ภาษิตหมวดสัจจบารมีที่มีมาในชาดก

วันที่ 25 มค. พ.ศ.2559

ภาษิตหมวดสัจจบารมีที่มีมาในชาดก

              สัจจบารมีเป็นนิสัยที่ทำได้ยาก เป็นนิสัยแห่งยอดคน คนบางคนมีความเพียรเก่งกล้า อดทนอุปสรรคนานา แต่ต่อมาเกิดเปลี่ยนความคิด ล้มเลิกความตั้งใจลงอย่างน่าเสียดาย ผู้มีสัจจะเมื่อทำอันใดจะทำจริงไม่ทิ้งความตั้งใจลงอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม เมื่อไม่เป็นดังหวังก็ไม่ทิ้งความตั้งใจจนกว่าจะถึงจุดหมาย ผู้ถือคำสัตย์ย่อมมีฤทธิ์ เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อคิดหรือตั้งใจทำการอันใด เพียงแค่เอ่ยวาจา ผู้คนก็น้อมรับฟังอย่างยินดีและเชื่อถือมั่นคง คนมีสัจจะต้องเป็นคนแท้ มีดีอยู่ในแก่น ไม่เนรคุณ และรับผิดชอบหน้าที่การงานทุกด้าน

 

ภาษิตในชาดก
        ความเกษมจากโยคะย่อมเจริญเพราะคบหามิตรคนใด ผู้ฉลาดพึงทำกิจทุกอย่างของกัลยาณมิตรนั้นให้เหมือนของตน
       ผู้ใดไม่มีความอาย ทำลายเมตตา พูดแต่ว่าเราเป็นเพื่อนท่านๆ แต่มิได้เอื้อเฟื้อช่วยทำการงาน บัณฑิตรู้จักผู้นั้นดีว่ามิใช่มิตรสหาย เพราะว่าบุคคลทำอย่างไรก็ควรกล่าวอย่างนั้น ไม่ทำอย่างไรก็ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ผู้ใดมุ่งความแตกร้าวคอยแต่จับผิด ผู้นั้นไม่ชื่อว่าเป็นเพื่อนส่วนเพื่อนที่ผู้อื่นยุยงให้แตกกันไม่ได้ ไม่มีความรังเกียจในเพื่อน นอนอยู่อย่างปลอดภัยเหมือนบุตรนอนแอบอกมารดาผู้นั้นนับว่าเป็นมิตรแท้

        น่าติเตียนคนไม่รู้คุณที่เขาทำ คนที่ไม่ทำคุณแก่ใครและไม่ตอบแทนคุณที่เขาทำ ไร้กตัญูการคบผู้นั้นไร้ประโยชน์ บุคคลทำอุปการะแก่ผู้ใดแล้วไม่ได้ความเป็นมิตรบัณฑิตไม่ต้องริษยาไม่ต้องด่าว่าค่อยๆ หลีกห่างจากผู้นั้นไปเสียถ้าไม่ประสบคนดีกว่าหรือเป็นเช่นกับตน ควรเที่ยวไปผู้เดียวให้มั่นไว้ เพราะความเป็นสหายในคนพาลย่อมไม่มี

         ผู้ใดคุ้นเคยกะเจ้าแล้วอดทนความคุ้นเคยของเจ้าได้ ผู้ใดเชื่อถือคำพูดเจ้า ยกโทษให้เจ้าได้เจ้าไปจากที่นี้แล้วคบหาผู้นั้นเถิด ผู้ใดไม่มีกรรมชั่วด้วยกาย วาจา ใจ เจ้าไปจากที่นี้จงคบหาผู้นั้นทำตนให้เหมือนบุตรของผู้นั้นเถิด คนที่มีจิตเหมือนน้ำย้อมขมิ้น กลับกลอก รักง่ายหน่ายเร็ว เจ้าอย่าไปคบคนเช่นนั้น แม้พื้นชมพูทวีปทั้งสิ้นจะไม่มีมนุษย์อื่นเหลืออยู่ก็ตาม จงหลีกคนนั้นให้ห่างไกลเหมือนอยู่ห่างอสรพิษดุร้าย หรือเหมือนหลีกทางที่เปื้อนอุจจาระความพินาศมีแก่ผู้คบคนพาลการอยู่ร่วมคนพาลเป็นทุกข์ทุกเมื่อ ดุจอยู่ร่วมกับศัตรู

