วิสาขบูชา

วันที่ 27 พค. พ.ศ.2562

วิสาขบูชา

วันวิสาขบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) เป็นวันสำ คัญและอัศจรรย์อย่างยิ่งในทางพระพุทธศาสนา และเป็นวันสำ คัญสากลของโลก
ที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
มาพ้องตรงในวันเดียวกัน
การมาประสูติของพระพุทธองค์ก็อัศจรรย์ ก่อนที่จะมาประสูติ เทวดาพรหมทั่วหมื่นโลกธาตุได้ไปกราบอาราธนาพระบรมโพธิสัตว์
บนสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อพระองค์พิจารณาเห็นสมควรจึงรับอาราธนา
จากนั้นทรงตรวจตราดูปัญจมหาวิโลกนะ คือ ทรงพิจารณาดู กาล ทวีป ประเทศ ตระกูล และพุทธมารดาที่เหมาะสมต่อการลงมาเกิดสร้างบารมี เพื่อจะได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณโปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์ภัยในวัฏสงสาร

ครั้นประสูติก็ถึงพร้อมด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ และในทันทีที่ประสูติทรงพระดำ เนินไปได้ 7 ก้าว ทุกย่างก้าวจะมีดอกบัว
ผุดขึ้นมารองรับ จากนั้นทรงเปล่งอาสภิวาจาว่า
“เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ภพชาตินี้
เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว”
ครั้นเมื่อเจริญวัย ก็เป็นผู้เลิศกว่าใคร ๆ ในโลก ทรงมีพระปัญญา
สว่างไสว สามารถสำ เร็จความรู้ในศิลปศาสตร์ 18 ประการ ภายใน 7 วัน
ต่อมาเมื่อทรงเห็นภัยในวัฏสงสารก็ทรงออกผนวช เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์
ทรงบำ เพ็ญเพียรอย่างกลั่นกล้า จนกระทั่งได้ตรัสรู้ ณ ภายใต้ควงไม้
พระศรีมหาโพธิ์
ในวันตรัสรู้นั้น พระองค์ทรงมีพระทัยตั้งมั่น ใจหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 ของพระองค์
ยามต้น เข้าถึงกายธรรมพระโสดาบัน บรรลุบุพเพนิวาสานุสติญาณ สามารถระลึกชาติหนหลังได้
ยามสอง เข้าถึงกายธรรมพระอนาคามี บรรลุจุตูปปาตญาณ รู้แจ้งเห็นแจ้งการเกิด ดับ และการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย

ยามสุดท้าย บรรลุอาสวักขยญาณ สามารถกำ จัดกิเลสอาสวะหมดสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ พร้อมกับได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อมา พระพุทธองค์ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนามาตลอด 45 พรรษา ทรงบำ เพ็ญพุทธกิจโปรดสรรพสัตว์ ทรงแสดงธรรมพร้อมอรรถและพยัญชนะ งดงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย จวบจนวาระสุดท้ายทรงปลงอายุสังขาร และประทานปัจฉิมโอวาทเอาไว้ว่า
“สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”
จากนั้นทรงเข้ามหาสมาบัติไม่ซ้ำมหาสมาบัติ แล้วก็เสด็จดับขันธ-ปรินิพพานเข้าสู่อายตนนิพพาน
ภายนอกทรงประสูติ ณ สถานที่หนึ่ง ตรัสรู้ที่หนึ่ง และปรินิพพานอีกที่หนึ่ง แต่ในแง่การปฏิบัติภายใน ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานอยู่ที่เดียวกัน คือ ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 ของพระองค์ ดังนั้นศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 จึงเป็นตำ แหน่งที่สำ คัญที่สุดในโลก เป็นทางไปของพระอริยเจ้า พระอรหันต์ เป็นทางบรรลุมรรคผลนิพพานของทุก ๆ คนในโลก ที่จะต้องเอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้

เพื่อให้ได้บรรลุธรรม บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์
มาพบพระพุทธศาสนา ได้มีดวงตาเห็นธรรม
เพราะฉะนั้น วันนี้จึงเป็นวันที่มีความหมายต่อตัวเราและชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเพราะมีวันนี้เกิดขึ้น เราจึงมีโอกาสได้ยินได้ฟัง
พระธรรมคำ สั่งสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้รู้
เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ได้รู้ถึงหนทางดับทุกข์ รวมทั้งได้ลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ เข้าถึงธรรม
1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

จากหนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่3

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.028677419821421 Mins