Agile เเนวคิดการทำงานขององค์กรยุคใหม่

วันที่ 08 กพ. พ.ศ.2565

Agile เเนวคิดการทำงานขององค์กรยุคใหม่

               Agile คือ ความหมาย-หลักการ-แนวคิดในการทำงานแบบใหม่ เน้นด้านการสื่อสาร และการปรับปรุงพัฒนาระบบ คือ

              “ทีมงานต้องรับฟังข้อเสนอแนะ หรือผลตอบรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุด” แล้วเร่งนำมาปรับปรุงระบบ ถ้าชักช้าจะไม่ทันคู่แข่ง

8-2-65--1.jpg

                 ยกตัวอย่างหลายบริษัทจะออกซอฟต์แวร์เวอร์ชันทดลองใช้ก่อน เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งได้ทดลองใช้ แล้วรอผลตอบรับว่าควรปรับปรุงเพิ่มเติมตรงจุดใดบ้าง

                 เรียกได้ว่า ไม่ต้องรอให้เสร็จสมบูรณ์แบบไร้ที่ติก่อนจึงออกสู่ท้องตลาด แต่ออกก่อนเพื่อให้ได้รับกระแสตอบรับแล้วพัฒนาต่อได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

                “ทีมงานต้องเปิดใจยอมรับข้อผิดพลาดและข้อเสนอแนะเสมอ” บางคนอาจจะตั้งใจทำงานเต็มที่ พอมีคนมาตำหนิว่าผลงานของตนเองไม่ตอบโจทย์ ก็อาจจะรู้สึกผิดหวังได้ แต่ก็ต้องยอมรับข้อผิดพลาด แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไขตามความต้องการของผู้บริโภคต่อไป

                      ทีมงานร่วมกันใช้ต้นทุนให้น้อยที่สุดเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
 

8-2-65--2.jpg

                  ซึ่ง Agile เน้นการทำงานแบบรวดเร็ว ผลิตผลิตภัณฑ์ออกมาบุกตลาด ดังนั้น ต้องใช้ต้นทุนมาก อาจมีบ้างที่ติดปัญหาเรื่องการระดมทุนในระหว่างการทำงานลองผิดลองถูก ถ้าใช้ทุนมากเกินไปก็ยากที่จะเดินหน้าต่อ

                      ทีมงานต้องหมั่นพัฒนาระบบเดิมอยู่เสมอ
 

                   ไม่ใช่ทำแต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพียงเท่านั้น บางครั้งทีมงานพึงพอใจในระบบเดิมที่ดีอยู่แล้วมานาน จนเผลอละเลยไปในการพัฒนาระบบ มัวแต่ทุ่มเวลาไปกับการสร้างระบบใหม่ๆ ดังนั้น อะไร ๆ ที่คนรุ่นเก่าทำไว้ดีอยู่แล้ว เราไม่ควรละทิ้ง แต่ควรนำไปพัฒนาต่อยอดให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นต่อไป

                      ทีมต้องรู้ว่าตนเองทำงานเพื่ออะไร
 

                  ไม่ใช่ทำตามคำสั่งหัวหน้าทีมเท่านั้น ซึ่งการที่หัวหน้าทำให้ลูกทีมรับรู้ถึงความสำคัญของตนเองว่าเขาทำงานไปเพื่ออะไร จะทำให้ลูกทีมมีกำลังใจอยากทำงาน เพราะทำแล้วมีประโยชน์ ผลงานถูกนำไปใช้จริง สร้างกำลังใจให้เกิดแก่คนทำงาน

                   นอกเหนือจากจะมีกำลังใจแล้ว ถ้าสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป เขาจะรู้วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่า ควรทำอย่างไรต่อไป และสามารถตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานได้ทันท่วงที

8-2-65--3.jpg

                การทำงานแบบ Agile ที่องค์กรระดับผู้นำในโลกดิจิทัลใช้กัน คือ การทำงานแบบทีละก้าวเล็ก ๆ โดยเน้นผลลัพธ์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก

             ทุกคนในทีมงานร่วมมือร่วมใจกัน สื่อสารกันอย่างทั่วถึง เพื่อผลิตชิ้นงานมาให้ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ แล้วทำงานให้สำเร็จโดยเร็ว เป็นการประหยัดต้นทุน ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยเงินจำนวนมหาศาล

                อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการทำงานระบบ Agile คือ ความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างคนทำงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ระดับกลาง หรือผู้ปฏิบัติการระดับล่าง

                  ในทางโลก มีการจัดการกับวิธีการบริหารใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งสถาบันด้านธุรกิจที่หมั่นคิดค้นวิจัยรูปแบบการบริหารให้เหมาะกับยุคสมัยและได้ผลดี รวมถึงสถาบันการศึกษา ครูอาจารย์ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจ ก็ร่วมกันคิดค้นรูปแบบการบริหารที่ได้ผลและเข้ากับยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง  สิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยีก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะ

8-2-65--4.jpg

                แต่หลักการบริหารที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วไม่เคยเปลี่ยนตลอดระยะเวลา ๒,๕๐๐ กว่าปี เพราะสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้นั้นคือสัจธรรม เป็นความจริงที่อยู่คู่โลก มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ “หลักธรรมาธิปไตย” คือ ยึดถือธรรมและความถูกต้องเป็นใหญ่

                  สิ่งบั่นทอนที่จะทำให้เราไม่สามารถยึดถือธรรม หรือความถูกต้องเป็นหลักได้ ได้แก่ ตัณหา มานะ และทิฏฐิ ทั้งหมดนี้รวมเรียกว่า “ปปัญจธรรม ๓” แปลว่า “ธรรมเป็นเครื่องเนิ่นช้า” ซึ่งเป็นตัวถ่วงความเจริญ เหตุที่ทำให้ผู้บริหารไม่ยึดถือธรรมเป็นใหญ่เกิดจาก

                “ตัณหา” คือ ความอยาก เช่น อยากได้ประโยชน์ส่วนตน เกิดผลประโยชน์แอบแฝง การตัดสินใจจึงเบี่ยงเบนเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวหรือหมู่คณะ
                   “มานะ” คือ ความถือตัว เรามักจะเรียกคู่กับคำว่า
ทิฏฐิ” แต่ตัวมานะจริง ๆ คือ ความถือตัว ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ ความถือตัวก็จะยิ่งมีมากขึ้น พอมีอำนาจมาก ความถือตัวนี้จะยิ่งเกิดขึ้นมาก เกิดโอกาสผิดพลาดสูง ผู้นำที่ยังใช้ตาดูหูฟัง ยอมรับความคิดเห็นจากผู้คนรอบข้าง ถ้ามองในแง่ธุรกิจย่อมรอด

                 “ทิฏฐิ” คือ ความดื้อดึง ถึงจะรู้ว่าตนเองผิดพลาดแต่กลัวเสียหน้า ใครขัดไม่ได้ ดึงดัน ยืนกรานว่าตนเองถูกต้อง แล้วผลเสียก็เกิดตามมามากขึ้น

                  ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว รับรองว่าจะผ่านวิกฤติการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไปได้อย่างแน่นอน

เจริญพร
พระมหาสมชาย ฐานวุฒฺโฑ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.041768618424733 Mins