เบี้ยวหนี้ / ทำบุญไม่ถึงเป้า
คุณแม่บุญธรรมของสามีเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่ง รู้จักเก็บเงิน เมื่อมีเงินพอสมควร ก็มาทำอาชีพเสริมโดยปล่อยเงินกู้จนเป็นที่รู้จักของคนในละแวกนั้น ใครเดือดร้อนเรื่องเงินก็จะมาหาท่าน ซึ่งมีเพียงคุณแม่บุญธรรมเท่านั้นที่รู้ว่าใครกู้เงินไปบ้าง กู้เงินไปเท่าไร ท่านจะคอยดูคอยตามเก็บ จนทำให้ครอบครัวสบายขึ้นและเป็นที่พึ่งให้กับญาติพี่น้อง ครั้นพอแม่บุญธรรมอายุ ๖๗ ปี ท่านล้มป่วยมีอาการไอและอาเจียนเป็นเลือด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากท่านเสียชีวิต ฐานะทางการเงินของครอบครัวก็ไม่ดีเหมือนเดิม ลูกหนี้ที่เคยกู้เงินจากแม่บุญธรรมก็ไม่นำมาคืนและหายไปเลย ซึ่งพ่อบุญธรรมไม่รู้เลยว่าใครกู้เงินไปบ้าง
ร้านตัดผมซึ่งเป็นบ้านไม้ ๒ ชั้น ๒ ห้องที่เช่าที่ดินวัดอยู่ ทางวัดได้ขอให้เราเปลี่ยนไปอยู่บ้านใหม่เป็นบ้านปูน ๒ ชั้น แต่ให้ที่ดินเหลือเพียงห้องเดียว และบ้านใหม่นี้จะตกเป็นของวัดในอีก ๓๐ ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันนี้ บ้านใหม่ที่เปิดเป็นร้านตัดผมก็ตกเป็นของวัดไปแล้ว แต่สามีของลูกได้เช่าร้านตัดผมจากทางวัดเพื่อมาทำมาหากินต่อจนถึงทุกวันนี้หลังจากที่แม่บุญธรรมของสามีเสียชีวิตแล้ว ทำไมครอบครัวจึงต้องสูญเสียเงินกู้ไปไม่มีใครนำเงินมาใช้หนี้ และบุพกรรมใดจึงต้องถูกย้ายที่อยู่จากบ้าน ๒ ห้อง มาเหลือห้องเดียว และต้องมาเช่าบ้านซึ่งตกเป็นสมบัติของวัดคะ
คุณครูไม่ ใหญ่
เมื่อแม่บุญธรรมเสียชีวิตแล้ว ครอบครัวก็ต้องสูญเสียเงินก้ไู ป ไม่มีใครเอาเงินมาใช้หนี้เพราะเศษกรรมในอดีตที่เคยเบี้ยวหนี้ โดยได้เคยไปเป็นหนี้เขาไว้ เมื่อเจ้าหนี้ตายก็เบี้ยวหนี้ไปเฉยๆ ไม่นำเงินไปใช้หนี้ให้ลูกหลานเขาวิบากกรรมนี้มาส่งผลจ้ะจากที่เคยอยู่ ๒ ห้อง มาอยู่ห้องเดียวและต้องมาเช่าบ้านซึ่งตกเป็นสมบัติของวัดเพราะกำลังทานบารมีในอดีตหย่อนลง อีกทั้งในอดีตเวลารับปากว่าจะทำบุญเต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาทำจริงก็ลดลงครึ่งหนึ่งมาส่งผลอยากทำบุญ ๑๐๐ แต่พอทำจริงๆ ทำ๕๐ เวลาบุญมันหล่น จาก ๒ ห้อง ก็เหลือ ๑ ห้อง
จากหนังสือ ที่นี่มีคำตอบ ฉบับที่ ๑๑
๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