        บัณฑิตมีความโกรธเป็นเจ้าเรือนไม่ดี พึงอ่อนน้อมต่อผู้อ่อนน้อม พึงคบผู้ที่เขาพอใจจะคบด้วยและทำกิจแก่ผู้ช่วยทำกิจ ไม่ควรทำความเจริญแก่ผู้หวังความเสื่อมให้ตน ไม่ควรคบผู้ที่ไม่พอใจจะคบหาด้วย ไม่พึงสิเน่หาในผู้เลิกลา ไม่พึงสมาคมกับผู้มีจิตคิดออกห่าง นกรู้ว่าต้นไม้ผลหมดแล้วย่อมบินสู่ต้นอื่น คนก็รู้ว่าเขาหมดอาลัยแล้วควรเลือกหาคนอื่นที่เขาสมัครรักใคร่ เพราะโลกกว้างใหญ่พอเสียงของสุนัขจิ้งจอกทั้งหลายก็ดี ของนกทั้งหลายก็ดี ยังรู้ได้ง่าย แต่เสียงของมนุษย์รู้ได้ยากกว่านั้น อนึ่ง ผู้ใดเมื่อก่อนเป็นผู้ใจดี คนทั้งหลายนับถือว่าเป็นญาติมิตรสหาย ภายหลังผู้นั้นกลับกลายเป็นศัตรูไปได้ ใจของมนุษย์รู้ได้ยากอย่างนี้ หากว่าใจจดจ่ออยู่ในบุคคลใด แม้บุคคลนั้นอยู่ไกลก็เหมือนอยู่ใกล้ ทว่าใจเหินห่างจากบุคคลใด แม้บุคคลนั้นจะอยู่ใกล้ก็เหมือนอยู่ไกล ถ้าจิตเลื่อมใสรักใคร่กันถึงจะอยู่กันคนละฝังสมุทรก็เหมือนอยู่ใกล้ชิดกัน ถ้ามีจิตคิดประทุษร้ายกันถึงแม้จะอยู่ใกล้ชิดติดกันก็เหมือนอยู่กันคนละฝังสมุทร การอยู่ร่วมกันนานเกินควร คนรักย่อมกลายเป็นคนไม่รักกันก็ได้ ข้าพระองค์ขอทูลลาพระองค์ไป ก่อนที่ข้าพระองค์จะกลายเป็นผู้ไม่เป็นที่รักของพระองค์


         เธอให้ฉันเอิบอิ่มด้วยคำพูด แต่หาให้อิ่มด้วยสิ่งที่ควรทำไม่ เหมือนดอกหงอนไก่มีสีสวยแต่ไร้กลิ่น ผู้ใดไม่ให้ปัน ไม่เสียสละโภคะ เอาแต่พูดคำอ่อนหวานที่ไร้ผลความสัมพันธ์กับมิตรนั้นจะจืดจางเพราะว่าคนควรพูดแต่สิ่งที่จะต้องทำ ไม่ควรพูดถึงสิ่งที่ไม่ต้องทำ บัณฑิตทั้งหลายรู้จักคนไม่ทำดีแต่พูดว่ามิใช่มิตร

             ผู้คบคนเช่นใด เขาย่อมตกอยู่ใต้อำนาจของบุคคลนั้นนั่นแหละ บุคคลคบคนเช่นไรย่อมเป็นเช่นคนนั้น อาจารย์คบอันเตวาสิกย่อมทำอันเตวาสิกที่ยังไม่แปดเปื้อนให้แปดเปื้อนได้เหมือนลูกศรเปื้อนยาพิษทำแล่งลูกศรให้เปื้อนด้วย ฉะนั้น นักปราชญ์ไม่พึงมีเพื่อนลามกเพราะจะแปดเปื้อนบาป นรชนใดห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา ใบหญ้าคานั้นก็มีกลิ่นเน่าฟุ้งไป ฉันใด การเข้าไปคบหาคนพาลก็เช่นนั้น นรชนใดห่อกฤษณาด้วยใบไม้ ใบไม้นั้นหอมฟุ้ง การคบหานักปราชญ์ย่อมเป็นเช่นกันบัณฑิตรู้ ความเปลี่ยนแปลงของตนดั่งการห่อใบไม้แล้วไม่ควรเข้าไปคบหาพวกอสัตบุรุษ ควรคบหาแต่เหล่าสัตบุรุษ ด้วยว่าอสัตบุรุษฉุดไปนรกสัตบุรุษพาให้ถึงสุคติ

