คำพ่อ คำเเม่
ตอน บัวในตม
ลูกรัก..
ใครก็ตามถ้าเขาสามารถให้วิชาความรู้พิเศษที่หาได้ยากแก่เราได้ เราก็ควรยินดีไปเรียนกับเขา ไม่ควรไปตั้งแง่รังเกียจถึงชาติตระกูล รูปร่าง หรือความประพฤติของเขา เขาจะเป็นคนยากจน พิกลพิการ หรือมีความประพฤติไม่ดีอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวเขา เขาสอนให้เราฉลาดหรือมีวิชาความรู้พิเศษนั้นได้ก็พอแล้ว ครูอาจารย์ที่สอนเรามาก็ใช่ว่าจะร่ำรวยหรือมีความประพฤติดีทุกคนไป แต่เราก็เคารพนับถือท่านว่าเป็นครูอาจารย์
ของเราได้เพราะเราไม่ได้คำนึงถึงพื้นเพและความประพฤติของท่านมากนัก ถ้าเรามัวไปตั้งแง่รังเกียจสิ่งนอกตัวที่ไม่ดีของท่าน แล้วไม่ยอมรับความรู้ที่ท่านให้ เรา ก็จะไม่ได้ความรู้อะไรมากมายเลย
ทำนองเดียวกัน ข้อธรรมหรือคำพูดที่มีคติเตือนใจซึ่งแม้จะออกมาจากปากของนักบวชผู้ประพฤติไม่เรียบร้อยหรือคนที่ต่ำต้อย หากเป็นประโยชน์ต่อเรา เราก็ไม่ควรรังเกียจ ควรศึกษา และปฏิบัติตามเพื่อประโยชน์แก่ตัวเราเอง เหมือนเมื่อเราต้องการดอกบัว เราลงไปในสระน้ำเห็นดอกบัวแล้วก็เด็ดเอาแต่ดอกบัวมาเท่านั้น ไยจะมามัวคำนึงถึงที่เกิดของตอกบัวนั้นว่ามาจากโคลนตมด้วยเล่า ได้ดอกบัวมาก็เป็นอันสมประสงค์แล้ว จะสนใจที่เกิดของดอกบัวไปทำไม ดอกบัวที่เกิดจากโคลนตมที่เน่าเหม็นจะสกปรกเน่าเหม็นไปด้วยก็หาไม่
เช่นเดียวกัน ข้อธรรม วิชาความรู้ และคำพูดที่เป็นคติ ดังกล่าวแม้จะมาจากคนไม่ดี คนด้อยการศึกษา หรือคนพิการ ถ้าเราต้องการ และเขาให้เราได้ก็เป็นอันจบกัน จะไปคำนึงถึงพื้นเพ รูปร่าง หรือความประพฤติของเขาทำไม คำนึงถึงแต่สิ่งที่เขามีและเขาให้เราได้จะมิดีกว่าหรือ
พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช)