พุทธพจน์เตือนใจ
“บุคคลผู้กตัญญูกตเวที เป็นบุคคลที่หาได้ยากในโลก” ทุลลภสูตร อังคุตตรนิกาย ผู้ที่มีความกตัญญูคือรู้คุณของบุพการีชน และกตเวที ได้ตอบแทนคุณของบุคคลนั้น นับเป็นอุดมมงคลของชีวิต ที่บัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย ไม่ว่าชาติไหนภาษาไหนต่างกล่าวยกย่องสรรเสริญ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงสรรเสริญบุคคลผู้มีความกตัญญูกตเวทีว่า เป็นบุคคลผู้หาได้ยากยิ่งในโลก ผู้รู้ท่านกล่าวว่า นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี เพราะเป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นที่มารวมของความดีงามทั้งหลาย เหมือนมหาสมุทรเป็นที่รองรับของสายน้ำทุกสาย ที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ
โดยเฉพาะความกตัญญูต่อบิดามารดา ซึ่งเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดที่สุด เป็นผู้ที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดกายมนุษย์ ท่านเป็นต้นแบบทางกาย และทางใจ ซึ่งต้นแบบทางกายนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะกายมนุษย์มีความสำคัญต่อการสร้างบารมี เป็นกายที่มีไว้แสวงหาทางพระนิพพาน เป็นกายที่สำคัญที่สุดที่จะตรัสรู้ธรรม กายมนุษย์นี้เป็นพื้นฐานที่จะรองรับกายละเอียดภายในทุกๆ กาย รองรับดวงธรรม และคุณธรรมความดีทั้งหลาย เป็นกายที่เหมาะสมที่สุดในการทำใจหยุดใจนิ่ง เพื่อทำงานที่แท้จริง เหมือนแผ่นดินเป็นที่รองรับสรรพชีวิต และสรรพสิ่งทั้งหลาย
การตอบแทนบุญคุณของท่านทั้งสอง ผู้รู้ได้พรรณนาไว้หลายวิธี แต่โดยย่อคือ การตอบแทนอย่างโลกียชนกับอริยชน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงการตอบแทนคุณมารดาบิดาอย่างโลกียชนว่า ต้องบำรุงเลี้ยงดูท่าน เหมือนที่ท่านเอาใจใส่เลี้ยงดูเรามา ช่วยเหลือทำกิจการงานของท่าน ดำรงวงศ์สกุลให้เจริญรุ่งเรือง ประพฤติตัวของเราให้เป็นคนดี เหมาะสมที่จะรับมรดกจากท่าน หากท่านทั้งสองละโลกไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แต่ถ้าเป็นการตอบแทนแบบอริยชน ต้องแนะนำให้ท่านดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางของอริยมรรค ซึ่งเป็นทางไปของพระอริยเจ้า โดยย่อก็ให้ท่านมีศรัทธา ชักชวนท่านให้ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ซึ่งเป็นการปิดประตูอบายภูมิ แล้วเปิดหนทางสวรรค์ทางนิพพานให้ท่าน
"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน
โดย พระเทพญาณมหามุนี"