 

             คนสูงส่งแต่คบคนต่ำทรามจะเป็นคนเลวกว่าคนนั้นทีเดียว ผู้คบหาคนเลวทรามเป็นปกติจะเสื่อมเสีย แต่ผู้คบหาคนเสมอกันเป็นปกติจะไม่เสื่อมเสียในกาลไหนๆส่วนผู้คบหาคนที่ประเสริฐสุดจะเข้าถึงเขาโดยเร็ว เพราะฉะนั้นควรคบแต่คนที่สูงกว่าตนผู้เป็นเพื่อนร่วมสุขทุกข์จนตลอดชีวิต เป็นสัตบุรุษ ย่อมละทิ้งเพื่อนผู้สิ้นทรัพย์หรือยังไม่สิ้นทรัพย์ไม่ได้เลย

           บุคคลอย่าคุ้นเคยในคนทำบาป คนพูดเหลาะแหละคิดแต่ประโยชน์ตน แสร้งทำสงบเสงี่ยมแต่ภายนอก ทำทีเหมือนกล้ำกลืนมิตรด้วยวาจา แต่มิได้ช่วยเหลือการงานเลย ไม่ควรคุ้นเคยในคนเช่นนั้นคนที่แบมือเปล่า เอาแต่กล่าววาจา จัดเป็นมนุษย์กระพี้ ไม่กตัญญู เป็นคนไม่แน่นอน กำจัดผู้คนไม่เลือกหน้า เป็นเหมือนดาบที่เขาลับแล้วปกปิดไว้ ไม่ควรนั่งใกล้คนเช่นนั้นเลยคนบางพวกคอยเพ่งโทษเข้าหาคนอื่นด้วยอุบายต่างๆ พูดจาคมคายซึ่งไม่ตรงกับน้ำใจ เป็นคนเทียมมิตร บัณฑิตไม่ควรคุ้นเคยเลย คนคิดชั่วมองเห็นอามิสที่ใดก็คิดประทุษร้ายได้ แล้วก็ละสหายนั้นไป หลอกลวงปกปิดการงาน เป็นเช่นกับอสรพิษที่ปกปิดรู บัณฑิตไม่ควรคบคนที่มีคำอ่อนหวานว่าจะทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ให้แต่แล้วก็ไม่ทำ การทำความคุ้นเคยในผู้นั้นเป็นไปเพื่อฉิบหายใหญ่หลวง ผู้มีจิตกลับกลอกคำพูดไม่แน่นอน พูดกลมกล่อม แต่จิตกระด้างหยาบคายเพ่งโทษ ไม่ควรคบ

 

             บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่ควรหักรานกิ่งของไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นผู้ชั่วช้า ผู้ขจัดความสงสัยได้ชื่อว่าเป็นเกาะ เป็นที่พึ่งพาของบุรุษนั้น คนมีปัญญาไม่พึงละมิตรภาพกับอาจารย์เช่นนั้น คนยังมีหวังอยู่ตราบใด ตราบนั้นยังคบหากันอยู่ เมื่อเขาเสื่อมจากประโยชน์ คนโง่จะทอดทิ้งเขา ผู้ที่ผู้อื่นทำความดีให้ก่อน เมื่อสำเร็จประโยชน์ที่ต้องการแล้วกลับไม่รู้คุณ ประโยชน์ของผู้นั้นจะเสื่อมสลายไปส่วนบุคคลที่ผู้อื่นทำดีให้จนสำเร็จประโยชน์ที่ต้องการแล้ว ก็ยังรู้คุณประโยชน์ที่เขาปรารถนาจะเพิ่มพูนขึ้น

