อารมณ์สบายอย่าฟังผ่าน
สิ่งที่พ่อกล่าวแล้ว |
จงฟัง |
ลูกอย่าได้เผลอพลั้ง |
พลาดได้ |
จำไม่หมดจดยัง |
ดีจ้ะ |
หมั่นทบทวนเอาไว้ |
ไม่ช้าเห็นผล |
ตะวันธรรม
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ ให้เริ่มต้นจากจุดที่เราพึงพอใจก่อน แล้วมีความพร้อมที่จะวางใจ หรือทำความรู้สึกตรงนั้นไปก่อนอย่างนี้ก็ได้ จะเป็นฐานที่ ๑,๒, ๓, ๔, ๕, ๖ ได้ทั้งนั้น แล้วก็ทำใจให้นิ่ง ๆ สบาย ๆ
ทีนี้บางคนพยายามจะสร้างอารมณ์สบาย ตะเกียกตะกายหาอารมณ์สบาย แต่ไม่เคยเจอ เลยกลุ้ม อย่างนี้ก็มี
หลวงพ่อว่า อารมณ์สบายก็ตาม แสงสว่าง ดวงธรรมองค์พระสิ่งที่ดี ๆ มีอยู่แล้วนะ ภายในตัวของเรา แม้อารมณ์สบายที่เราแสวงหา เพราะฉะนั้นไม่ต้องแสวงหา แค่ทำใจให้หยุดนิ่ง ๆ
โดยจะเอาตัวเราอยู่ในศูนย์กลางกาย หรือจะเอาศูนย์กลางกายอยู่ในกลางตัวเราก็ได้ แล้วแต่เราจะชอบจะถนัด ทำนิ่ง ๆ เท่านั้นเดี๋ยวอารมณ์สบาย อารมณ์ดี อารมณ์เดียวจะมาเอง แค่เราไม่ต้อง
ไปคิดอะไรเลยน่ะ นิ่ง ๆ เฉย ๆ เดี๋ยวก็มา สำหรับบางท่านที่พยายามแสวงหาอารมณ์สบาย ส่วนใครถนัดนึกนิมิตก็ทำไปนะ
หลวงพ่อกำลังพูดถึงผู้ที่กำลังแสวงหาอารมณ์สบายและหลวงพ่อกำลังจะบอกว่า ไม่ต้องไปแสวงหา แค่เราทำใจหยุดนิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรเลย นิ่งเฉย ๆว่าง ๆ เป็นคนไร้อารมณ์ ตรงไหนก็ได้ โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงฐานต่าง ๆ ก็ได้ นิ่งอย่างนั้นไปก่อน เดี๋ยวอารมณ์สบาย อารมณ์ดี ๆ ที่เราปรารถนาจะมาเอง
ซึ่งสิ่งนี้หลวงพ่อก็เคยพูดผ่าน ๆ มาแล้ว คนเก่าก็เข้าใจ แต่คนมาใหม่ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นให้ทำตามที่หลวงพ่อแนะนำคือให้นิ่ง ๆ เฉย ๆ ว่าง ๆ
ต้องจำนะลูกนะ อย่าฟุ้งจนลืมฟัง อย่าฟังผ่าน อย่าดูเบาคำแนะนำที่ง่าย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเลย สำคัญนะตรงนี้ ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ตอนนี้ เดี๋ยวทำไม่ถูกวิธีแล้วมันจะยาก จะพลอยให้เราเบื่อการปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้นต้องรีบทำความเข้าใจกันเสียก่อน
ให้ใจนิ่ง ๆ นุ่ม ๆ ละมุนละไม ตรงไหนก่อนก็ได้ โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงฐานต่าง ๆ เพื่อที่เราจะได้รู้จักคำว่า “อารมณ์สบาย” ซึ่งมัน
