แนวทางการสอนของพระพุทธเจ้า

วันที่ 21 มค. พ.ศ.2559

 

แนวทางการสอนของพระพุทธเจ้า

 

แนวทางการสอนของพระพุทธเจ้า

         มีบางคนเข้าใจผิดว่า  การสอนว่า “ทำดี  ตายแล้วไปสวรรค์  ทำบาป ตายแล้วตกนรก ”  เป็นการสอนที่ผิด  เอาสวรรค์มาล่อ  เอานรกมาขู่แต่ในความเป็นจริงแล้ว  แนวการสอนที่พระพุทธเจ้าทรงใช้มากที่สุด  คือ  

อนุปุพพิกถา  
การสอนไปตามขั้นตอนเพื่อปรับจิตผู้ฟัง ให้ละเอียดผ่องใสขึ้นตามลำดับ  ดังนี้

1. ทานกถา__ สอนเรื่องการให้ทาน
2. ศีลกถา__ สอนเรื่องการรักษาศีล
3. สัคคกถา__ พรรณนาเรื่องสวรรค์ 
          ความงดงามน่ารื่นรมย์ยินดีของทิพยสมบัติเพื่อให้เห็นอานิสงส์ของการให้ทาน  และรักษาศีล  ว่าจะทำให้ได้ไปเกิดบนสวรรค์

4. กามาทีนพ__ สอนเรื่องโทษของกาม
5. เนกขัมมานิสงส์__ สอนเรื่องอานิสงส์ ของการออกบวช

เมื่อใจของผู้ฟังยกสูงขึ้นละเอียดดีแล้ว จึงสอนต่อด้วยอริยสัจ 4

        เรื่องราวเกี่ยวกับสวรรค์มีกล่าวไว้มากมายในพระไตรปิฎก  ที่รวมไว้เฉพาะเป็นเล่มเลยก็มี เรียกว่า วิมานวัตถุ  เรื่องของวิมาน  และเรื่องของนรกก็มีกล่าวไว้มากมาย  เรื่องเปรต ก็กล่าวไว้เป็นคัมภีร์เฉพาะ  เรียกว่า เปตวัตถุ

ตัวอย่างในครั้งพุทธกาล: ลาชเทพธิดา

         มีหญิงชาวนาคนหนึ่ง  ได้ทำข้าวตอกใส่ไว้ในขันแล้วมีโอกาสได้ใส่บาตร  ถวายพระมหากัสสปะ  ซึ่งเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ  ระหว่างเดินกลับบ้าน  วิบากกรรมตามมาทัน  ถูกงูกัดตาย ผลบุญทำให้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  มีวิมานทองโตใหญ่มาก  ที่ประตูวิมานประดับเรียงรายด้วยขันทองคำ  มีข้าวตอกทองคำห้อยระย้าอยู่อย่างงดงาม จะเห็นว่าทำบุญอย่างไรก็ได้อย่างนั้น  ทำบุญด้วยข้าวตอก  ก็ได้วิมานประดับด้วยข้าวตอกทองคำ  ใช้ขันเป็นภาชนะ  ก็มีขันทองคำประดับเรียงราย มีเรื่องราวทำนองนี้อยู่มากมายในพระไตรปิฎกและอรรถกถา

           พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมถึงความจริงของโลกและชีวิต  กฎแห่งกรรม  บุญบาป  นรก  สวรรค์  แล้วทรงนำมาสอนเรา  บรรพบุรุษไทยแต่โบราณก็ได้ปลูกฝังศีลธรรมในหมู่ประชาชนให้รักบุญกลัวบาปตามแนวทางของพระพุทธเจ้านี้เอง

           อาทิ   ไตรภูมิพระร่วง   พระราชนิพนธ์ของพญาลิไท  กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยซึ่งพรรณนาถึง นรก  สวรรค์ ภพภูมิต่างๆ  ก็เป็นหนังสือที่เผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง  ช่วยปลูกฝังศีลธรรมแก่ชาวไทยมายาวนาน  ทำให้สังคมไทยสงบร่มเย็น อยู่เย็นเป็นสุข จนได้ชื่อว่า “สยามเมืองยิ้ม”

             คนปัจจุบันใจหยาบ บ้างก็ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม  จนพาลจะปฏิเสธการสอนเรื่องนรก  สวรรค์  ซึ่งเป็นแนวการสอนของพระพุทธเจ้า  ทำให้สังคมวุ่นวาย  คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น

         “ยิ้มสยาม  แทบจะกลายเป็นยิ้มสยอง”  ไปแล้ว  น่าเสียดายที่สมญานาม “ ยิ้มสยาม ”
ของไทยค่อยๆหายสูญไป ศิลปกรรมตามโบสถ์  วิหารต่างๆก็มีภาพเขียนของสวรรค์ เทวดา  นางฟ้ามากมาย  บ้างก็ทำเป็นรูปปั้น หรืองานแกะสลักไม้  ปูน  แม้กระทั่งงานประติมากรรมโลหะ

            ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น เราก็ควรจะได้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการเผยแผ่ธรรมะ  เช่น  ทำภาพของนรก สวรรค์ ทิพยสมบัติ ทั้งหลายออกเผยแผ่ตามสื่อต่างๆ  เป็นภาพนิ่ง หรือถ้าทำเป็นแอนิเมชั่นได้ยิ่งดี  เพื่อปลุกกระแสศีลธรรม  ความรักบุญ  กลัวบาป  ให้กลับมาสู่สังคมไทย เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมืองเรา

         การสื่อสารในปัจจุบันเป็นไปอย่างรวดเร็ว  หากมีพระภิกษุนำเรื่องนรก  สวรรค์มาสอนแล้วมีคนพาลติเตียนต่อต้านพระ หาว่าเอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ หากเราไม่รู้ไปตามแห่ผสมโรงวิจารณ์พระด้วย 

          กดไลท์  กดแชร์ข้อความที่เป็นวจีทุจริตในสังคมออนไลน์__เราก็จะพลอยบาปไปด้วย   แชร์ไปถึงคน 100 คน ก็บาป 100 เท่า น่ากลัวจริงๆ อย่าไปทำ  ตรงกันข้าม ถ้าแชร์ข้อความธรรมะ  ยิ่งไปถึงคนกว้างเท่าใด  เราก็ได้บุญมากไปตามส่วน

               ดังนั้นเรามาช่วยกันเผยแพร่ภาพและข้อความธรรมะให้มากๆกันเถิด ให้คนรักบุญกลัวบาป สังคมจะได้สงบร่มเย็น

 

 

 

Cr.Fb พุทธสามัคคี

พระพุทธศาสนา

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.011516050497691 Mins