การบวชเป็นเพศภาวะเดียวที่รองรับอรหัตผลได้
มีบางคนพูดว่า “ไม่ต้องบวช...ก็เป็นคนดีได้” ซึ่งความคิดนี้ก็ถูก แต่ถูกไม่หมด เพราะการเป็นคนดีนั้น มีหลายระดับ แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก็ต้องหมดกิเลสเข้านิพพาน
ดังนั้น การบวชเป็นพระจึงมีความจำเป็น แม้จะเป็นคนดีอยู่แล้ว ก็ต้องมาขัดเกลากิเลส เพื่อให้ตัวเองเป็นคนดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เนื่องจากภาวะนักบวชเป็นเพศภาวะที่เอื้อต่อการทำความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ให้เกิดขึ้นกับตัวเองมากที่สุด เพราะต้องรักษาศีลมากถึง ๒๒๗ ข้อ และมีสภาพที่เหมาะต่อการปฏิบัติธรรม ทำสมาธิเจริญภาวนา มีโอกาสบรรลุธรรมขั้นสูง จนหมดกิเลสเข้าถึงนิพพานได้ง่ายกว่าเพศคฤหัสถ์
มีบางคนถามว่า แล้วคนธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้บวชมีสิทธิ์บรรลุอรหัตผลหรือไม่ ตอบว่า "มี" แต่ไม่ง่ายเลย อีกทั้งถ้าบรรลุแล้ว อย่างไรก็ต้องรีบบวชทันที เพราะถ้าไม่บวชก็จะต้องนิพพานภายใน ๗ วัน เพราะเพศภาวะคนธรรมดา ๆ ไม่สามารถจะรองรับคุณธรรมและคุณวิเศษของอรหัตผลได้ อุปมาเหมือนกับเอาก้อนหินหนัก ๆ ไปวางบนฟ่อนหญ้าคาเล็ก ๆ ฟ่อนหญ้าคาเล็ก ๆ ย่อมจมลงไป เพราะกำลังไม่พอ
เพศภาวะผู้ครองเรือนก็เช่นกัน เป็นเพศภาวะที่มีกำลังทรามหรืออ่อนกำลัง เป็นเพศที่ไม่สงบ เป็นทางมาแห่งธุลี ดังตัวอย่างของยสกุลบุตร อุตติยคฤหบดี เสตุมาณพ พระนางเขมาเถรี อุคคเศรษฐีบุตร ที่บรรลุอรหัตผลในเพศคฤหัสถ์แล้ว ก็ต้องบวชทันที ส่วนสันตติอำมาตย์และพระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อบรรลุอรหัตผลในเพศคฤหัสถ์แล้ว เลือกที่จะนิพพานทันที
ดังนั้น การบวชจึงเป็นเพศภาวะที่ดีที่สุด ที่ง่ายต่อการทำพระนิพพานให้แจ้ง หรือหากบรรลุอรหัตผลแล้ว ก็เป็นเพศภาวะเดียวที่สามารถรองรับอรหัตผลได้...
Cr. วารสารอยู่ในบุญ สำนักสื่อธรรมะ