         ผู้ใดยกย่องและคบหาอสัตบุรุษ อสัตบุรุษย่อมทำผู้นั้นแหละให้เป็นเหยื่อ เหมือนเสือโคร่งคืนชีพจับมาณพผู้ร่ายมนตร์ปลุกตนขึ้นมากินเสีย ฉะนั้นไม่ควรสนิทสนมเป็นมิตรกับคนชั่ว คนมักโกรธที่น่าชัง ผู้เป็นอริยะรู้ประโยชน์จะไม่สนิทสนมกับอนารยชนคนชั่ว เพราะแม้อยู่ร่วมกันเป็นเวลานานก็ยังทำชั่วอยู่ คนทุศีลไม่มียางอายแม้อยู่ร่วมกันนานก็มิได้คำนึงถึงการอยู่ร่วมกันนั้น ย่อมทำแต่กรรมลามกเท่านั้นเอง บุคคลรู้ว่าผู้นี้
เป็นเช่นเดียวกับเราด้วยศีล ด้วยปัญญา ด้วยสุตะพึงทำไมตรีกับบุคคลนั้น เพราะการสมาคมกับสัตบุรุษนำมาซึ่งความสุขแท้
บัณฑิตทั้งหลายไม่ทำการพบปะกันสนิทสนมกัน หรือคุณที่ทำไว้ในกาลก่อนให้เสื่อมสูญไป
ส่วนคนพาลทั้งหลายทำการพบปะกันสนิทสนมกัน หรือคุณที่เขาทำไว้ในกาลก่อนให้เสื่อมสูญไปคุณที่ทำไว้ในคนพาลถึงจะมากก็เสื่อมไปหมด เพราะคนพาลเป็นคนอกตัญูส่วนคุณที่ทำไว้ในนักปราชญ์ทั้งหลายถึงจะน้อยก็ไม่เสื่อมหายไป เพราะนักปราชญ์มีความกตัญูดี

 

              ผู้มิใช่มิตร เมื่อเห็นเพื่อนแล้วไม่ยิ้มแย้ม ไม่ร่าเริงต้อนรับเพื่อน ไม่แลดูเพื่อน กล่าวคำย้อนเพื่อน บุคคลมิใช่มิตรจะคบหาศัตรูของเพื่อน ไม่คบหามิตรของเพื่อน ห้ามผู้ที่กล่าวสรรเสริญเพื่อนสรรเสริญผู้ที่ด่าเพื่อน บุคคลผู้มิใช่มิตร ไม่บอกความลับแก่เพื่อน ไม่ช่วยปกปิดความลับของเพื่อน ไม่สรรเสริญการงานของเพื่อน และไม่สรรเสริญปัญญาของเพื่อน ผู้มิใช่มิตรจะยินดีในความฉิบหายของเพื่อน ได้อาหารที่ดีมีรสอร่อยมาแล้วก็มินึกถึงเพื่อน ไม่ยินดีอนุเคราะห์เพื่อนว่าทำอย่างไรถึงเพื่อนของเราจะได้ลาภอย่างนี้บ้างส่วนผู้เป็นมิตรนั้นย่อมระลึกถึงเพื่อนผู้อยู่ห่างไกล ยินดีต้อนรับเพื่อนผู้มาหา รักใคร่จริง ทักทายปราศรัยด้วยวาจาไพเราะ คบหามิตรของเพื่อน ไม่คบหาผู้ที่มิใช่มิตรของเพื่อน ห้ามปรามผู้ที่ด่าติเตียนเพื่อนสรรเสริญผู้ที่พรรณนาคุณความดีของเพื่อน ผู้เป็นมิตรย่อมบอกความลับ แก่เพื่อนได้ ปกปิดความลับของเพื่อนสรรเสริญการงานของเพื่อน และสรรเสริญปัญญาของเพื่อน ผู้เป็นมิตรยินดีในความเจริญของเพื่อน ไม่ยินดีความเสื่อมของเพื่อน หากได้อาหารอร่อยย่อมระลึกถึงเพื่อน ยินดีอนุเคราะห์เพื่อนคิดว่าทำอย่างไรเพื่อนของเราจะได้ลาภอย่างนี้
บ้าง

 

