ง่ายจึงจะถูกวิธี
ทิ้งทุกสิ่งหยุดได้ |
ดังใจ |
พบสุขในทันใด |
แต่นั้น |
หนทางสว่างกลางใส |
ทะลุโล่ง |
พระผุดเป็นชุดชั้น |
ต่อเนื่องเป็นสาย |
ตะวันธรรม
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะให้ปลดปล่อยวาง ให้คลายความผูกพันในช่วงที่เราจะนั่งสมาธิเจริญภาวนา ให้ใจของเราทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่ง ๆ นุ่ม ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นที่เกิด ที่ดับ ที่หลับ ที่ตื่นของเราอีกทั้งที่สำคัญคือเป็นต้นทางไปสู่อายตนนิพพาน จะต้องเริ่มต้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้นะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายพระอรหันต์ทุกพระองค์เริ่มต้นหยุดใจตรงนี้เรื่อยไปเลย หยุดอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้นศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เราต้องทำความรู้จักเอาไว้ เพราะเป็น ตำแหน่ง สำคัญที่เราจะต้องเอาใจมาหยุดนิ่ง ๆ อยู่ที่ตรงนี้ ไม่ว่าเราจะทำภารกิจอะไรก็ตามทั้งทางโลกและทางธรรม
โดยเฉพาะทางธรรมจะทำทาน ก็ต้องเอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ตรงนี้ทำน้อยก็จะได้บุญมาก จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ต้องเอาใจมาอยู่ที่ตรงนี้ เพราะศีลนั้น บังเกิดขึ้นที่ตรงนี้ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่องก็ต้องเอาใจของเราก็ต้องอยู่ตรงนี้ จะเจริญภาวนาซึ่งเป็นต้นทางแห่งมรรคผลนิพพานก็ต้องเอาใจมาอยู่ที่ตรงนี้
ฐานที่ ๗ จึงเป็นที่ตั้งของใจเรา เป็นตำแหน่งที่สำคัญ ที่ลูกทุกคนจะต้องเอาใจใส่ เอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้ให้ได้ทุกวันทุกคืนทั้งวันทั้งคืน แล้วความบริสุทธิ์ก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา
คราวนี้เราก็นึกถึงพระธรรมกายประจำตัวเป็นบริกรรมนิมิตให้นึกอย่างเบา ๆ สบาย ๆ นึกง่าย ๆ เหมือนเรานึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย
นึกอย่างง่าย ๆ แล้วเราก็จะได้อย่างง่าย ๆ นึกธรรมดา เพื่อให้เป็นที่ยึดที่เกาะของใจของเราเอาไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ พร้อมกับประคองใจให้หยุดนิ่ง ๆ นุ่ม ๆ ด้วยบริกรรมภาวนา สัมมา อะระหัง
ในใจเบา ๆ สมํ่าเสมอ ไม่เร็วไม่ช้านัก
ทุกครั้งที่ภาวนา สัมมา อะระหัง เราจะต้องไม่ลืมตรึกระลึกนึกถึงองค์พระธรรมกายประจำตัวของเราอย่างเบา ๆ สบาย ๆ ง่าย ๆใจเย็น ๆ ประคองใจกันไปอย่างนี้ จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง
พอใจหยุดนิ่งมันก็จะทิ้งคำภาวนาไปเอง ใจของเราก็จะเหลือแค่การตรึกระลึกนึกถึงพระธรรมกายประจำตัว โดยไม่คิดเรื่องอื่นเลย เราก็จะนึกเห็นองค์พระได้ชัดเจนอยู่ในกลางกาย ให้นึกง่าย ๆ เบา ๆ สบาย ๆ ใจเย็น ๆ
เราต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า ตลอดเส้นทางสายกลางภายใน ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์ เป็นเส้นทางที่ไม่ทุรกันดาร เป็นเส้นทางของผู้มีบุญ เพราะฉะนั้นมันจะง่าย คำว่ายากไม่มีเลย ง่าย --> ง่ายมาก จนกระทั่งไปถึง --> ง่ายแสนง่าย ถ้าเริ่มยาก เริ่มตื้อ ๆ ตัน ๆ เกร็งหรือตึง ก็แปลว่า เราทำไม่ถูกหลักวิชชาแล้ว
เรื่องยากมีเฉพาะตอนเราลืมตาทำกิจกรรม ทำมาหากินทำมาค้าขาย นั่นแหละเรื่องยาก มีปัญหา มีแรงกดดัน แต่เมื่อเราหลับตาทำภาวนานี้มันมีแต่เรื่องง่าย ๆ ซึ่งกลับตาลปัตรกันอย่างนี้ระหว่างโลกภายนอกกับโลกภายใน เหมือนเส้นผมบังภูเขา เราต้องศึกษาให้เข้าใจว่า ความจริงมันเป็นอย่างนี้
ถ้าเราหลับตาแล้วเริ่มยาก เริ่มทุรกันดาร เริ่มยากเข็ญ เริ่มควานหาองค์พระ แปลว่าเราทำไม่ถูกหลักวิชชาแล้ว ไม่ใช่เส้นทางผู้มีบุญ
หลวงพ่อขอยืนยันว่ามันง่าย และก็ไม่เชื่อว่าใครจะทำไม่ได้นอกจากคนขาดสติ คนบ้า คนเมา คนตายแล้ว เป็นต้น เพราะฉะนั้นลูกทุกคนสามารถทำได้อย่างง่าย ๆ แต่ต้องเอาใจใส่ ต้องขวนขวาย ต้องมีฉันทะ สมัครใจที่จะเข้าถึง ปรารถนาที่จะได้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต อยากหลุดพ้นจากทุกข์อย่างแท้จริงนั่นแหละมันจึงจะได้
อุปสรรคช่วงแรก ๆ ก็จะมีแต่เรื่องฟุ้งเป็นหลักกับตั้งใจมากเกินไป ส่วนเรื่องหลับ เรื่องอะไรต่าง ๆ ยังเป็นเรื่องรองลงมา ถ้าใจเราไม่ฟุ้งไปคิดในเรื่องคน สัตว์ สิ่งของก็ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ การฝึกฝน ค่อย ๆ ฝึกฝนไป พึงจำไว้ว่าตลอดเส้นทางสายกลางภายใน เส้นทางไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า ที่จะทำให้เกิดความพึงพอใจอันสูงสุดอย่างที่เราไม่เคยเจอ ต้องง่าย
เราก็ทำใจให้เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีองค์พระธรรมกายประจำตัวที่เราสร้างเอาไว้เป็นตัวแทน นึกอย่างง่าย ๆ นะลูกนะ ถ้าเริ่มยาก แปลว่าเราเริ่มบีบเปลือกตาแล้ว กดลูกนัยน์ตาแล้วแต่ถ้าหลับตาเบา ๆ ผ่อนคลายสบาย อย่างที่เคยบอกบ่อย ๆ ซํ้า ๆนั่นแหละ ถ้าทำอย่างนั้นได้ เดี๋ยวก็จะได้อย่างง่าย ๆ
เช้านี้อากาศแจ่มใสเย็นสบาย เหมาะสมที่ลูกผู้มีบุญทุกคนจะได้ประกอบความเพียร จะได้เข้าถึงพระธรรมกายประจำตัว ขอให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวทุก ๆ คนนะ
อาทิตย์ที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒
จากหนังสือ ง่ายเเต่ลึก เล่ม 1
โดยคุณครูไม่ใหญ่