พระธรรมเทศนา สาธุนรธรรมกถา

วันที่ 07 กพ. พ.ศ.2547

luangtia.jpg

 

.....ในการพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง วันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๕ เวลา ๑๗.๐๐ น. พระธรรมราชานุวัตร วัดพระเชตุพน รับพระราชทานถวาย

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ยาตานุยายี จะ ภวาหิ มาณวะ
อัลลัญจะ ปาณึ ปริวัชฌยัสสุ
มา จัสสุ มิตเตสุ กทาจิ ทุพภิ
มา จะ วสัง อสตีนัง นิคัจเฉติ ฯ

 

.....ก็แล สาธุนรธรรมกถา กล่าวถึงธรรมสมบัติของความเป็นคนดีนี้ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระบรมศาสดาแห่งเราทั้งหลาย ทรงแสดงไว้ในวิธุรชาดกมหานิบาต ครั้งที่พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพระวิธุรบัณฑิต ทรงบำเพ็ญพระบารมี เพื่อสร้างสมบ่มพระโพธิญาณให้แกล้วกล้า คือ พระชาติที่ ๙ อันยิ่งด้วยพระสัจจบารมี

.....ณ วโรกาสนี้ จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาเฉพาะ สาธุนรธรรมกถา ส่วนหนึ่งเท่านั้น อนุสนธิ ความสืบเนื่องมาโดยย่อพอสังเขป

.....อตีเต กาเล ก็แลในอดีตกาลครั้งนั้น พระราชาพระนามว่า โกรพยะ แห่งกรุงอินทปัตตนคร แคว้นกุรุ มี อำมาตย์ชื่อว่า วิธุระ เป็นผู้ถวายอนุศาสน์อรรถธรรม วิธุระนั้น มีวาจาไพเราะ เป็นนักธรรมกถึก คือผู้แสดงธรรมที่ยิ่งใหญ่ กษัตริย์ทั่งทั้งสกลชมพูทวีป ต้องพระทัยด้วยธรรมกถาอันวิจิตรพิสดาร จนไม่อาจคิดจะเสด็จกลับยังแว่นแคว้นของพระองค์ได้ ดุจดังโขลงช้างติดใจด้วยเสียงพิณกล่อมช้างฉะนั้น เธอจึงปรากฏกิตติศัพท์ทั่วทุกทิศานุทิศว่า วิธุรบัณฑิต

.....กาลครั้งหนึ่งพระเจ้าโกรพยะ ทรงกีฬาสกาท้าพนันกับปุณณกยักษ์ผู้มเหศักดิ์ หากปุณณกยักษ์แพ้ จะถวายม้าสินธพอาชาไนยกับดวงแก้วมณีโชติอันทรงฤทธิพิเศษถ้าพระเจ้าโกรัพยะทรงแพ้ก็จะพระราชทานสรรพสม บัติทั้งปวง ยกเว้นเฉพาะพระองค์ เศวตฉัตรและพระมเหสีเท่านั้น ครั้นเมื่อพระเจ้าโกรัพยะทรงแพ้พนันแล้ว ปุณณกยักษ์ก็มิได้ทูลขอทรัพย์สมบัติอื่นใด แต่ทูลขอเฉพาะวิธุรบัณฑิตเท่านั้น เหตุที่ปุณณกะยักษ์ต้องการวิธุรบัณฑิต ก็ด้วยลุ่มหลงความงามของนางอิรันทตี ธิดาสาวของท้ายวรุณนาคราช ซึ่งพระนางวิมลาเทวี มีจิตปรารถนายิ่งนัก ใคร่จะสดับธรรมกถาของวิธุรบัณฑิต จึงออกอุบายเป็นปริศนาปัญหา ผู้ที่นำหัวใจของวิธุรบัณฑิตมาได้โดยชอบธรรม ก็จะยกธิดาให้เป็นภรรยา

.....พระเจ้าโกรพยะทรงสดับ คำขอของปุณณกยักษ์ ก็ทรงทักท้วงว่า วิธุรบัณฑิตคือชีวิตของพระองค์พระราช ทานให้มิได้ ปุณณกยักษ์หมายจะระงับเหตุการวิวาทระหว่างกัน จึงทูลขอให้พระวิธุรบัณฑิตเป็นผู้ตัดสิน โดยประชุมวินิจฉัย ณ ธรรมสภา

.....พระโพธิสัตว์เจ้าวิธุรบัณฑิต ดำริว่า เราไม่อาจจะตอบว่าเป็นญาติราชวงศ์ และก็ไม่มีอุบายอย่างอื่นใดที่แก้ไข ดังพระราชประสงค์ของพระเจ้าโกรพยะได้ สัจจะความจริงเท่านั้นเป็นคุณธรรมอย่างยอดเยี่ยม จำต้องเสียสละชีวิตถวายเป็นราชพลี เพื่อปกป้องอันตรายที่จะบังเกิดมีแก่พระราชาและบ้านเมือง แล้ววินิจฉัยว่า ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระราชามาแต่กำเนิด ดังนั้น พระราชาจะต้องพระราชทานข้าพเจ้าแก่ท่าน นั่นแหละคือความยุติธรรม พระเจ้าโกรพยะทรงสดับดังนั้น ทรงเสียพระทัยด้วยความอาวรณ์อาลัยในจอมปราชญ์วิธุรบัณฑิตจึงจำเป็นต้องพระราชทาน ตามคำวินิจฉัยนั้นวิธุรบัณฑิตจึงทูลลาพายักษ์ไปยังนิเวศน์ของตน ขอให้ยักษ์พักอยู่ ๓ ราตรี เพื่อมอบภาระหน้าที่บ้านเรือนและบอกลาบุตรภรรยา โดยจัดที่พักที่อาศัยต้อนรับด้วยอาหารการกินอยู่อย่างดี พระโพธิสัตว์ได้แสดงอนิจจตาธรรม พรรณนาความไม่เที่ยงเปลี่ยนแปรในสรรพสิ่งทั้งปวง ล้วนเป็นสมมติตามธรรมบัญญัติ เพื่อผ่อนคลายความวิปโยคโศกเศร้าของปริวารชน ครั้นครบคำรบ ๓ วัน วิธุรบัณฑิตก็เข้าเฝ้าทูลลาพระ เจ้าโกรพยะปุณณกยักษ์ก็พาวิธุรบัณฑิตไปโดยนภากาศด้วยเทวานุภาพ และพยายามประหารวิธุรบัณฑิตทุกประการด้วยเทวฤทธิ์แห่งตน ก็มิอาจทำลายพระโพธิสัตว์ได้ กล่าวว่าด้วยอำนาจสัจจธิษฐาน คือการตั้งอยู่ในความสัตย์อาจต้านทานกำลังเทวานุภาพได้ พระโพธิสัตว์ครั้นได้ฟังยักษ์ชี้แจงเหตุที่จะประหารตนนั้น ก็ทราบความปริศนาของพระนางวิมลาเทวีทันที จึงขอให้ยักษ์พักตนไว้ ณ ยอดเขากาฬาคิรีก่อน แล้วแสดงสาธุนรธรรม คือธรรมสมบัติความเป็นคนดี ดังบาลีคาถาที่สาธกยกขึ้น ณ เบื้องต้น…

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.039115834236145 Mins