อยู่ที่แก้ไข

วันที่ 09 ธค. พ.ศ.2563

อยู่ที่แก้ไข

631209_b.jpg

 

                  คนที่ถูกตลอด คือ คนไม่เคยทำงานสักนิด

                  คนที่ทำผิด คือคนที่ติดกับงานเสมอ

                  แต่เมื่อพลาดพลั้ง เผลอ

                  จะต้องอยู่ที่แก้ไข

 

            การพลาดพลั้งผิดไป เป็นเรื่องที่สามัญที่เกิดขึ้นได้ ทุกขณะของการทำงาน ด้วยไม่มีใครหยั่งรู้ได้ตลอด ถึงเหตุการณ์ข้างหน้า ไม่มีใครคาดเดา หรือการกระทำของ อีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างเหมือนกับใจของตัวเอง ซ้ำยังไม่มีใคร รู้อีกด้วยซ้ำว่า ใคร คนไหน จะลึกล้ำ เก่งกล้า จะดำดิน ด้วยเลห์มายาอย่างไร

 

           ดังนั้น การทำงานทุกชนิด ทุกอย่าง จึงประหนึ่ง การก้าวเดินไปในหนทางใหม่ แม้จะเคยชินในสายงานนั้น แต่ก็เหลือวิสัยที่จะคาดเดาถึงเหตุบังเอิญที่อาจเกิดขึ้นเมื่อ ใดก็ได้เพราะการทำงาน การตัดสินใจ ในแต่ละครั้งนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนผล หรือกระบวนการต่างหาก ที่เต็มไปด้วยตัวรวม ตัวแปรอีกมาก ที่ไม่มีผู้ใดสามารถ ประมาณการได้ถูกต้องเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็น

          ความผิดพลาด จึงเกิดขึ้นได้เสมอ

 

          แน่นอน อาจเกิดขึ้นจากความประมาท หรือ การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็คือบทสรุปของข้อความที่กล่าวไว้ใน สองหน้าข้างบน

 

          ทีนี้ เมื่อความผิดเกิดขึ้น ความสับสน วิตก ปัญหา ย่อมจะประดังเข้ามาให้แก้ไข วิธีที่จะทำให้ปัญหาเล็ก หรือใหญ่ผ่านไปด้วยดีนั้น มีอยู่หลายอย่าง ตามแต่ความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร ตามแต่ความเหมาะสมของแต่ละ สายงาน สายอาชีพ แต่สิ่งหนึ่งที่อาจนำไปใช้ได้ในทุกๆ ปัญหา ทุกๆ สายงาน คือการแก้ไขลงไปในที่ปัญหา เพราะใน หลักจิตวิทยาก็เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้วว่า ในขบวนการของความ ผิดทั่วไปทั้งหลายในโลกนั้น ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ ที่ตกอยู่ในความผิดนั้นจริงๆ โดยเฉพาะ ตัวที่ทำให้เกิดความผิด หรือการตัดสินใจผิดในงานนั้นมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว และถ้าหากเป็นความผิดที่ไม่ถึงระดับร้ายแรง สิ่งที่ควรกระทำ ที่สุดเป็นประการแรก คือมุ่งที่วิธีจัดแก้ไขก่อนเป็น ประเด็นสำคัญ

 

              ส่วนจะให้วิธีแก้ดำเนินไปอย่างสะดวกใจนั้น ผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมาบริหารใจของตัวเองเสียก่อน ให้เป็นผู้ปล่อยวางความโกรธเคือง ความไม่พอใจลงได้

 

               รีบเร่งกลับใจของตน และผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่ออยู่ตรงกลาง มองเหตุผลอย่างเป็นกลางให้เต็มที่ เพื่อให้ตนเองและทุกคนมุ่งมองไปที่ตัวปัญหา และการแก้ไข อย่าพึ่งเพ่งเล็งหรือมองไปที่ตัวบุคคล เพราะอาจจะทำให้ เกิดความเสียหายกำลังขึ้นได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่ตั้งใจทำงาน แต่บังเอิญพลาดไปด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม

 

              ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ที่พลาดเกิดกำลังใจ ขวัญไม่เสีย และช่วยแก้ไขในระบบ ในขบวนการได้ เพราะแน่นอนที่สุด ผู้ที่พลาดมักจะรู้เหตุดี และรู้ในขบวนการนั้นพอสมควร ถ้าหากทำให้ต้นปัญหา หาทางแก้ไขได้อย่างสบายใจ แล้วปัญหาก็จะคลี่คลายได้ง่าย และเร็วกว่า

 

            ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ย่อมเกิดขึ้นอยู่กับเพื่อนฝูง และผู้บัง คับบัญชาเป็นสำคัญ

 

           และถ้าเป็นเช่นนั้น ปัญหาหนักหนาเพียงใด ความผิดมากมายแค่ไหน ก็จะผ่านไปได้แน่ๆ

 

           ครั้นเมื่อการแก้ไขผ่านพ้นไปแล้ว จึงสมควร กลับมามองกันที่ตัวบุคคล มองด้วยใจที่เป็นกลางที่สุด ผู้บังคับบัญชาจะต้องรู้จักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักประมาณความสามารถ ความเข้าใจ และพื้นฐานของผู้ใต้บังคับ บัญชาได้เป็นอย่างดี

 

           ที่ต้องเป็นเช่นนี้ ก็เพราะจะได้ปรับการวางตัว บุคคลใหม่ ปรับระเบียบวิธีใหม่ ให้คล่องตัวขึ้น และให้โอกาสของความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ยากกว่าเดิม

 

           สำคัญที่สุด จะต้องไม่มีลงทัณฑ์กัน ว่ากล่าว ดูถูกดูแคลนกัน นอกเหนือไปจากกระบวนการในงาน เมื่อพ้นภาวะของงานแล้ว ขอให้ทุกคนกลับเข้าสู่ความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เหมือนที่เคยเป็นมา ด้วยความชุ่มชื่นใจ

 

          อย่างนี้แล้ว ความสำเร็จจะหนีไปไหนหาก ขบวนการ สายงาน ทุกคนเต็มไปด้วยความเข้าใจต่อกัน

 

 

กุญแจใจ

เกษมสุข ภมรสถิตย์

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0017114837964376 Mins