ทำไม ธรรมทานถึงชนะการให้ทั้งปวง
ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีชีวิตอยู่ ได้มีการประชุมกันของเหล่าเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อพยายามไขปัญหาทั้ง ๔ ข้อ คือ ๑. บรรดาทานทั้งหลาย...ทานชนิดใดยอดเยี่ยมที่สุด? ๒. ในบรรดารสทั้งหลาย...รสอะไรเป็นเลิศที่สุด ? ๓. ในบรรดาความยินดีทั้งหลาย... ความยินดีอะไรเป็นเลิศที่สุด? ๔. ความสิ้นไปของตัณหา...ประเสริฐที่สุดเพราะอะไร
แต่ก็ไม่มีเทวดาตนใดตอบได้ จึงพากันไปถามท้าวมหาราชและท้าวสักกเทวราช ซึ่งท่านก็ตอบไม่ได้อีก และด้วยเหตุนี้เอง เหล่าเทวดาจึงพากันไปกราบเรียนถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงตอบว่าการให้ธรรมทาน..ชนะการให้ทั้งปวง รสแห่งธรรม...ชนะรสทั้งปวง ความยินดีในธรรม... ชนะความยินดีทั้งปวง ความสิ้นตัณหา...ชนะทุกข์ทั้งปวง
และที่เป็นเช่นนี้...ก็เพราะว่า การที่คนเราจะทำความดี หรือกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้นั้น ก็ต้องได้รับข้อคิดจากการฟังธรรมหรืออ่านธรรมะมาก่อน จึงจะเป็นเหตุให้เขาได้ตั้งใจถวายทานที่ยิ่งใหญ่ สร้างมหาวิหารออกบวช หรือแม้แต่การตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าหรือพระเจ้าอัครสาวก ก็ล้วนแต่ต้องฟังธรรม หรืออ่านธรรมะมาก่อนทั้งนั้น และท้ายที่สุด...การที่คนเราจะหมดกิเลส ไปนิพพานหรือที่สุดแห่งธรรมนั้น ก็เนื่องมาจากการรับรู้ธรรมมาก่อนเช่นกัน
ดังนั้น การให้ธรรมทาน จึงชื่อว่า...ชนะการให้ทั้งปวง อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่เมื่อให้แล้ว มีแต่ประโยชน์เกิดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว และที่สำคัญยังมีอานิสงส์มากอย่างจะนับประมาณมิได้ ดังมีพระอรรถกถาจารย์เปรียบเทียบไว้ว่า การได้ถวายจีวรแด่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระขีณาสพ ที่นั่งติด ๆ กันในจักรวาลถึงพรหมโลก ยังมีอานิสงส์ไม่ถึง ๑ ใน ๑๖ ส่วนของการให้ธรรมทาน ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเพียงพระคาถาเดียวเลย...
Cr. วารสารอยู่ในบุญ