              ภัยตามถึงบุคคลผู้ไร้ปัญญา พูดพล่อยๆ ไม่ปิดบังความรู้ ขาดความระมัดระวัง ไม่พินิจมิตรเทียม ผู้ใดเป็นมิตรเพียงแค่คอยคล้อยตาม มิใช่เป็นมิตรด้วยใจ ผู้นั้นไม่ควรบอกเนื้อความอันเร้นลับมิตรแท้แต่เป็นคนโง่หรือมิตรมีปัญญาแต่ประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่ควรจะให้รู้ความลับเหมือนกัน นรชนใดสำคัญว่าผู้นี้มีใจดี แล้วบอกความลับกับคนทราม นรชนนั้นเป็นคนโง่เขลาทรุดโทรมลงโดยไม่ต้องสงสัย เพราะฉันทาคติ โทสาคติ หรือภยาคตินั้นเอง ผู้ใดปากบอนนับเข้าในพวกอสัตบุรุษ ชอบกล่าวถ้อยคำในที่ประชุมชน ได้ยินความลับของคนอื่นแล้ว แพร่งพรายในท่ามกลางประชุมชนว่าสิ่งโน้นคนโน้นทำ คำนี้คนโน้นพูด นักปราชญ์เรียกคนเช่นนั้นว่ามีปากชั่ว มีปากเหม็นคล้ายอสรพิษควรระมัดระวังคนเช่นนั้นแต่ไกลๆ เมื่อบุคคลกลัวความลับจะแตกก็ไม่ควรแพร่งพรายความลับที่สำคัญแม้แก่มารดา บิดา พี่สาว น้องสาว พี่ชาย น้องชาย หรือแก่สหาย แก่ญาติฝ่ายเดียวกับตน ถ้าภรรยาสาวพูดไพเราะถึงพร้อมด้วยบุตรธิดาห้อมล้อมด้วยหมู่ญาติ จะพึงกล่าวอ้อนวอนสามีให้บอกความลับ เมื่อกลัวความลับจะแตกก็ไม่ควรแพร่งพราย ความลับสำคัญแม้แก่ภรรยานั้นเช่นกัน บุคคลไม่ควรเปิดเผยความลับเลย ควรรักษาความลับนั้นไว้ให้เหมือนรักษาขุมทรัพย์ คนฉลาดไม่ควรขยายความลับแก่สตรี ศัตรู และผู้มุ่งอามิสหรือแก่คนผู้หมายล้วงดวงใจคนมีประมาณเท่าใดที่รู้ความลับที่ปรึกษากัน คนมีประมาณเท่านั้นย่อมขู่ให้บุรุษนั้นหวาดกลัวได้เหตุนั้นจึงไม่ควรขยายความลับ ให้ความลับของตนจางหายไปภายในใจของตนผู้เดียว ไม่ต้องบอกแก่คนอื่นคนจำพวกใดมีความคิดลี้ลับ ไม่พูดแพร่งพราย มั่นคงในประโยชน์ตน ย่อมเว้นไกลจากอมิตรทั้งหลายดุจคนผู้รักชีวิตเว้นไกลจากหมู่อสรพิษ ฉะนั้น บุคคลพึงรังเกียจในศัตรูทีเดียว แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้วางใจภัยอาจเกิดขึ้นจากที่ที่ไม่มีภัยได้ มิตรย่อมตัดโค่นรากได้โดยแท้ อย่าพึงวางใจในบุคคลที่ทำ การทะเลาะกันมาแล้ว ผู้ใดดำรงอยู่ด้วยการเตรียมพร้อมอยู่เป็นนิตย์ ผู้นั้นย่อมไม่ยินดีกับศัตรูของตนเลย บุคคลควรทำตนให้เป็นที่ไว้วางใจของคนอื่น แต่ไม่ควรจะวางใจคนอื่นจนเกินไป

 

                บุคคลไม่ควรประทุษร้ายต่อมิตร เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทรามที่สุด จะหาคนอื่น
ที่เลวกว่าเป็นไม่มี
ถ้อยวาจาใด ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายได้ ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์มากก็ตาม บัณฑิตก็
ไม่ควรกล่าวถ้อยวาจานั้น
เขาเคยทำความดี ทำประโยชน์ให้มาก่อน แต่ไม่รู้สึกสำนึกในบุญคุณของเขา ภายหลังเมื่อตนเกิดเรื่องจำเป็นขึ้นมา ก็จะหาคนช่วยเหลือมิได้

           เพราะไม่ปรนนิบัติดูแลมารดาบิดา แม้ทรัพย์สินที่หวงแหนย่อมเสื่อมสลายไป ตัวเองก็ประสบความยากลำบาก พ่อแม่อนุเคราะห์เลี้ยงดูลูก ท่านกล่าวว่าเป็นพระพรหม เป็นอาจารย์คนแรกเป็นพระอรหันต์ของลูกๆ ฉะนั้นผู้เป็นบัณฑิตพึงนอบน้อมสักการะมารดาบิดา ด้วยการให้ข้าว น้ำ เสื้อผ้าที่หลับนอน ขัดสีตัว อาบน้ำ และล้างเท้าให้ท่าน

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0012503306070964 Mins