วิธีรับศิษย์
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามภิกษุ ผู้เป็นศิษย์ของพระอุปเสนวังคันตบุตรรูปหนึ่ง
ดูก่อนภิกษุ ผ้าบังสกุลเป็นที่พอใจของเธอหรือ
(ภิก.) : ผ้าบังสุกุลมิได้เป็นที่พอใจของข้าพระพุทธเจ้าเลย พระพุทธเจ้าข้า
ก็ทำไมเธอจึงได้ทรงผ้าบังสุกุลเล่าภิกษุ
(ภิก.) : พระอุปัชฌายะของข้าพระพุทธเจ้าทรงผ้าบังสกุล ข้าพระพุทธเจ้าจึงต้องทรงผ้าบังสกุลอย่างนั้นบ้าง พระพุทธเจ้าข้า
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามท่าน พระอุปเสนวังคันตบุตรว่า
ดูก่อนอุปเสน บริษัทของเธอนี้น่าเลื่อมใสนัก เธอแนะนำบริษัทอย่างไร
(อุป.) : พระพุทธเจ้าข้า ผู้ใดขออุปสมบทต่อข้าพระพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าบอกกับเขาอย่างนี้ว่า
อาวุโส ฉันเป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
ถือบิณฑบาตเป็นวัตร
ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
ถ้าท่านจักถืออยู่ป่าเป็นวัตร
ถือบิณฑบาตรเป็นวัตร
ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตรบ้าง
ฉันก็จักให้ท่านอุปสมบทตามประสงค์
ถ้าเขารับคำของข้าพระพุทธเจ้า ๆ จึงให้เขาอุปสมบท
ถ้าเขาไม่รับคำของข้าพระพุทธเจ้า ๆ ก็ไม่ให้เขาอุปสมบท
ภิกษุใดขอนิสัย* ต่อข้าพระพุทธเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าบอกกับภิกษุนั้น อย่างนี้ว่า
อาวุโส เราเป็นผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร...ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
ถ้าภิกษุนั้นรับคำของข้าพระพุทธเจ้า ๆ จึงจะให้นิสัย
ถ้าภิกษุนั้นรับคำของข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้
ข้าพระพุทธเจ้าก็ไม่ให้นิสัย
ข้าพระพุทธเจ้าแนะนำบริษัทอย่างนี้แล พระพุทธเจ้าข้า
ดีแล้ว ดีแล้ว อุปเสน เธอแนะนำบริษัทได้ดีจริงๆ
วินัยปิฎก มหาวิภังค์ มก. เล่ม ๓ หน้า ๙๐๕
*นิสัย : การขอให้ท่านเป็นที่พึ่ง เพื่อช่วยแนะนำอบรมสั่งสอนตน