จะมาเองเมื่อเราไม่แสวงหาอะไร ไม่ปรารถนาอะไร แค่นิ่ง ๆ หยุดกับนิ่ง นุ่ม ๆ ละมุนละไม เดี๋ยวอารมณ์สบายมาเอง เอาตรงนี้ให้ได้เสียก่อนนะลูกนะ สำหรับบางท่าน ไม่ใช่ทุกท่าน เดี๋ยวจะเหมา
เอาว่าจะต้องย้อนกลับมาทำอย่างนี้ ไม่ใช่ เอาเฉพาะคนที่ติดตรงนี้หลวงพ่อก็จะได้แนะนำแก้ไข ส่วนใครทำไปถึงตรงไหนได้แล้วก็ทำต่อไป ใครยังไม่ได้ก็เอาตรงนี้ก่อน
เราจะสังเกตพบข้อแตกต่างสำหรับผู้มาใหม่กับผู้มาตั้งนานผู้มาตั้งนานฟังแล้วผ่าน ไม่ค่อยเอาไปทำตาม จึงทำได้นานแต่ว่าไม่ได้ผล แต่ผู้มาใหม่นั้นเขาไม่มีความรู้อะไร เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ฟัง
ผ่าน ฟังแล้วก็ทำตามที่แนะนำอย่างง่าย ๆ เพราะเขาไม่รู้อะไรเลย
เหมือนเราซื้อตั๋วดูภาพยนตร์ในโรงหนัง เราก็ไม่รู้เรื่องว่ามันจะดำเนินไปอย่างไร เราก็ดูเท่าที่มีให้ดูแล้วก็ติดตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ ไม่ช้าก็จบเรื่อง ได้รับความบันเทิงใจ ผู้มาใหม่ก็จะทำ
อาการคล้าย ๆ อย่างนั้น คล้าย ๆ กับผู้ที่ไปดูหนังที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนเพราะฉะนั้นเขาจะฟัง ฟังแล้วก็จะจำ จำแล้วก็จะทำ จะง่าย
ส่วนผู้อยู่มานาน ฟังผ่าน หรือบางทีฟุ้งจนลืมฟัง หรือบางทีคิดว่าไม่สำคัญ ฟังมาจนเคยชิน แต่ไม่ได้ทำตาม ดังนั้นผู้มาใหม่มักจะมีประสบการณ์ที่ดีกว่า ส่วนผู้มานานแล้วมักจะจับให้มั่นคั้นให้
ตาย เอาจริงเอาจังกัน เอาลูกนัยน์ตากดไปดูกลางท้อง ขะมักเขม้นจริงจัง เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้ผลเพราะทำไม่ถูกวิธี ดังนั้นวิธีที่ถูกต้องอย่างนี้นะลูกนะ
คืนนี้ก็เช่นเคย ใครเหนื่อย ใครง่วง ใครเพลีย ใครตึง ก็ปล่อยให้มันหลับในกลางอู่แห่งทะเลบุญ พอสดชื่นแล้วเราก็ตื่นขึ้นมา
ปฏิบัติธรรมต่อ ใครเมื่อยก็ขยับเบา ๆ อย่าให้ไปสะเทือนคนข้างเคียงเขา ใครฟุ้งหยาบก็ลืมตามาดูดวงแก้วใส ๆ พระแก้วใส ๆ หรือหลวงปู่ฯคุณยายอาจารย์ฯ เป็นต้น พอใจสบายแล้ว เราก็หลับตาใหม่
อย่างเบา ๆ
ส่วนใครฟุ้งละเอียดก็ไม่ต้องลืมตา แค่ทำเป็นรู้แล้วไม่ชี้ในเรื่องราวต่าง ๆ ที่มันผุดผ่านเข้ามาในใจ ไม่ช้าใจก็จะหยุดนิ่ง ทำอย่างนี้นะลูกนะ ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยกันทุกคน ต่างคนต่างทำกันไปเงียบ ๆ
เสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕
จากหนังสือ ง่ายเเต่ลึก เล่ม 1
โดยคุณครูไม่ใหญ่