หัดให้มากกว่าหัดขอ

วันที่ 20 เมย. พ.ศ.2563

คำพ่อ คำเเม่
ตอน หัดให้มากกว่าหัดขอ

ลูกรัก..


              คำที่พระท่านว่า “ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอย่อมเป็นที่รังเกียจ” เป็นความจริงแท้ทีเดียว  ดูตัวเราก็ได้ หากมีคนมาขออะไรเรา ครั้งแรกก็ไม่ค่อยรู้สึก แต่พอมาขอบ่อยเข้า แม้จะเป็นเรื่องจำเป็น เราก็จะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ แต่ตรงกันข้าม หากมีใครเอาอะไรมาให้เราบ่อยๆ เรากลับชอบ แม้ของนั้นจะเล็กน้อย ไม่มีราคาค่างวดอะไรมากนัก เราก็พอใจ ตามนัยนี้


             หากลูกทำตัวเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้ขอได้  ลูกก็จะเป็นที่รักนับถือของผู้คนในที่นั้นๆ เขาจะไม่รังเกียจลูกเลย ลูกจะมีพวกพ้องมาก เขาจะยอมรับลูกและบางที่เขาจะยกให้ลูกเป็นใหญ่เป็นผู้นำพวกเขา ทั้งจะไม่ถูกข่มเหงรังแก จะมีคนคอยช่วยเหลือเมื่อมีกิจ จะไม่ถูกโดดเดี่ยวให้อยู่ตามลำพัง


            ที่ถูกการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่เป็นคณะต้องคิดว่า “เราจะให้อะไรเขาได้บ้าง” มากกว่าที่จะคิดว่า “เราจะได้อะไรจากเขาบ้าง” เริ่มคิดเริ่มทำ บ่อยๆ นานเข้าก็จะเกิดความเคยชิน จะช่วยอะไรคนอื่น จะให้อะไรคนอื่นก็ทำได้อย่างสะดวกใจไม่ติดขัด จะคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง  คนที่คิดและทำได้อย่างนี้แหละลูกที่จะได้รับผลอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น


             ตรงกันข้าม หากทำตัวเป็นคนขี้ขอ ชอบรับมากกว่าชอบให้ จะกลายเป็นคนใจแคบ เป็นคนเห็นแก่ตัว คนที่เห็นแก่ตัวชอบแต่ขออย่างนี้จะเป็นที่รังเกียจของคนทั่วไป หาพวกพ้องได้ยากแม้จะมีคนมาคบหาด้วยก็มาเพียงเพื่อได้ผลประโยชน์ของเขาเท่านั้น แต่จะหาความจริงใจด้วยไม่ค่อยได้

พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช)

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.036686583360036 Mins