สุขง่าย ๆ ด้วยสัมมาทิฏฐิ ตอนที่1
ความสุขในชีวิตที่หาได้ง่าย ๆ อย่างหนึ่งคือ ศึกษาธรรมะและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ อย่างเช่นท่านเคยตรัสถึงสมบัติแห่งการงานทางใจ 3 อย่าง ใครปฏิบัติได้จะมีความสุขจริงแท้แน่นอน (สมบัติแห่งการงานทางใจ3อย่าง ประกอบด้วย1. ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น 2. ไม่มีจิตคิดปองร้ายต่อคนอื่น 3. มีความเห็นชอบ )
สองข้อแรก เข้าใจได้ง่ายๆ หากอยากมีสุขเดี๋ยวนี้ อย่าไปโลภอยากได้ของใคร และอย่ามีใจปองร้าย ต่อผู้อื่น หากอยากเห็นตัวอย่างชัด ๆ ดูได้จากข่าวสารบ้านเมือง ใครที่แสดงเจตนาให้เห็นได้ว่า อยากได้ของคนอื่น ทั้งตำแหน่ง ชื่อเสียง ความเป็นที่รัก บริวาร เงินทอง อยากได้ไปหมด หรือคอยออกมากล่าวร้าย โจมตี ผู้อื่น สังเกตหน้าตาเขาเหล่านั้นให้ดี ไม่ใช่หน้าตาที่มีความสุขเลย ยิ้มยาก แม้บางครั้งจะมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาไม่ยิ้ม
ที่จะขอลงรายละเอียดคือ ข้อสุดท้าย มีความเห็นชอบ ก็คือ มีสัมมาทิฏฐิ 10 ประการ นั่นเอง คือ มีปัญญาเห็นชอบ เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ในเรื่องต่อไปนี้
1. ทานที่ให้แล้วมีผลจริง
2. ยัญที่ทำแล้วมีผลจริง
3. การเซ่นสรวงหรือการบูชามีผลจริง
4. วิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง
5. โลกนี้มีจริง
6. โลกหน้ามีจริง
7. มารดามีคุณจริง
8. บิดามีคุณจริง
9. สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นมีจริง
10. พระอรหันต์ผู้สามารถรู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีอยู่จริง
เริ่มจากข้อแรก ทานที่ให้แล้วมีผลจริง เพราะฆ่ากิเลสคือโลภะในใจเราได้ ฆ่ากิเลสได้ใจเป็นสุข ซึ่งทำให้เราเป็นคนไม่ตระหนี่ ไม่เห็นแก่ตัว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีต่อกันด้วย สังคมที่มีการแบ่งปันเป็นสังคมที่มีความสุข ยิ่งให้ทานกับทักขิไณยบุคคลย่อมเกิดผลอันไพบูลย์ ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า
“บุคคลให้ทานในเขตใดแล้วมีผลมาก พึงเลือกให้ทานในเขตนั้น การเลือกให้ พระสุคตทรงสรรเสริญ ทานที่บุคคลให้แล้วในทักขิไณยบุคคลทั้งหลายย่อมมีผลมาก เหมือนพืชที่หว่านลงในนาดีฉะนั้น” ตอนเด็ก ๆ ผู้เขียนอยู่กับยาย ตอนเช้าเห็นท่านใส่บาตรตอนเช้าทุกวันและผู้เขียนชอบตามท่านมาใส่บาตรหน้าบ้าน แม้ไม่เข้าใจอะไรมาก แต่ก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ใส่บาตรกับท่านตอนเช้า ระลึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้เมื่อไหร่ก็รู้สึกดีทุกครั้ง ปัจจุบันคุณยายผู้เขียนอายุ 89 ปีแล้ว ยังสุขภาพแข็งแรงดี ทานที่ให้แล้วมีผลจริง เช้านี้ท่านใส่บาตรหรือยัง?
ทิวาวลี
