้านเกิด วัดหัวเขา เพราะหลวงตาทุ้ย ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสอาพาธ ใกล้มรณะ เขาก็ไปรับมา พอมา หลวงพ่อก็ขยายที่เพิ่มอีก 23 ไร่ 6 งาน เพราะเวลางานตักบาตรเทโวฯ คนมันแน่น ที่ไม่พอในการจัดงาน จึงซื้อที่เพิ่ม แต่หลวงพ่อก็ยังปฏิบัติวิชชาอยู่ ทำวิชชาธรรมกาย ตามแบบหลวงพ่อสด โดยเฉพาะวันพระ และวันอาทิตย์ หลวงพ่อจะมีเปิดสอนสมาธิ เวลาบ่าย 3 โมงถึงบ่าย 4 โมง ทำสมาธิต่อเนื่องมาไม่เคยขาด
เมล็ดกล้าที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้เพาะขึ้นมา บัดนี้ เมล็ดกล้านี้ได้เจริญงอกงาม แผ่ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนา ให้เป็นที่พึ่งแก่สาธุชนทั่วไป หลวงพ่อสุบิน วัดหัวเขา แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด แต่ในใจพระเถระท่านนี้ ยังคงตระหนัก รักเคารพศรัทธา ในครูบาอาจารย์ อย่างมิแปรเปลี่ยน จนท่านได้รับแต่งตั้ง จากประเทศศรีลังกา เป็นพระราชาคณะตำแหน่ง ที่พระพุทธสาสนโสภณ ปัจจุบันท่านได้ละสังขารไปแล้ว เหลือไว้แต่คุณธรรมความดี ที่ท่านได้สร้างไว้ ในพระพุทธศาสนา และวิชชาธรรมกาย
(เรื่องเล่าโดย พระพุทธสาสนโสภณ(หลวงพ่อสุบิน) วัดหัวเขา บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม 2)