การรักษาไตรทวาร
ไตรทวาร แปลว่าประตูทั้ง ๓ คือกายวาจาใจ ที่เรียกทวารก็เพราะความชั่วและความดีจะรอดเข้าไปถึงจิตนั้นเข้าทางนี้
ความชั่วเรียกว่า "ทุจริต" ความดีเรียกว่า "สุจริต" วิธีที่จะเข้าไปมีอาการไหวก่อน ซึ่งเขาเรียกว่า "วิญญัติ"
ไหวทางกายเรียกว่า กายวิญญัติ
ทางวาจาเรียกว่า วจีวิญญัติ
ทางใจเรียกว่า มโนวิญญัติ
อะไรทำให้เกิดอาการไหวหรือบังคับให้ไหว ไม่ใช่อื่นไกลสังขารนั้นเอง บังคับให้ไหว บังคับทางกายได้แก่กายสังขาร ทางวาจาได้แก่วจีสังขาร ทางใจได้แก่จิตสังขาร
สังขารคือความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่ง และมีทางเกิดเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายทุจริตเกิดจากอวิชชาและอาสวะ ฝ่ายสุจริตเกิดจากวิชาและฝ่ายอนาสวะ
ฝ่ายเหตุทุจริต เป็นดวงดำมืดมน
ฝ่ายเหตุสุจริต เป็นดวงขาว ใสซ้อนอยู่ในดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ เป็นปรปักษ์กันอยู่
ฝ่ายชั่ว (ดำ) เป็นภาคมาร
ฝ่ายดี (ขาว) เป็นภาคพระ ต่างมีเจ้าของด้วยกัน
ฝ่ายชั่วอำนวยการให้มืด ฝ่ายอำนวยการให้สว่าง ขายโรงงานทำหมอกควันพวก หนึ่ง โรงงานทำไฟฟ้าพวกหนึ่ง เมื่อเราไม่คอยระวังฝ่ายชั่วสอดเข้าไปได้ ย่อมเป็นเหตุให้เราตกไปทางชั่วคือจะทำอะไรก็ทำในทางชั่ว จะพูดอะไรออกมาก็เป็นทางชั่วจะคิดทำอะไรก็เป็นไปทางทั่วหมด อกุศลกรรมบถ ๑๐
ถ้าเราคอยระวังรักษาไว้ให้ดี บำเพ็ญสมาธิให้ดวงขาวใสปรากฏอยู่ในส่วนกลางกายเสมอ เราจะทำอะไรก็เป็นไปในทางดี พูดอะไรก็พูดไปทางดี คิดอะไรก็คิดไปทางดี กุศลกรรมบถ ๑๐
เพราะฉะนั้นจึงควรบำเพ็ญตนให้เป็นฝ่ายขาวเสมอ เวลาจะตายถ้าปล่อยให้ไปตกอยู่ฝ่ายดําเรียกว่า "หลงตาย" จะไปสู่ทุคติ
ถ้าอยู่ในฝ่ายข่าวเรียกว่า "ไม่หลงตาย" จะไปสู่สุคติแน่แท้ จึงเป็นการจำเป็นยิ่งที่จะต้องระวังให้อยู่ฝ่ายขาว
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ"